เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มี.ค.68 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยถึงกรณีที่นายอรรถชัย แจ้งอรุณ ทนายความของ ‘มาดามเมนี่’ หรือ ‘เมย์ วาสนา อินทะแสง’ นักธุรกิจสาวพันล้าน เดินทาง เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนบก.ป. ว่า วันนี้ทนายของเมย์วาสนา มาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยในวันที่ 11 มี.ค. เข้ามาให้ข้อมูล ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน วันนี้จึงจะต้องสอบหลายประเด็นเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าเป็นอย่างไร
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีออกหมายเรียก ดิว อริสรา นั้น ยืนยันว่ายังไม่ได้มีการออกหมายเรียก ซึ่งการที่มาดามเมย์ มากล่าวหาเป็นคดียักยอกทรัพย์ ในคดีลักษณะแบบนี้จะต้องใช้ระยะเวลาในการสืบสวนสอบสวน และต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียก อย่างไรก็ตามขอเวลาในการทำงานตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดก่อน เบื้องต้นจากการฟังข้อเท็จจริงตอนนี้เข้าข่ายเพียงข้อหายักยอกทรัพย์ ข้อหาอื่นยังไม่พบ
ซึ่งในวันนี้ทางดิว อริสรา จะส่งทนายความมาพบพนักงานสอบสวนในเวลา 11.00 น. ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเข้ามาในประเด็นไหน แต่มีการติดต่อเข้ามาเพื่อพบตำรวจ ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่าคดีนี้จะเป็นคดีแพ่งหรืออาญา ต้องดูรายละเอียดก่อน หากดิว อริสรา เอาของไปและเปลี่ยนแปลงเป็นทรัพย์สินของตัวเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต จะเป็นเรื่องการยักยอกทรัพย์ ซึ่งคดียักยอกมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนออกหมายเรียกก่อน เว้นแต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง หรือหนีไปแล้ว ก็สามารถออกหมายจับได้เลย ซึ่งคดียักยอกทรัพย์สามารถยอมความได้ ถ้าตกลงกันได้ไม่ว่าด้วยกรณีใด ถ้าผู้เสียหายถอนความร้องทุกข์ คดีอาญาก็จบ
ส่วนทรัพย์สินของมาดามเมนี่ ตกไปอยู่กับบุคคลที่ 3 จะมีความผิดหรือไม่นั้น พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ความผิดเดิมถ้าเป็นเรื่องยักยอก สิ่งของนั้นไปอยู่กับบุคคลที่3 ก็จะต้องตรวจสอบก่อนว่าบุคคลที่3รู้หรือไม่ หากรู้ว่าทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์ของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ของผู้ที่เอามาให้ และเป็นการยักยอกทรัพย์หรือลักทรัพย์นั้น ก็ต้องขอตรวจสอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับบุคลคลที่ 3 แต่หากรู้และมีพฤติกรรมซ่อนเร้นเอาไว้ ก็จะเข้าข่ายรับของโจร ทั้งนี้อยู่ที่เจตนาของบุคคลที่สามว่ารู้แล้วแสดงความบริสุทธิ์ใจอย่างไร
อย่างไรก็ตามถ้าทรัพย์สินพิสูจน์ได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่มาจากการกระทำความผิดทางตำรวจก็สามารถยึดได้เลย และหากผู้ที่ครอบครองทรัพย์สินตอนนี้ หากทราบว่าตอนนี้เป็นทรัพย์ของมาดามเมนี่ ก็สามารถนำมาคืนให้กับตำรวจได้ ส่วนความเสียหายก็ไปฟ้องไล่เบี้ยกับ ดิว อริสรา ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการเรียกบุคคลที่ 3 เข้าพบ แต่หากตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินไปอยู่ที่ใครก็จะต้องเชิญมา แต่ขณะนี้ยังไม่มีบุคคลที่ 3 ติดต่อเข้ามาแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่จะต้องเชิญ ดิว อริสรา เข้ามาให้ปากคำหรือไม่หลังจากที่ตอนนี้อยู่ที่ไต้หวัน พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า ก็เป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา หากตรวจสอบพบเป็นการกระทำความผิดและมีการออกหมายเรียกแล้ว แต่ยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน และผู้ถูกกล่าวหายังอยู่ต่างประเทศจะเข้าข่ายหลบหนี แต่อย่างไรก็ตามจะต้องดูมูลเหตุก่อน อาจจะติดภารกิจยังไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ก็ต้องให้ความเป็นธรรม
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตธุรกิจของ ดิว อริสราจะเป็นธุรกิจสีเทาหรือไม่นั้น เบื้องต้นขอตรวจสอบเรื่องที่มาดามเมนี่ มาแจ้งความก่อน
เมื่อถามว่ากังวลว่าทรัพย์สินของมาดามเมนี่ จะตามกลับมายากหรือไม่ พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า คดีนี้ทรัพย์สินเป็นชิ้นๆ ไม่ใช่เส้นทางการเงิน ผู้ที่ถูกกล่าวหาจะต้องแจ้งข้อมูลว่าทรัพย์สินไปอยู่ที่ใครบ้าง
และที่มีกระแสข่าวว่ามีทรัพย์สินที่ไปสร้อยเพชรไปอยู่ที่รัฐมนตรี พ. ตำรวจจะลำบากใจในการทำคดีหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ลำบากใจ หากรู้ว่าทรัพย์สินอยู่ที่ใดก็จะต้องเรียกบุคคลนั้นมา ไม่จำกัดว่าเป็นใคร ทั้งนี้หลังจากนี้จะมีการเรียกมาดามเมย์มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเองอีกครั้ง