ชุดปราบปราบยาเสพติดตชด.ภาค4จับกุมยาบ้าและเฮโรอีนจำนวนมหาศาล มูลค่ากว่า 117 ล้านบาท ซึ่งถูกนำไปพักไว้ในขนำในสวนยางพารารอต่อส่งให้ลูกค้าตามใบสั่งรวบคนเฝ้าและสายส่งได้2คนเร่งขยายผลไปยังเจ้าของ

วันที่ 15 มี.ค.68 ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 4 จ.สงขลา พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และพล.ต.ต.ณรงค์ ธนานันทกุล ผบก.ตชด.ภาค 4ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดทั้งเฮโรอีนและยาบ้าพร้อมๆกันเรียกว่าจำนวนมหาศาลมากที่สุดครั้งหนึ่งที่จับกุมได้ในพื้นที่ จ.สงขลา เป็นเฮโรอีนอัดแท่ง จำนวน 596 แท่ง น้ำหนักประมาณ 208.6 กิโลกรัม มูลค่า 89,400,000 ล้านบาท และยาบ้า 2,714,000 เม็ด มูลค่า 28,000,000 บาท มูลค่ารวมกันถึง 117,400,000 ล้านบาท ที่ยึดได้ขณะถูกนำไปเก็บไว้ในพื้นที่ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

เบื้องหลังการจับกุมเฮโรอีนและยาบ้าบิ๊กล๊อตในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค4 ,เจ้าหน้าที่กองกำกับการตำรวจชายแดนที่43,ตำรวจน้ำสงขลา,กองทัพเรือ,กองทัพบก,ฝ่ายปกครอง และปปส.ภาค9 นาย สยมภู หรือเกตุ อายุ 34 ปี ชาว ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  และ นายวิโรจน์ หรือแบงค์ อายุ 24 ปี ชาว ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมเฮโรอีนและยาบ้าทั้งหมด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง , รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า โคโลน่า อัลติส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ขง 8928 สงขลา ,รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ I 125 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังจากที่เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ได้สืบทราบว่ามีการลำเลียงเฮโรอีนและยาบ้า มาไว้ที่ขนำในสวนยางพาราพื้นที่ หมู่ 8 บ้านท่าหมอไชย ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ไปซุ่มรอ จนกระทั่งเวลา 3 ทุ่ม นายสยมภู ได้ขับรถจักรยานยนต์มาที่ขนำและไขกุญแจเปิดประตู เข้าไปภายในขนำ ชุดจับกุมจึงเข้าล๊อคตัวเอาไว้และตรวจค้นในขนำพบยาบ้าและเฮโรอีน ซึ่งบรรจุอยู่ในกระสอบอาหารสัตว์ตั้งวางไว้ในขนำ และจากการสอบสวนในเบื้องต้นให้การว่าเป็นของ นายบอสหรือ นายต้อม และอยู่ระหว่างรอกระจายให้กับลูกค้าตามคำสั่งของเจ้าของยาเสพติด ระหว่างนั้น นายวิโรจน์ หรือแบงค์ ผู้ต้องหาที่ 2 ได้โทรศัพท์มาหานายสยมภู ทางไลน์ ชื่อ "นินจารันหาโร่" ว่ายาเสพติดที่สั่งไว้ 3 กระสอบเรียบร้อยหรือยังกำลังจะเข้าไปเอา เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนไปซุ่มสังเกตการณ์ที่จุดนัดรับ ต่อมานายวิโรจน์ ได้ขับรถเก๋งมาจอดและยกยาเสพติดใส่กระโปรงท้ายรถโดยไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ดักรออยูจึงเข้าล๊อคตัวได้อีกคน

จากการสอบถาม นายสยมภู ให้ยอมรับว่าได้รับค่าจ้างในการให้ที่พักยาจากนายบอส หรือนายต้อม ครั้งละ 2,000-3,000 บาท ที่ต้องทำเพราะว่าอาชีพกรีดยางมีรายได้ไม่พอและยังมีลูกที่เพิ่งคลอดจึงจำเป็นต้องทำแต่แค่รับฝากไว้เท่านั้น โดยยาบ้าและเฮโรอีนทั้งหมดทราบแค่ว่าจะมีลูกค้า 4 เจ้าที่จะมารับตามจุดนัดหมายที่นำไปวางไว้

ส่วนนายวิโรจน์ บอกว่าได้ค่าจ้างเพื่อนำยาไปส่งยังที่ จ.ปัตตานี ครั้งนี้ 40,000 บาท  เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีฐาน "มียาเสพติดให้ไทษประเภท 1 (แมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า ) โดยมีไว้เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชน และจะเร่งขยายผลไปยังเครือข่ายค้ายาเสพติดแกงค์นี้และเส้นทางทางที่ใช้ลำเลียงซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่ระดับประเทศ