วันที่ 20 มี.ค.68 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีเรื่องแก๊ง Call Center ว่า อีกไม่กี่วันแล้วในเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่รอบนี้เอาภาพรวมแล้วกัน ไม่ได้เจาะไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ยืนยันว่ารอบนี้สะเทือนแน่นอน

"คงไม่ได้มาพูดให้ดูน่าตื่นเต้น ผมยืนยันว่าผมได้เห็นข้อมูล แล้วผมค่อนข้างมั่นใจ ว่ารอบนี้คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกฯเหนื่อยแน่นอน เพราะหลักฐานหลายๆอย่างค่อนข้างมัดตัว และมัดตัวชนิดที่ว่าผมนึกไม่ออกว่าคุณแพทองธารจะดิ้นหลุดได้อย่างไร ฉะนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ผมเชื่อว่าประสิทธิภาพของการอภิปราย จะส่งผลสะเทือนต่อรัฐบาล"นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่ต้องการล้มรัฐบาล แต่ก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ว่ากันไปตามปัญหาที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ก่อเอาไว้ อย่าไปคิดว่าน.ส.แพทองธารทำหน้าที่มาไม่กี่เดือน แล้วมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั่นไม่ใช่ แต่ต้องบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ ในยุคสมัยของน.ส.แพทองธารมีความต่อเนื่องมาตั้งแต่ในอดีต ตั้งแต่ยุคของนายเศรษฐา ทวีสินจนถึงปัจจุบัน บานเรื่องอาจจะทำไปโดยที่น.ส.แพทองธารก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

เมื่อถามว่า จะสะเทือนเหมือน เรื่องตั๋วช้างในอดีตหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อาจจะสะเทือนกว่าด้วยซ้ำไป เรื่องนั้นเป็นเพียงเชิงการรับรู้ แต่ครั้งนี้ในเชิงการเอาผิดทางกฎหมายชัดเจนมาก

เมื่อถามว่าหากหลักฐานชัดเจนจะถึงขั้นพรรคร่วมจะร่วมโหวตไม่ไว้วางใจหรือไม่  นายรังสิมันต์กล่าวว่าตนตอบแทนพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ แต่ปัญหาที่มีความไม่แน่นอนในระหว่างพรรคร่วมด้วยกัน ก็เป็นปัญหาของประเทศ ตนไม่อยากมองว่าเป็นแค่วาระทางการเมือง แต่อยากให้มองเห็นถึงวาระของประชาชน

"การที่พรรคการเมืองหนึ่ง อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลแต่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน และไม่ได้เห็นภาพของการบริหารราชการแผ่นดิน ไปในทิศทางเดียวกัน ผมคิดว่าสร้างปัญหามากมายให้เกิดขึ้น ฉะนั้นเมื่อเป็นแบบนี้เราก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ บางส่วนเราได้ข้อมูลมาจากใครก็ไม่รู้ล่ะ เราก็เอาข้อมูลเหล่านี้มา ใช้เป็นใบเสร็จในการเช็คบิล ต่อรัฐบาลอย่างแน่นอน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งหมด"นายรังสิมันต์กล่าว

เมื่อถามว่าข้อมูลที่ได้มาจากซีกฝั่งรัฐบาลหรือไม่นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ แต่เอาเป็นว่าเรามีข้อมูลหลายทาง ตนคงไม่กล้าที่จะยืนยัน ว่าข้อมูลได้มาจากใครบ้าง แต่ตนคิดว่าข้อมูลทั้งหมดมาจากหลายส่วน และทำให้เห็นเป้าของน.ส.แพทองธาร อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามว่าเวลาการอภิปรายแม้จะได้เพิ่มขึ้นแต่เป็นโจทย์ยากของฝ่ายค้าน เพราะมีช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนอาจจะไม่มีคนดูนั้น นายรังสิมันต์กล่าวว่า เรารู้อยู่แล้วว่ามีความพยายาม ที่จะทำให้เราไปอภิปรายตอนดึก ซึ่งเราไม่ได้กังวลและเชื่อว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นการอภิปรายที่สำคัญ และเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประชาชน คงจะไม่ได้ส่งผลกระทบมาก ขณะเดียวกัน วันนี้เครื่องมือสื่อสารหลายอย่างไม่น่าเป็นห่วงขนาดนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรตนคิดว่า สำคัญอยู่ที่การอภิปราย สำคัญอยู่ที่การทำหน้าที่ของทั้ง 2 ฝ่าย แล้วหวังว่าในเมื่อเราตกลงกันแล้วฝ่ายรัฐบาล ก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ตามกรอบที่ได้ตกลงกันเอาไว้และขอให้เคารพกติกา เคารพข้อตกลง

"ไม่อยากให้กลายเป็นว่าสุดท้ายประท้วงจนเวลาเกิน ซึ่งถ้าเวลาเกินตามที่ตกลงกันไว้ก็ต้องเพิ่มขึ้นอีก 1 วัน ดังนั้นถ้าจะฝ่ายปฏิบัติตามกติกา ผมคิดว่ามันก็เดินไปได้ และผมเชื่อว่าไม่ว่าดึกแค่ไหน พยานหลักฐานต่างๆที่เราได้นำเสนอ ยังไงตนก็เชื่อว่าจะอยู่ในการรับรู้ของประชาชนอย่างแน่นอน และเชื่อว่าพี่น้องสื่อมวลชนจะอยู่กับพวกเราตอนดึก"นายรังสิมันต์กล่าว