วันที่ 19 มี.ค.68 เพจ โหนกระแส โพสต์ข้อความระบุว่า...

จากกรณี ดร.เมย์ วาสนา อินทะแสง นักธุรกิจสาวชื่อดังได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อทวงคืนทรัพย์สินมูลค่า 62 ล้านบาท หลังจากพบว่าเจ้าของทรัพย์สินบางชิ้นที่เธอยืมให้กับดาราสาวถูกนำไปจำนำและขายต่อ โดยเธอเผยว่าของที่ยืมให้บางชิ้นมีมูลค่าทางจิตใจและมีคุณค่าอย่างยิ่ง ซึ่งเธอก็ยังไม่สามารถได้รับการคืนตามที่ตกลงกันไว้ หลังจากที่ได้พยายามติดต่อหลายครั้งและเคลียร์กับอีกฝ่าย

ในโพสต์ของเธอ เมย์ได้บอกถึงความเจ็บใจที่ต้องเจอกับสถานการณ์นี้และแสดงความเสียใจที่ยังไม่ได้รับของคืนตามที่ตกลงไว้ เธอยังโพสต์ข้อความที่เผยถึงความรู้สึกเสียใจอย่างลึกซึ้งหลังจากเห็นทรัพย์สินที่เธอให้ยืมถูกนำไปจำนำและขาย โดยระบุว่า “ตาสว่าง” หลังจากได้เห็นทรัพย์สินเหล่านั้น พร้อมทั้งกล่าวว่าเธอรู้สึกท้อแท้จนถึงขั้นล้มป่วยและไม่สามารถนอนหลับได้

เรื่องราวทั้งหมด เชื่อมโยงไปยัง ดาราสาว “ดิว อริสรา” ที่เป็นคนที่ยืมของแบรนด์เนมทั้งหมดไป และพยายามแย้งว่า เมย์ รู้ตั้งแต่แรกว่าเธอต้องเอาของที่ยืมเหลานี้ ไปวางค้ำเพื่อเอาเงินสดออกมา และเชื่อมโยงไปถึงอินฟลูฯ ดัง อย่าง “ซุง ศตาวิน” ที่เป็นเจ้าหนี้หลักของดิวด้วย

ประเด็นที่น่าสนใจในการพิจารณาว่าเป็นความผิดทางอาญาหรือแพ่ง ซึ่งมีประเด็นที่ต้องชี้ชัดเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

หากเมย์สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ที่ยืมทรัพย์สินนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เช่น การขายหรือจำนำทรัพย์สินที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของทรัพย์สิน นี่อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาโดยตรง ตามมาตรา 341-345 ของประมวลกฎหมายอาญา หากผู้ที่นำทรัพย์สินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยเจตนา ก็สามารถได้รับโทษจำคุกได้

ในกรณีที่ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดในทางอาญา เมย์อาจเลือกที่จะดำเนินคดีในทางแพ่ง โดยการฟ้องร้องเพื่อเรียกทรัพย์สินคืนหรือขอค่าเสียหายจากมูลค่าของทรัพย์สินที่สูญหายไป การฟ้องในทางแพ่งจะอาศัยหลักของการคืนทรัพย์สินหรือการจ่ายชดเชยตามสัญญาที่มีการทำไว้ โดยจะต้องมีหลักฐานและข้อกำหนดที่ชัดเจนจากทั้งสองฝ่าย

อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือเรื่องของการรับของโจร หากผู้ที่รับทรัพย์สินไปไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีสิทธิ์ครอบครองทรัพย์สินนั้น หรือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของในการรับทรัพย์สินมาไว้ครอบครอง ก็อาจถือเป็นการรับของโจร ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา ผู้ที่รับทรัพย์สินไปโดยไม่ถูกต้องอาจถูกฟ้องในฐานะที่รับของโจรตามกฎหมาย

ดังนั้น การดำเนินคดีในกรณีนี้จะต้องพิจารณาถึงเจตนาและข้อกำหนดที่มีการตกลงกันระหว่างเมย์กับผู้ที่ยืมทรัพย์สิน เพื่อชี้ว่าเป็นความผิดทางอาญาหรือแพ่ง และจะต้องหาทางแก้ไขข้อพิพาทนี้อย่างเหมาะสมตามกฎหมาย

ในวันนี้ รายการโหนกระแสได้ “เมย์ วาสนา” พร้อมทนายความ มานั่งในรายการ ขอให้นักเรียนทุกคนเข้าห้องเรียนพร้อมเพรียงกัน

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : เพจโหนกระแส