วันที่ 16 มี.ค.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ระบุว่า...

เอฟเฟกต์ อุยกูร์:ไทยได้ไม่คุ้มเสีย ใครรับผิดชอบ

ผลจากการที่รัฐบาลไทยตัดสินใจส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนให้กับประเทศจีน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงกระบวนการที่ไม่โปร่งใสในการส่งตัว ครั้งนี้ ทำให้ฝ่ายที่คัดค้านถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลบ้าง เป็นพวกโลกสวยบ้าง คลั่งสิทธิมนุษชนบ้าง โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างรุนแรง จะตามมาภายหลัง

ซึ่งรัฐบาลไทยได้สร้างภาพประชาสัมพันธ์และโฆษณาชวนเชื่อร่วมกับรัฐบาลจีน เพื่อให้ชาวโลกเห็นว่า การส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน เป็นความสมัครใจและได้รับความปลอดภัยตามภาพโฆษณาที่ปรากฏตามสื่อตามต่างๆ

แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน เราก็จะเห็นปฏิกิริยาโต้กลับจากสภายุโรป ที่ลงมติ  482 ต่อ 57 คะแนน ประณามประเทศไทยในเรื่องการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน การแก้ไขมาตรา 112 และการปล่อยตัวนักโทษคดีการเมือง โดยใช้มาตรการเจรจาการค้าเสรีเอฟ(FTA)บีบไทย

หลังจากนั้นล่าสุดประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกแถลงการณ์ประกาศงดวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่และบุคคลในครอบครัว ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คน น่าจะหมายถึงบุคคลตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จนถึงฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศ ที่โดนแบล็คลิสต์จากสหรัฐอเมริกาไม่ออกหนังสือวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาประชาคมโลก

และคงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทยกับสหรัฐอเมริกา เกือบ 200 ปี  ซึ่งต่อไปก็อาจจะมีมาตรการคว่ำบาตร หรือกีดกันทางการค้าจากรัฐบาลโดนัททรัมป์ ตามมาอีกก็เป็นได้ ยิ่งในขณะนี้คนไทยที่ต้องการเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา จำเป็นต้องขอออกหนังสือวีซ่าซึ่งยากอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มความยากลำบากเพิ่มขึ้นอีก

สำหรับเรื่องนี้ต้องยอมรับว่า เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลที่ผิดพลาด ได้ไม่คุ้มเสีย  ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจมีความโปร่งใส ควรจะดำเนินการแบบเปิดเผย ให้มีทุกฝ่ายมีส่วนร่วมสังเกตุการณ์ ในการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับประเทศจีน เพื่อลบข้อครหาทั้งหมด และจะทำให้ประเทศไทยรอดพ้นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากประชาคมโลกได้

อยากถามว่า ใครจะรับผิดชอบต่อผลกระทบ หรือ เอฟเฟกต์จากการส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับประเทศจีน ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศหลายด้านในครั้งนี้