อนาถ ! หนุ่มพ่อค้าผักทองผาภูมิ กาญจนบุรี ควบรถกระบะจะรีบเอากระหล่ำปีไปส่งตลาดศรีเมือง ราชบุรี ระหว่างทางเกิดวูบหลับใน รถเสียหลักชนอัดก็อปปี้กับต่นไม้ ภรรยาวัย 60 ที่นั่งมาด้วยถูกอัดก็อปปี้เสียชีวิตคาซาก

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.11 น.ของวันที่ 18 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ชัยวัชริศ  สิงห์สังข์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ฯ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกผักเสียหลักชนต้นไม้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เสียชีวิต 1 รายติดภายใน เหตุเกิดบนถนนสายกาญจนบุรี-ทองผาภูมิบ้านจันเดย์ หมู่ 3 ต.ท่าขนุนฯ หลังรับแจ้ง จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ทองผาภูมิให้มาร่วมชันสูตรด้วย พบว่าเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพ-กู้ภัยของมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี จุดรอรับเหตุเขตทองผาภูมิ พร้อมหน่วยอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย ธน. 34-00 ฐานบุญวิภาจุดทองผาภูมิ และอาสาสมัครสมาคมคุณธรรม กำลังใช้เครื่องตัดถ่างซากรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโว่สีขาว หมายเลขทะเบียน 4ฒ. 9377 กรุงเทพมหานครฯ แบบกระบะบรรทุกมีคอก ซึ่งรถคันดังกล่าวบรรทุกผักกระหล่ำปลีมาเต็มคัน ซึ่งจอดรถอยู่ในสภาพเสียหลักพุ่งชนอัดก็อปปี้กับต้นไม้ข้างทางออก เพื่อนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตออกมาจากรถ และนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นคนขับรถส่ง รพ.ทองผาภูมิ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้หญิงคาดว่าน่าจะเป็นภรรยาของคนขับที่ได้รับบาดเจ็บรายนี้

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า 2 สามีถรรยาคู่นี้เป็นพ่อค้าผักชื่อนายราวี(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/48 หมู่ 6 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ส่วนภรรยาชื่อนางอมร(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201 หมู่ 7 ต.ท่าสะอาด อ.เซกา จ.บึงกาฬ นายราวี หลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยได้ช่วยเหลือนำตัวออกมาจากรถ และทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนจะนำตัวส่ง รพ.ทองผาภูมิ นายราวี ได้เดินเข้าไปดูเมื่อเห็นร่างภรรยาซึ่งถูกอัดก็อปปี้เสียชีวิตคาซาก นายราวี ถึงกับร้องไห้โฮปริ่มว่าจะขาดใจ 

โดยนายราวี เล่าว่า ตนกับนางอมรภรรยาได้ไปเก็บผักกระหล่ำปลีสดภายในไร่ที่บ้านทุ่งนางครวญ ต.ชะแล เพื่อจะไปส่งที่ตลาดศรีเมือง จ.ราชบุรี ยอมรับว่าขับรถเร็วเพื่อทำเวลาและมองหาปั้มน้ำมัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุอยู่ๆ ก็วูบไป รถเลยเสียหลักพุ่งชนอัดก็อปปี้กับต้นไม้ขนาดใหญ่อย่างจัง จนทำให้นางอมร ภรรยาเสียชีวิตคารถ หลังแพทย์ได้ทำการรักษาอาการบาดเจ็บของนายราวี เป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามสอบสวนปากคำนายราวีเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายดับนายราวีในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนศพของนางอมร ได้มอบใก้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพ-กู้ภัยของมูลนิธิฯ นำร่างไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป