“นายกฯอิ๊งค์” ลั่น “คุยกันก็จบ” ปมสหรัฐฯระงับวีซ่า “จนท.ไทย” เอี่ยวส่งตัว 40 อุยกูร์กลับจีน เข้าประเทศ “ทวี” ยันสหรัฐฯแค่เข้มงวด ไม่ถึงขั้นงดวีซ่า ไม่ถึงขั้นงด เผยมี “ตม.” ร่วมบินจีนพิสูจน์ตัวจริง

 

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 18 มี.ค.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศระงับวีซ่าเดินทางเข้าประเทศแก่เจ้าหน้าที่รัฐของไทยจากกรณีส่งอุยกูร์กลับจีนนั้น รวมถึงตัวของนายกฯ ด้วยหรือไม่ โดยน.ส.แพทองธาร ย้อนถามสื่อว่า มีไหมค่ะ

เมื่อถามย้ำว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดจึงอยากถามความชัดเจน นายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่มีนะคะ ยังไม่ทราบ” เมื่อถามว่า จะต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับสหรัฐฯ หรือไม่  นายกฯ กล่าวว่า จริงๆในเรื่องของข้อมูลให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยอธิบาย เราไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว จริงๆ เราไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว กับสหรัฐฯ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า ความเสียหายจากการถูกแบนครั้งนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ก็เดี๋ยวพูดคุยกัน ไม่ได้หนักหนาอะไร เราต้องพูดคุยกัน ถ้าเราพูดคุยกันก็จะโอเค

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมคณะไปเยือนประเทศจีน มณฑลซินเจียง พร้อม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม และสื่อมวลชน เพื่อติดตามความคืบหน้าและความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ 40 คนที่ส่งจากประเทศไทยกลับไป ประเทศจีนว่า ยืนยันว่าการพิจารณาส่งชาวอุยกรู์กลับไปยังประเทศจีน เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่าในรอบ 10 กว่าปี ประเทศไทย น่าจะทำผิดเรื่องของการทรมานและการกระทำที่โหดร้ายตามกฎหมายป้องกันการทรมานและการอุ้มหาย และรัฐบาลไทยต้องแก้ไขปัญหา ถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจส่งกลับประเทศจีน แต่ในกฎหมายการส่งกลับหากเชื่อว่าส่งไปทรมานหรือโดนกระทำที่โหดร้าย หรือทำให้สูญหาย ประเทศไทยก็จะมีความผิด จะเห็นได้ว่าอยู่ในประเทศไทยรัฐบาลก็เสี่ยงที่จะกระทำความผิด แต่เมื่อส่งกลับประเทศจีนก็ได้รับการรับรองจากรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นจดหมายทางการทูตและเพื่อให้เกิดความมั่นใจ รัฐบาลจีนก็เชิญชวนให้รัฐบาลไทยไปตรวจสอบได้ว่าที่ส่งกลับมายังประเทศจีนไม่ได้อยู่ในสภาพที่ทรมาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การตัดสินใจส่งกลับประเทศจีน เป็นเพราะไทยเราถูกบีบจากหลายภาคส่วนใช่หรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า เราคำนึงจากหลักมนุษยธรรมและความเป็นมนุษย์ อีกทั้งเรามีขีดจำกัดในเรื่องของข้อกฎหมาย เพราะหากจะปล่อยเขาเราก็ทำผิดกฎหมายของไทย ซึ่งทางคณะกรรมการได้พิจารณาในเรื่องนี้แล้วว่า การส่งกลับไปเขาจะไม่ได้รับการทรมานหรือถูกฆาตกรรม อีกทั้งประเทศไทยเรามีอำนาจอธิปไตยและเราคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม หากปล่อยสภาพเช่นนี้ไปเขาจะถูกทรมานไปเรื่อยๆ

เมื่อถามถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าชาวอุยกูร์ที่จีนนำมาให้ ตรวจสอบเป็นตัวจริงใน 40 คนที่เราส่งกลับไปล่าสุด พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรามีเจ้าหน้าที่ ตม.ไปด้วย ที่ดูแลชาวอุยกูร์และอยู่ด้วยกันมาตลอด 10 ปี และเขามีความรู้จักกันเป็นอย่างดี  เมื่อถามอีกว่า จะมีการพบชาวอุยกูร์ที่เคยส่งไปในปี 2557 ด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในการเดินทางครั้งนี้จากการสอบถามทางการจีนได้มีการเชิญชวนเข้ามาประมาณ 10 คน ซึ่งทางรัฐบาลจีนส่งให้ สมช.ดูเป็นวิดีโอและรูปภาพยืนยัน และสมช.ส่งต่อให้ตม. และสิ่งนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ชาวอุยกูร์ทั้ง 40 คนตัดสินใจกลับประเทศจีน และทางตม. ยืนยันว่าเขาจำได้ทั้งหมด กลุ่มแรกที่ส่งไปและกลุ่มสองที่เพิ่งส่งกลับไปประเทศจีน

เมื่อถามว่า การเดินทางไปจีนและนำข้อมูลมายืนยันว่าเขาปลอดภัยดีจะทำให้ชาติตะวันตกเข้าใจมากยิ่งขึ้นหรือไม่ พ.ต.อ ทวีกล่าวว่า ประเทศไทยได้รับการยอมรับและเข้าเป็นอนุสัญญาการอุ้มหาย ซึ่งเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่สหประชาชาตินั้นยอมรับ โดยสหประชาชาติเองได้เคยระบุว่าคนที่อยู่ในห้องกักขังเข้าข่ายทรมาน จึงอยากให้เข้าใจการตัดสินใจของรัฐบาลไทย เราไม่ได้ให้น้ำหนักไปยังประเทศใดหรือประเทศหนึ่ง แต่คำนึงถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของชาวอุยกูร์

เมื่อถามว่า หลักฐานที่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ จะสามารถทำให้สหรัฐฯชะลอการจำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่ไทยที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวชาวอุยกูร์ทั้ง 40 คนหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ประเด็นนี้อาจอยู่นอกเหนือการเดินทางไปจีน แต่กระทรวงการต่างประเทศต้องทำความเข้าใจ เราเคารพในทุกมุมมองของแต่ละประเทศ ดูจากถ้อยแถลงของสถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยจะเข้มงวดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการส่งกลับชาวอุยกูร์ ทั้ง 40 คน ไม่ได้เป็นการห้ามวีซ่า อีกทั้งรัฐบาลไทยถูกตำหนิมาโดยตลอด อยู่ในสภาพปล่อยให้ 40 ชาวอุยกรู์อยู่ในสภาพที่ทรมาน