อนุชิต หงษาดี นายก อบจ.นครพนม คนใหม่ เปิดแถงนโยบายผลักดันเปลี่ยนนครพนมเป็นเมืองหลักแห่งการพัฒนา เศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ทุกโครงการต้องตรวจสอบได้ ประชาชนต้องมีส่วนร่วม งบประมาณต้องใช้อย่างคุมค่า 

วันที่ 18 มีนาคม 2568  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม เริ่มทำงานทันที สำหรับ เบียร์ อนุชิต หงษาดี นายก อบจ.นครพนม คนใหม่ ทีมฮักนครพนม พรรคเพื่อไทย หลังจาก กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เป็นทางการ พร้อมมีการเปิดประชุม สภาครั้งแรก เพื่อเลือกประธานสภา รองประธานสภา และเลขานุการ ตามระเบียบ  โดย ว่าที่ ร้อยตรี พีรยุทธ ตั้งตระกูล ส.อบจ.เขต 2 อ.เมืองนครพนม ได้รับการโหวต นั่งประธานสภา อบจ.นครพนม เพื่อขับเคลื่อนการทำงาน ร่วมกับ ส.อบจ.นครพนม รวม 30 เขต ในพื้นที่ 12 อำเภอ

 

ทั้งนี้ อบจ.นครพนม มีการเปิดประชุม สภา อบจ.นครพนม สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2568 ครั้งที่ 1 / 2568 โดยมี  นายอนุชิต หงษาดี นายก อบจ.นครพนม ได้มีการแถลงนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนการทำงาน ตามนโยบายที่หาเสียงไว้ มีนโยบายสำคัญ คือ สิเฮ็ดดีเพื่อนครพนม ทุกด้าน เปลี่ยนนครพนมให้ดีกว่าเดิม จากเมืองรองเป็นเมืองหลัก แห่งการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า และการท่องเที่ยว ประกอบด้วย 1. สิเฮ็ดโครงสร้างพื้นฐานดี จัดทำถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก และถนนแอสฟัลท์ติกในอำนาจหน้าที่ของ อบจ. ถนนปลอดภัยมีไฟส่องสว่าง ติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรให้เพียงพอ สนับสนุนเครื่องกรองน้ำสะอาดในชุมชน 2. สิเอ็ดสาธารณสุขดี ยกระดับ รพ สต.และ อสม.ทั้งระบบ ปรับปรุงอาคาร รพ.สต.ให้ทันสมัยและมีบริการ ที่รวดเร็ว ส่งเสริมอาชีพ อสม. เพิ่มรถกู้ชีพรับ - ส่ง ผู้ป่วย ผู้เสียชีวิตให้เพียงพอ จัดให้มีกล่องสุขภาพ เครื่องมือปฐมพยายาลเบื้องต้น ให้ทันสมัย และเพียงพอ

ส่วน 3. สิเฮ็ดเศรษฐกิจดี ส่งเสริมการท่องเที่ยว กินดี เที่ยวดี พักผ่อนดี สนับสนุนวัฒนธรรม หมอลำ ดนตรี โปงลาง กระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริม 12 อำเภอ 12 แหล่งเที่ยว ส่งเสริมเอกลักษณ์ความเป็นไทย ลาว เวียดนาม จีน 4. สิเฮ็ดคุณภาพชีวิตดี จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมอาชีพผู้ติดยาเสพติด สนับสนุนให้มีครูสอนภาษาต่างประเทศ ปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนกีฬา อบจ.นครพนม ให้ควบคู่วิชาการ สนับสนุนครุภัณฑ์ทางการศึกษาให้แก่โรงเรียน ส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกร 

โดย นายอนุชิต กล่าวอีกว่า ทุกนโยบายจะต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ในพื้นที่ จะต้องใช้งบประมาณแบบไม่กระจุก จะต้องกระจายไปทุกพื้นที่ ให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด และงบประมาณจะต้องใช้อย่างคุ้มค่า โปร่งใส  สามารถตรวจสอบได้ มั่นใจนโยบายที่แถลงต่อสภา อบจ.นครพนม จะสามารถทำงานลุล่วงสำเร็จตามเป้าหมาย ในกรอบระยะเวลา 4 ปี  พร้อมทำงานทันที