นายกฯ แพทองธารแถลงจับบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่สุดในประเทศ พื้นที่บางบัวทอง มูลค่า 130 ล้าน เร่งทำลาย-ขยายผลถึงตัวการ
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยน.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเดินทางมายังจังหวัดนนทบุรี เพื่อแถลงข่าว หลังจากที่ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผช.ผบ.ตร., และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี, นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และฝ่ายปกครอง เปิดปฏิบัติการ “Operation 9 จุด” เพื่อตรวจค้นและทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ
โดยการบุกตรวจค้นโกดัง 2 แห่งในซอยเจริญสุขวิทยา อ.บางบัวทอง ซึ่งอยู่ห่างจาก สภ.บางบัวทองไม่ถึง 200 เมตร พบว่าโกดังดังกล่าวถูกใช้เป็นศูนย์กลางนำเข้าและกระจายบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 100 เครือข่ายทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังพบว่า มีโกดังอีก 2 แห่งในพื้นที่ สภ.บางบัวทอง และ สภ.ชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นของเครือข่ายเดียวกันและใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้า ภายในโกดังเจ้าหน้าที่พบของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่า 200,000 ชิ้น โดยสินค้าเหล่านี้ถูกบรรจุในกล่องลังกระดาษ พร้อมติดป้ายราคาและรายละเอียดสินค้า บางส่วนเป็นสินค้าพรีเมียมที่บรรจุแบบ Box Set ซึ่งใน 1 กล่องมีบุหรี่ไฟฟ้า 10 เครื่อง
ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ จนสามารถจับกุม และทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่ ที่กำลังจะกลายเป็นยาเสพติดของเยาวชน ซึ่งหลังจากจับได้แล้ว ก็จะนำไปทำลายทิ้งให้สิ้นซาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมี กระบวนการในการทำลาย เช่นเดียวกับยาเสพติด นอกจากนี้ยังมีการประสาน อว. เพื่อเร่งให้ความรู้กับประชาชนที่แอบใช้บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งส่งผลโดยตรงกับสุขภาพ
พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มจากเจ้าหน้าที่ ตำรวจสืบสวน บก.สส.บช.น. (IDMB) ได้ติดตามเครือข่ายค้าบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายผ่านทาง เว็บไซต์ Vapequeenzstore.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มลักลอบขายสินค้าผิดกฎหมายให้บุคคลทั่วไป และกระจายสินค้าไปยังตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 100 ร้านค้าใน 4 ภาค จากการขยายผลพบว่า ตัวการสำคัญของเครือข่ายนี้คือบุคคลที่ใช้ชื่อ “แพท” ซึ่งเป็นผู้ลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทาง ชายแดนภาคใต้ ก่อนจะนำสินค้ามาพักไว้ที่โกดังใน จังหวัดนนทบุรีจำนวน 6 จุด ผลการตรวจค้นทั้ง 6 จุด เจ้าหน้าที่สามารถ ยึดของกลางได้รวมกว่า 260,000 รายการ ซึ่งประกอบไปด้วย บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 130 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ตำรวจสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 5 ราย ซึ่งมีบทบาทเป็น ผู้ดูแลโกดัง, ผู้รับหน้าที่ขนส่งสินค้า และฝ่ายจัดจำหน่าย โดยพบว่าเครือข่ายนี้มีการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายและซุกซ่อนไว้ในโกดังย่านกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนกระจายสินค้าไปยังโกดังในจังหวัดต่างๆ กว่า 100 จุด รวมถึงจำหน่ายผ่าน ช่องทางออนไลน์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลจะดำเนินการปราบปรามการค้าบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายอย่างจริงจัง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อเยาวชนและประชาชนจำนวนมาก พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้คนดูแลโกดัง และออกหมายจับเจ้าของโกดังแล้ว โดยเป็นคนไทยและอยู่ระหว่างการขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป, ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกี่ยวข้องกับ ชาวต่างชาติหรือไม่
อีกทั้ง พล.ต.ท.สำราญ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ตำรวจมีข้อมูลหรือไม่ว่าโกดังแห่งนี้เป็นของภรรยาตำรวจ พลตำรวจตรีนพศิลป์ ระบุว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด โกดังดังกล่าวเป็นโกดังที่ปล่อยเช่า มีเจ้าของเป็นผู้หญิง เป็นอดีตภรรยาตำรวจ แต่ผู้ต้องหาคือผู้ที่มาเช่า ซึ่งผู้ให้เช่าไม่ทราบ