วันที่ 15 มี.ค.68 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.กสานต์ พารา รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจประจำจุดบริการประชาชนตำบลสิงห์ ว่าเกิดเหตุพบศพพระภิกษุสงฆ์ผูกคอมรณภาพภายในกุฎิภายในวัดแห่งหนึ่ง(ขอสงวนชื่อ)ในพื้นที่ ต.สิงห์ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่วัดดังกล่าว พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ไทรโยค ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่าที่หน้ากุฎิของวัดดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพของมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ประจำจุดรอรับเหตุตำบลสิงห์ทอง กำลังรอทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวนและแพทย์ในการร่วมชันสูตรพลิกศพ ภายในกุฎิพบร่างของพระสมชาย(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 50 ปี พระลูกวัดใช้สายประคต(สายผูกเอว)ผูกลำคอกับเหล็กลูกกรงบานหน้าต่างนอนมรณภาพอยู่กับพื้นข้างเตียงนอน ขาทั้ง 2 ข้างพับเข้าหาลำตัว ที่บริเวณเอวมีผ้าซับพอดหลังที่ใช้สำหรับคนเป็นกระดูกทับเส้นประสาทพันอยู่ ตรวจสอบตามร่างกายซึ่งมีรอยสักลวดลายเต็มตัว ไม่มีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้าย ภายในห้องกุฎิไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ไม่มีร่องรอยการรื้อค้าหาทรัพยสิน ที่บนเตียงนอนพบจดหมายลามรณภาพ 1 ฉบับ เขียนบรรยายขอโทษและสั่งเสียบรรดาญาติๆ ว่าให้สวดบำเพ็ญกุศลเพียงวันเดียวแล้วฌาปณากิจเลย
เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำเจ้าอาวาสวัดและเพื่อนพระลูกวัดทราบว่า พระสมชาย ล้มป่วยเป็นกระดูกทับเส้นมาเป็นเวลาหลายปี มักจะบ่นว่าเจ็บกระดูก แต่พระสมชาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า พระสมชายคงคิดมากจนเกิดอาการเครียด จึงตัดสินใจใช้สายประคตผูกคอมรณภาพเพื่อหนีโรคที่เป็นอยู่จึงมอบศพให้ทางวัดแจ้งญาติและนำศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป