การเมืองท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์ เลือกตั้งเทศบาล 61 แห่ง แบ่งเป็นเลือกนายกเทศมนตรี 55 แห่ง และเลือกสมาชิกสภาเทศบาล 61 แห่ง ขณะบรรดาว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล เริ่มมีความเคลื่อนไหวจับกลุ่มพูดคุยกัน มีความชัดเจนว่าใครจะไปอยู่กลุ่มไหน และเปิดตัวลงชิงชัย คาดว่าแนวโน้มการแข่งขันค่อนข้างสูง บางพื้นที่มีการแยกตัวจากกลุ่มการเมืองเดิมออกมาตั้งกลุ่มใหม่ ลงแข่งขันกันเอง
วันที่ 18 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้วยสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ที่ได้จัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 27 มีนาคม 2568 ซึ่งต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน นับแต่วันที่สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นดำรงตำแหน่งครบวาระ และเพื่อเป็นการเตรียมการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี คณะกรรมการการเลือกตั้งได้เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี โดยกำหนดวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 และจะรับสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2568 ถึง วันที่ 4 เมษายน 2568
สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ มีเทศบาลที่ต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ทั้งหมด 61 แห่ง แบ่งเป็นเทศบาลเมือง 5 แห่ง ได้แก่ เทศบาลเมืองชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์, เทศบาลเมืองบ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์, เทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง, เทศบาลเมืองลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ และเทศบาลเมืองประโคนชัย อ.ประโคนชัย ส่วนเทศบาลตำบล มีทั้งหมด 56 แห่ง ใน 23 อำเภอ โดยเทศบาล ทั้ง 61 แห่ง ที่ต้องจัดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี 55 แห่ง และจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล(ส.ท.) 61 แห่ง ซึ่งในขณะนี้ก็ได้มีความเคลื่อนไหวของการเมืองท้องถิ่นกลุ่มต่างๆ ทั้งที่สังกัดพรรคการเมือง ไม่สังกัดพรรคการเมือง และตั้งกลุ่มการเมืองขึ้นมาใหม่ ได้เตรียมทีมลงสมัครรับเลือกตั้งเทศบาลครั้งนี้
โดยในส่วนของว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรี 55 แห่ง และสมาชิกสภาเทศบาล(ส.ท.) ทั้ง 61 แห่ง ใน 23 อำเภอ ของจังหวัดบุรีรัมย์ ปรากฏว่า บรรดาว่าที่ผู้จะลงสมัครก็ได้มีการจับกลุ่มพูดคุยกัน และมีการเคลื่อนไหวกันบ้างแล้ว ซึ่งเริ่มมีความชัดเจนว่าใครจะไปอยู่กลุ่มไหน อีกทั้งเริ่มมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรี โดยเฉพาะที่ เทศบาลเมืองชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ได้มีกลุ่มการเมือง 2 กลุ่ม เปิดตัวลงสมัครนายกเทศมนตรี และสมาชิกสมาชิกสภาเทศบาล แล้ว
ทั้งนี้คาดว่าการเลือกตั้งเทศบาล ที่ จ.บุรีรัมย์ ทั้ง 61 แห่ง ครั้งนี้ มีแนวโน้มว่าจะมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงอย่างแน่นอน เนื่องจากบางพื้นที่มีการแยกตัวจากกลุ่มการเมืองเดิมออกมาตั้งกลุ่มการเมืองใหม่ เพื่อลงแข่งขันกันเอง โดยคาดการณ์ว่าผู้ลงสมัครนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล(ส.ท.) ครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สมัครหน้าเดิม ทั้งที่สังกัดพรรคการเมือง และไม่สังกัดพรรคการเมือง ที่ไม่มีการเปิดเผยตัวชัดจน แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งมีการไปจัดตั้งกลุ่มการเมืองขึ้นมาใหม่ และคัดสรรผู้สมัครเพื่อลงสมัครเลือกตั้งครั้งนี้