หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 75 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...

ระดับ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้นำทางจิตวิญญาณ “พรรคเพื่อไทย” ปรากฏตัวขึ้นมาคราใด มักส่ง “แรงสั่นสะเทือน” ทางการเมืองเมื่อนั้น โดยเฉพาะล่าสุดแค่ปล่อยหมัดแย็ป เข้าใส่ “พรรคประชาชน” พรรคแกนนำฝ่ายค้าน ที่ร่ำๆอยากใช้เวทีสภาฯ ซักฟอก ถล่ม “ลูกสาว” แล้วลามไปยัง “พ่อ” ก็พลันถูกโต้คืน...*...

ถ้าจะพูดกันเรื่อง “นั่งร้าน” คอยหนุนอยู่ข้างหลัง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯหญิง แล้ว ก็อย่าลืมปรึกษา “ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่” ด้วยเช่นกัน “ต้องถามว่าประเด็นนี้ได้ปรึกษาผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่แล้วหรือไม่ เขาได้ปรึกษากันยังว่า จะเล่นประเด็นนี้” แถมยังชี้เบาะแสต่อว่า “นายก อบจ.ลำพูน” มีใครไปช่วยดูแลบ้าง ? ...*...

เมื่อ “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” เหมือนกัน ฉันใด ฉันนั้น เมื่อ “ทักษิณ” คือผู้นำทางจิตวิญญาณของ “เพื่อไทย” และนั่งร้านของ “นายกฯอิ๊งค์” พรรคสีส้มเอง ในทุกเจนเนอร์เรชั่น ก็มี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า อยู่ในฐานะ “ผู้นำจิตวิญญาณ” มาตั้งแต่ต้น ไม่ต่างกัน...*...

ส่วนที่ “กองเชียร์ด้อมส้ม” หรือคนในพรรค จะปฏิเสธว่าต่างกันเพราะการดำรงอยู่ของ “พรรคสีส้ม” ไม่ใช่ “ทาส” เหมือนกับ “พรรคเพื่อไทย” นั้นก็ต้องถามใจกันดังๆว่า “จริงหรือ?” เอาเป็นว่า “พรรคการเมือง” ในบ้านนี้เมืองนี้ แท้จริงแล้วไม่มี  “ใคร” อยู่เบื้องหลัง ไม่มีใคร “เป็นเจ้าของ” กันบ้าง ? ...*...

ถึงกระนั้น “พันแสง” ก็ยังขอตบมือดังๆให้กับ การทำหน้าที่ของ “พรรคประชาชน” ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน แม้ด้านหนึ่งจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า “ชกไม่เต็มหมัด” เงื้อๆ ง่าๆ ไม่เคยถล่ม “ทักษิณ” จริงๆจังๆ เสียที ได้แต่ “ขี่ม้าเลียบค่าย” แต่ต้องยอมรับว่าในจังหวะที่ “ฝ่ายค้าน” ในสภาฯอ่อนแรง แต่อย่างน้อยงานตรวจสอบ “นอกสภาฯ” ยังมีให้ได้เห็น จะถือว่าเป็นการทำงานทิ้งทวนก่อนเจอมรสุมใหญ่กรณี “44สส.อดีตก้าวไกล” ลงชื่อแก้กฎหมาย ม.112 ที่ขยับใกล้เข้ามาทุกขณะก็ตามที ...*...

ยิ่งดูยิ่งหมดหวัง “ปัญหาการเมือง” ที่ยุ่งเหมือนยุงตีกัน ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศ อย่างที่เห็นยังไม่พอ ล่าสุดจากการไม่เอาจริง เอาจังเพื่อแก้ปัญหา จนเกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก เมื่อวันที่ 15 มี.ค.68 ที่ผ่านมาเกิดเหตุจากการก่อสร้างทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยเกิดอุบัติเหตุการก่อสร้างมอเตอร์เวย์บนถนนพระราม 2 มาแล้ว เมื่อวันที่ 29 พ.ย.67 ...*...

ความสูญเมื่อมีผู้มีเสียชีวิต ไม่มีอะไรชดเชยได้ ยังไม่นับความเสียหายที่ตามมา ที่น่าหวาดผวาไปกว่านั้น คือสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ คงไม่ต้อง “ถอดบทเรียน” เพราะการถอดบทเรียนหากทำอย่างจริงจัง เข้มงวด “ผู้รับผิดชอบ” ใส่ใจกันจริงๆ “ประชาชน” ตาดำ ๆ หรือโดยเฉพาะกับ “คนงาน” ที่การก่อสร้างคงไม่ต้องแขวนอยู่เส้นด้าย บาดเจ็บและเสียชีวิตไปแล้วหลายราย งานนี้ หากหวังที่จะได้เห็น “รัฐมนตรี” แสดงสปิริต ประกาศลาออก เหมือนต่างประเทศ นั้นคงไม่มีทาง ประชาชนคนไทยยังต้องทู้ซี่อยู่กันไปแบบนี้ หวาดผวากับความปลอดภัยกันไปอย่างนี้ไม่จบ ไม่สิ้น !   ...*...   

ที่มา:พันแสง (17/03/68)