นายกฯ ใส่กางเกงลายปลายี่สกเมืองกาญจน์ ถก “คกก.ซอฟต์พาวเวอร์” พร้อมทุ่มงบ 150 ล้าน จัดสงกรานต์ชวนใส่กางเกงประจำจังหวัด-ดันไทยเป็นอาร์ทฮับเอเชีย บูมซอฟต์พาวเวอร์

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มี.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 โดยนายกฯ ใส่กางเกงลายปลายี่สก สัญลักษณ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรีและเสื้อสูทสีขาว พร้อมกล่าวว่า อยากให้ทุกคนช่วยโปรโมทซอฟต์พาวเวอร์ เรื่องกางเกงของทุกจังหวัด

ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกฯ และประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติพร้อมด้วย นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุม

โดยนายสรวงศ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดงานมหาสงกรานต์ หรือ Thai Water Festival ประจำปี 2568 ในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมใหญ่ที่สนามหลวง ตั้งแต่วันที่ 11-15 เมษายนนี้ ส่วนไฮไลท์ของงาน จะอยู่ในวันที่ 12 เม.ย.68 ซึ่งจะมีขบวนแห่คาร์นิวัลอย่างยิ่งใหญ่ โดยทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์มีการคิดและร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศ หรือ ททท.ในการทำให้ปีนี้เป็นปีแห่ง Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025  โดยจะใช้งบประมาณจากสำนักงบประมาณทั้งสิ้น 150 ล้านบาท

ด้าน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้มีออกมาตรการเพื่อรองรับซอฟพาวเวอร์ด้านศิลปะ โดยกรมสรรพากรมี 2 มาตรการ คลอบคลุมกลุ่มที่ซื้องานศิลปะและกลุ่มที่เป็นศิลปิน โดยกลุ่มที่ซื้องานศิลปะสามารถนำรายจ่ายที่ซื้องานศิปะ สาขาทัศนศิลป์ นำมาเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ถึง 1 แสนบาทต่อปี ในส่วนของศิลปินสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักในการคำนวณรายได้ภาษีบุคคลธรรมดาได้เพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 60% ในส่วนกรมศุลกากร จะมีการจัดตั้งเขตปลอดอากรประเภทหอศิลป์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการและจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนเมษายน 2568 ซึ่งมาตรการนี้จะทำให้เกิดการยกเว้นอากรขาเข้าให้กับศิลปะต่างๆ ทั้งเครื่องจักรอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการประกอบกิจการในเขตปลอดอากรประเภทหอศิลป์

“ขณะนี้เรากำลังดำเนินการพูดคุยเพิ่มเติมแก้ไขปัญหาและลดอากรของศิลปะที่จะนำเข้ามาในประเทศไทย ทั้งประเภทที่ไม่ได้นำมาเพื่อขาย นำมาเพื่อจัดแสดงในกิจกรรมต่างๆ และประเภทที่นำเขาเพื่อขาย ซึ่งขณะนี้เก็บภาษีอยู่ที่ 10% ซึ่งจะมีการหารือต่อไป เพื่อปรับเปลี่ยนให้มีการขับเคลื่อนตลาดการค้าขาย ตลาดการแสดงศิลปะประเภทเหล่านี้ให้เพิ่มมากขึ้น” นายจุลพันธ์​กล่าว

ทั้งนี้จะมีการผลักดันให้เกิดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการจัดงานแสดงศิลปะ การสร้างสรรค์งานศิลปะใหม่ๆ การซ่อมแซมงานศิลปะ การนำเข้าและส่งออกงานศิลปะ ซึ่งได้รับการยกเว้นอากร ทั้งหมดเพื่อขับเคลื่อนในไทยเป็น Art Hub ของเอเชียต่อไปในอนาคต