ครบรอบ 1 ปี ที่ปลาหมอสีคางดำเป็นกระแสในไทย จนถึงวันนี้ยังไม่มีการชี้ขาดว่าใครผิดใครถูก หรือการพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดแต่อย่างใด เป็นเพียงความรู้สึกและตีความโจมตีผู้นำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพียงรายเดียว หากได้ตรวจสอบข้อมูลเรื่องการแพร่ระบาดของปลาชนิดนี้ในต่างประเทศ จะพบว่ามีข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ และพฤติกรรมในตลาดปลาสวยงาม ซึ่งควรนำมาใช้ประกอบการพิจารณา เพื่อตรวจสอบว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดทั้งหมดคือใคร หรือแท้จริงแล้วมีปัจจัยอื่นที่เป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหานี้

ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ (Blackchin Tilapia) และข้อกล่าวหาที่มุ่งตรงมายังจำเลย (บริษัทเอกชน) หากแต่มีข้อมูลที่น่าสนใจด้านอื่นนอกเหนือจากการนำเข้าปลามาในประเทศ ควรพิจารณาหลักฐานอื่นประกอบการตัดสินอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะข้อมูลจากตลาดค้าปลาและรายงานการนำเข้าที่ชี้ให้เห็นว่า มีการซื้อขายปลาหมอสีคางดำในฐานะปลาสวยงามในหลายประเทศ และยังคงมีการขายอยู่ในบางตลาดภายในประเทศ แสดงให้เห็นว่า การนำเข้าปลาหมอสีคางดำเพื่อการค้าเป็นไปได้สูง และอาจเป็นต้นเหตุที่แท้จริงของการแพร่กระจายในธรรมชาติ จากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการค้าปล่อยปลาลงในแหล่งน้ำธรรมชาติเมื่อหมดความนิยมหรือปลาไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งกรมประมง มีตัวเลขการส่งออกปลาหมอสีคางดำของไทยระหว่างปี 2556-2559 แต่ไม่มีหลักฐานการนำเข้าแสดงให้เห็นว่าปลานี้มีการลักลอบนำเข้าด้วยเช่นกัน

สำหรับการเลี้ยงปลาหมอสีคางดำเป็นปลาสวยงาม มีหลักฐานว่าหลายประเทศมีการเพาะเลี้ยงปลาหมอสีคางดำเป็นปลาสวยงาม (Aquarium Market) และมีการซื้อขายกันในตลาดปลาสวยงามทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ประเทศในสหภาพยุโรป หรือในอาเซียนบางประเทศอย่างฟิลิปปินส์และเวียดนาม และไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยเพียงประเทศเดียว โดยสหรัฐอเมริกา มีประวัติการแพร่ระบาดของปลาในมลรัฐฮาวาย และใช้วิธีกำจัดจนสำเร็จในหลายรูปแบบทั้งจับและช็อตด้วยไฟฟ้า เป็นต้น จึงควรตรวจสอบแหล่งนำเข้าและแหล่งขายภายในประเทศ เพื่อหาต้นตอที่แท้จริงของการแพร่กระจาย

นอกจากนี้ การเพาะเลี้ยงปลาหมอสีคางดำเพื่อการค้าในบางพื้นที่ก็มีความเป็นไปได้สูง ซึ่งอาจมีการปล่อยปลาต่ำกว่ามาตรฐานหรือปลาตกเกรด ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติที่อยู่ใกล้กับฟาร์ม ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติที่ทราบกันดีในหมู่ผู้เพาะเลี้ยงปลาสวยงาม ดังที่มีการโพสต์ในโซเชียลมีเดียเป็นคลิปพบปลาดุกเผือกในท่อระบายน้ำใกล้ตลาดปลาที่สวนจตุจักร หรือ มีกลุ่มคนไปช่วยชีวิตปลาจากท่อระบายน้ำในตลาดเดียวกัน เหล่านี้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สามารถตรวจสอบได้ 

ในตลาดค้าปลาสวยงาม ยังมีการนำเข้าสัตว์น้ำแปลกใหม่มาเป็นปลาสวยงาม และอาจมีผู้ซื้อที่ปล่อยปลาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ กรณีนี้ก็มีตัวอย่างให้เช่นกัน คือ พบปลาหมอบัตเตอร์ ซึ่งเป็น 1 ในสายพันธุ์ปลารุกรานต่างถิ่น (ปลาเอเลี่ยนสปีชีส์) ที่กรมประมงประกาศห้ามเลี้ยงหรือปล่อยลงแหล่งน้ำ แต่กลับพบภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยประมงพื้นบ้านจะได้ปลาหมอบัตเตอร์ติดมาด้วย 10-20 ตัวต่อการจับปลาในเขื่อนฯ 100 ตัว  

 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ไม่ควรละเลย คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของโลกและภาวะโลกร้อน ทำให้คุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและสิ่งมีชีวิตในน้ำ ตลอดจนภัยธรรมชาติที่ทำให้เกิดน้ำท่วมจะช่วยให้ปลาหมอสีคางดำขยายอาณาเขตได้โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ปล่อย เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยแวดล้อมที่ไม่อาจมองข้ามในการพิจารณาคดีนี้ 

จากข้อมูลทั้งหมด การพิจารณาคดีนี้ไม่ควรอาศัยข้อสันนิษฐานเพียงอย่างเดียว แต่ควรใช้หลักฐานที่เป็นรูปธรรมและประเด็นแวดล้อมทั้งหมด เพื่อให้การตัดสินคดีเป็นธรรมและมุ่งเน้นไปที่ต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหา ในการปิดคดีนี้โดยไม่มีข้อโต้แย้งอีกต่อไป

โดย : สินี ศรพระราม นักวิชาการอิสระ