วันที่ 18 มี.ค.2568 เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3 นำโดย พ.ต.ท.ทรงพล อาวพิทักษ์ รอง ผกก.2 บก.ปส.3 ,พ.ต.ท.วีรศักดิ์ รัตนประยูร สว.กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ทหาร นบ.ยส.35  นำตัว นายวัฒนา (สงวนนามสกุล)  อายุ 42 ปีชาว  ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก และ  นายธนภูมิ (สงวนนามสกุล)  อายุ 30 ปี ชาว ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปขยายผลตรวจค้นที่บ้านพักของนาย ธนภูมิ ในพื้นที่ ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมทั้ง 2 คน ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนประมาณ 3 ล้านเม็ด 

โดยการจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.วันที่ 17  มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3  เจ้าหน้าที่ ทหาร นบ.ยส.35 ได้สืบทราบว่าจะมีเครือข่ายยาเสพติดนำโดย นายวัฒนา  ซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าม้ง  จ.ตาก  โดยมีพฤติกรรมลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อนำส่งให้กับเครือข่ายผู้ค้าในพื้นที่ตอนในของประเทศ ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตาม จนกระทั่ง พบนายวัฒนา ใช้รถยนต์ ทะเบียน กบ 6742 เชียงราย มารอรับยาเสพติดจากกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ออกติดตามจนพบรถยนต์โตโยต้า สีดำ ทะเบียน กบ 6742 เชียงราย ดังกล่าว จอดอยู่บริเวณหน้าห้องพักรายวัน อยู่ภายในซอย ถนนริมโขง ซอย 4 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการณ์  พบ นายธนภูมิ ขับขี่ จักรยานยนต์ โดยมี นายวัฒนา ซ้อนท้าย จากนั้น นายวัฒนา ได้เดินไปที่รถยนต์รถยนต์โตโยต้า สีดำ ทะเบียน กบ 6742 เชียงราย  เปิดประตูและขึ้นไปนั่งด้านคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น 

จากการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) อยู่ภายในห้องโดยสาร และ กระโปรงท้ายรถ ส่วน นายธนภูมิ  ได้ขับรถจักรยานยนต์ หลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่ บริเวณ ริมทางหลวง 1129 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาสอบปากคำ และได้นำตัวไปขยายผลการจับกุม โดยได้นำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักของนายธนูมิ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชนอันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ก่อนจะนำตัว  ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป