จากกรณีเมื่อวานนี้ “ตั้ม” อดีตสามี “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” อินฟลูฯ ซีอีโอแบรนด์ดัง ได้ออกมาขอความเป็นธรรม ถูกหลอกให้หย่า ต้องนอนฟังภรรยาคุยกับนักร้องดัง แฉฝ่ายภรรยาทำคุณไสยใส่นักร้อง ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่จ๊ะโอ๋แฉว่าเอาปืนจ่อหัวลูก พร้อมขอให้แบ่งสินสมรสคนละครึ่ง แล้วต่างคนต่างไป

รายการ โหนกระแส วันที่ 14 มี.ค.68 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น  

ทำไมนั่งเหมือนไก่หงอย ไหวมั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “ไหวค่ะ”

ได้นอนบ้างมั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ได้นอนค่ะ ตั้งแต่เขาออกมาพูดค่ะ”

คุณยินดีพูดเรื่องราวทั้งหมดให้เราฟัง?

จ๊ะโอ๋ : “ยินดีค่ะ จริงๆ โอ๋ไม่ได้อยากออกมานั่งอยู่ตรงนี้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนกับครอบครัวกับลูก แต่ก็เข้าใจทุกคนนะคะ วันนี้โอ๋พูดไปคนอาจจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เพราะก่อนหน้านี้โอ๋ทำสิ่งที่ไม่ดีมาก่อน สังคมอาจมองว่าเป็นคนไม่ดี โอ๋ยอมรับทุกการตัดสินใจของคนด่าว่า แต่วันนี้ที่ออกมาพูด ก็อยากพูดความจริงในมุมตัวเองบ้าง

คุณกับคุณตั้ม อดีตสามี คบหากันมานานแค่ไหน?

จ๊ะโอ๋ : “อยู่กินจริงๆ ก็ประมาณ 6 ปีค่ะ”

ไม่ใช่ 15 ปีเหรอ?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ค่ะ 15 ปี เขายังวนเวียนกับการมาเจอลูกค่ะ ไม่มีทางเป็น 15 ปีได้ เพราะตอนนี้ลูกคนเล็กหนูอายุ 12 คบกันไม่ถึงปีแล้วท้องเลย”

ตกลงคุณคบกับคุณตั้มกี่ปี?

จ๊ะโอ๋ : “ประมาณ 6-7 ปี”

แล้วถูกอายุ 12 ได้ไง?

จ๊ะโอ๋ : “หมายถึงหนูเลี้ยงลูกมาเองค่ะ”

เอาใหม่ คุณกับคุณตั้ม อยู่กินกันกี่ปี?

จ๊ะโอ๋ : “6 ปีค่ะ”

แล้วทำไมลูกอายุ 12?

จ๊ะโอ๋ : “ตอนแรกหนูท้อง หนูอยู่กินกับเขาแล้วเลิกกับเขา มาเลี้ยงลูกเอง ที่เขาบอกลูกอายุ 15 ปีเป็นไปไม่ได้ค่ะ หนูเป็นคนเลี้ยงลูกเอง”

คบตั้งแต่ปีอะไร?

จ๊ะโอ๋ : “54-55 ประมาณนั้นค่ะ”

13 ปีนะคุณ?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ หนูคบกับเขาได้ 6-7 ปีแล้วเลิกกันค่ะ”

อ๋อ ขาดช่วง?

จ๊ะโอ๋ : “ใช่ค่ะ แล้วหนูมาเลี้ยงลูกเอง แต่เขาเหมารวมตั้งแต่เจอกันจนลูกโตขนาดนี้ มันจะเป็น 15 ปีไปไม่ได้ค่ะ หนูคบกันแล้วท้องเลย ตอนนี้ลูกเพิ่งอายุ 12 เท่ากับหนูอยู่ดูแลลูกเองมา 6-7 ปีแล้วค่ะ”

ช็อต ไม่เข้าใจ งง ช่างไปก่อนแล้วกัน ปวดหัว ทำไมถึงหย่ากับเขา?

จ๊ะโอ๋ : “เริ่มต้นคบกัน เขาดูแลเราเหมือนที่เขาพูดเมื่อวาน”

ทำไมหย่า?

จ๊ะโอ๋ : “มันเกิดข่าวขึ้นมาค่ะ เราเลยคุยกับเขาว่าเราไปหย่ากันเถอะ เพราะก่อนหน้านี้เราแยกกันอยู่ อยู่แล้ว ก็หย่าให้มันจบ เขาก็ไปหย่าค่ะ จบ”

เขาบอกคุณโทรไปบอกว่ามาหย่าหน่อย เขาก็มาเลย?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ค่ะ คงไม่มีใครที่คบกันอยู่แล้วมาหย่า เราอธิบาย เราบอกว่ามันเกิดข่าวแบบนี้ ข่าวที่เกิดกับนักร้อง เราควรหย่าให้มันจบ ให้เรื่องนี้มันเคลียร์ให้จบ เขาก็มาหย่า”

ตอนนั้นอดีตสามีคุณรับรู้เรื่องคุณหนุ่ม กะลาแล้ว คุณเลยบอกว่ามาหย่ากันเถอะ ที่หย่าเพราะคุณมีหนุ่ม กะลาหรือเปล่า?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ค่ะ ก่อนหน้านี้เราแยกกันอยู่อยู่แล้ว เรามีปัญหากันอยู่แล้วค่ะ เพราะตัวเขาเองมีอาชีพของเขา หนูเองก็มาทางธุรกิจของหนู ซึ่งหนูไม่อยากไปพัวพันกับอาชีพที่เขาทำอยู่ เพราะหนูท้อง หนูมีลูกแล้ว หนูไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับตรงนั้น หนูก็เริ่มมาขายของของหนูเอง เขาก็มีหน้าที่ส่งของ ก็เกิดการทะเลาะกัน เวลาตีไก่ก็โทรมาว่ามึงให้เงินกูมาน้อยกูต้องเสียไก่ ทะเลาะกันตลอดเรื่องเขาเล่นไก่ ใจเราก็เริ่มรู้สึกว่าเขาน่าจะไม่ใช่แล้ว ก็เริ่มคุยกัน ครั้งหนึ่ง ครั้งสอง ครั้งสาม ครั้งสี่ก็ถามว่าเขาจะเอายังไงกับธุรกิจที่หนูทำเองกับที่เขาทำอยู่ เขาบอกว่าเขาขอไปเลี้ยงไก่แล้วกัน ก็ถามเขาแล้วว่าระหว่างไก่กับหนูเลือกอะไร เขาพูดตลอดว่าเลี้ยงไก่ ก็เริ่มรู้แล้วว่าเขาไม่ใช่แล้ว หลังจากนั้นหนูเริ่มทำงานของหนูเลย แยกห้องนอนก่อน เขาก็อยู่กับไก่ของเขา เขาก็วนเวียนมาบ้าง เราไม่เคยสนใจ เพราะเราแยกกันแล้ว จนมาเป็นข่าว เราบอกว่าเฮ้ย หนูคบกับพี่นี้นะ ตามข่าวเลย เราต้องไปหย่ากันนะ จะได้จบ ก็เลยไปหย่า”

เขารับรู้ตั้งแต่แรก?

จ๊ะโอ๋ : “เขารู้ค่ะ ไม่งั้นเขาจะไม่โทรไปในเพจนึง ณ ตอนที่เป็นข่าว เพราะเพจเอาประวัติเขาไปเล่น”

เขาโทรหาอีกี้ขยี้ข่าว?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ เขาโทรไปแล้วพูด รู้เพราะเพจเป็นคนโพสต์นะคะ เขาบอกว่าผมเลิกกับจ๊ะโอ๋แล้ว ผมหย่ากันแล้ว คุณไม่ต้องเอาข่าวผมไปเล่นแล้วนะ มันคนละคนกัน หลังจากนั้นเป็นต้นมา ที่เขาพูดว่าเขาไม่ได้เล่นโซเชียล แต่จริงๆ เขาเล่นโซเชียลนะคะ เลี้ยงไก่เขาไลฟ์สดตลอด ถ้าวงการไก่จะรู้เลยว่าเขาไลฟ์สดกับไก่ตลอด”

สิ่งที่จะบอกคือตัวเขารับรู้มาตลอด ว่าช่วงนั้นคุณคบหนุ่มกะลาแล้ว ก็เลยบอกให้มาหย่า เขาหย่าให้ โดยไม่ได้มีข้อแม้อะไรเลย?

จ๊ะโอ๋ : “ใช่ค่ะ ไม่มี”

โดยที่เขาไม่ได้ถามเรื่องสินสมรสมาก่อน?

จ๊ะโอ๋ : “ใช่ค่ะ เพราะตัวเขาเองจะพูดตลอด เวลาเราใช้ให้เขาไปส่งของ ก่อนเราจะตัดสินใจแยก เวลาเราให้เขาไปส่งของหรือทำอะไรก็แล้วแต่ เขาบอกว่าพี่เองไม่เคยได้ใช้ชีวิตตัวเองเลย ต้องมาขับรถส่งของให้ สิ่งที่หนูทำมันก็ไม่ใช่ของพี่ พี่ต้องมาขับรถส่งของ ไม่เคยหาเงินได้ใช้ชีวิตตัวเองหรอก หนูก็เริ่มจ้างคนมาส่งของ เพราะรู้สึกว่าเราไม่ควรไปพึ่งเขาอีกแล้ว มีเรื่องราวห่างกันออกมา จนทำให้เราไม่สามารถคุยกันได้ เขาเองก็รู้ หนูคุยกับเขาตลอดว่าเราไม่ได้รักเขาแล้ว บอกตั้งแต่ก่อนหย่า หลังหย่า ปัจจุบัน เขาจะพูดว่าไม่จริงหรอก”

คุณพูดว่าไง?

จ๊ะโอ๋ : “พูดว่าหนูไม่ได้รักพี่แล้วนะ เขาก็บอกว่าไม่จริงหรอก พี่รู้ว่าหนูรักพี่ พี่อยากกรีดหัวใจหนูออกมาจัง”

กรีดมาทำไม?

จ๊ะโอ๋ : “กรีดมาดูว่ายังไงก็มีเขา หนูก็จะพูดว่าต่อให้พี่กรีดหัวใจหนูออกมา มันก็ไม่มีหัวใจนั้นหรอก เพราะหัวใจนั้นมันไปอยู่ที่พี่หนุ่มแล้วค่ะ”

พูดแบบนี้เลยเหรอ?

จ๊ะโอ๋ : “พูดค่ะ อันนี้พูดในมุมเวลาดี ไม่ทะเลาะนะคะ ถ้าตอนทะเลาะจะพูดว่ากูไม่ได้รักมึง กูเกลียดมึง เมื่อไหร่มึงจะเลิกยุ่งกับชีวิตกูเสียที คือพูดแบบนี้มาตลอดค่ะ เขาเองต่างหากที่เป็นคนยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ เขารับความจริงเรื่องนี้ไม่ได้”

กำลังงงๆ อยู่ การที่คุณพูดกับเขาแบบนั้น คุณยืนยันว่าคุณเองห่างไปแล้ว?

จ๊ะโอ๋ : “เราแยกห้องกันแล้วค่ะ แยกห้องนอนกันแล้วค่ะ”

แยกเมื่อไหร่?

จ๊ะโอ๋ : “ก่อนเกิดข่าวเลยค่ะ ไทม์ไลน์เริ่มต้นเราคุยกันก่อน คุณจะเอายังไง คุณจะเลือกไก่หรือคุณเลือกฉัน เขาไม่เลือก ให้เงินไปลงทุนก็แล้ว ก็เจ๊ง ก็เป็นเงินเราอยู่ ไปเลี้ยงไก่ก็เจ๊ง เงินลงทุนกี่ก้อนๆ ก็ไม่สำเร็จเลย ก็วนกลับมาที่เราอีก ว่าจะเอายังไงถ้าเป็นแบบนี้ เขาบอกโอเคเขาจะไปใช้ชีวิตของเขา ไปทำไก่ของเขา หนูออกแยกเข้ากรุงเทพฯ เลย ไปทำมาหากิน”

ตอนมีปัญหากันมาก่อนมีหนุ่ม กะลา ตอนนั้นเป็นเรื่องอะไร?

จ๊ะโอ๋ : “เรื่องอาชีพเขาที่ทำอยู่เราไม่โอเคเขาทำสองอาชีพ แต่ไม่ขอพูดถึงหนึ่งอาชีพ เป็นสีเทา กับอีกอาชีพคือเล่นไก่ค่ะ”

คุณรับไม่ได้?

จ๊ะโอ๋ : “รับไม่ได้ค่ะ เรามีลูกแล้ว เรารู้สึกว่าชีวิตเราเสี่ยง เราอยากหากินสุจริต ก็คุยกับแม่ ที่เขาบอกว่าเขาเอาเงินมาลงทุนเมื่อวาน”

คุณเสี่ยงยังไง?

จ๊ะโอ๋ : “มันเสี่ยงค่ะ เสี่ยงมากๆ ค่ะ”

คุณรู้ได้ไง?

จ๊ะโอ๋ : “มีตำรวจมาที่บ้านค่ะ แล้วถึงได้รู้ ตร.แจ้งให้เราทราบว่าเกิดเรื่องนี้ๆ ตอนนั้นเราท้อง เรามีลูก ซึ่งเขาเองก็ไม่อยู่ เขาก็กระโดดหนีออกไป”

ทำไมไม่หย่าตั้งแต่ตอนนั้น?

จ๊ะโอ๋ : “เรายังไม่ได้คลอดลูกค่ะ ก็รู้สึกว่าเราทนได้ เดี๋ยวเราจะไปหาอาชีพใหม่ทำ เอาเงินแม่นะคะ ไม่ใช่เงินเขา ตอนนั้นแม่หนูขายของตลาดนัด ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปกันสองคน เริ่มจากเอาของมาขายก่อน 50 ชิ้นครั้งแรก จาก 50 ชิ้นก็ต่อยอดไปเรื่อยๆ เพราะเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว การขายออนไลน์มันบูมมาก หนูประสบความสำเร็จ หนูเลยบอกเขาว่าเลิกจากตรงนั้น แล้วมาช่วยกันตรงนี้”

เลิกทำสีเทาซะ พยายามดึงเขาออกมาแต่เป็นเงินคุณ?

จ๊ะโอ๋ : “ใช่ค่ะ ที่เขาบอกว่าเอาเงินแม่เขามา ไม่จริงค่ะ เงินก้อนนั้นไปด้วยกัน เอาไปขายเพื่อมาโป๊ะรถวีโก้ที่เขาขับอยู่ตอนนี้ค่ะ”

อกอีแป้นจะแตก ฟังสองวัน สองมุม สองเรื่อง ก็มีเหตุผลมุมคุณที่คุณไม่ไหว เขาทำธุรกิจสีเทา ตร.มาจับถึงบ้าน คุณพยายามดึงเขาให้กลับมาทำธุรกิจขายสครับ แต่เป็นเงินทุนของคุณ ทำไมไม่ตัดขาดตอนนั้นเลย?

จ๊ะโอ๋ : “เราสงสารลูกค่ะ”

คุณพูดลอยๆ มั้ย มีหลักฐานมั้ย ผมไปเช็กได้เลยมั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “เช็กได้เลยค่ะ”

นี่คือต้นเหตุทำให้คุณแยกย้าย แต่อยู่ด้วยกัน?

จ๊ะโอ๋ : “ใช่ค่ะ เราทะเลาะกันเรื่องเงิน เพราะเขาเอาไปเสียไก่ เราต้องเอาเงินมาหมุนทำธุรกิจ เรารู้สึกว่าอยู่แล้วไม่ใช่มากๆ กับคนนี้ ไม่มีคำว่าเหนื่อยมั้ย เป็นยังไงบ้างธุรกิจ ที่โอ๋ทำมาเข้าปีที่ 8 ไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จแล้วขึ้นร้อยตลอด มันมีล้มบ้าง วันไหนที่ล้มก็จะเจอคำด่าจากเขาว่ามึงมันโง่”

คุณบอกแยกกันอยู่ แต่มีคลิปว่าคุณจุ๊บกัน คำตอบนี้สังคมจะบอกว่าคุณแถหรือไม่แถ ผมบอกไม่ได้ แต่เชื่อว่าคุณมานั่งตรงนี้คุณมีคำตอบ ไม่งั้นคงไม่กล้ามานั่ง?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ”

 เข้าใจแล้ว ที่บอกว่าคบ 6 ปี ทำไมมีลูกอายุ 12 ผมพลาดเอง เธอพยายามอธิบายมุมของเธอแต่เราอาจไม่ได้มองมุมเธอ เธอบอกแบบนี้ เขาเริ่มคบปี 54 คบแค่ 3 เดือน คุณไปจดทะเบียนสมรส 8 พ.ย.54 หลังจากนั้นคุณคบกันได้ 1 ปี คุณมีลูกในปี 55 จนเดินทางมาถึง 60 คุณคบกัน 6 ปี ปี 60 คุณเลิก แต่เลิกแล้วก็ยังอยู่กันอีก 6 ปี?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ เขามาวนเวียน ขออยู่กับลูกค่ะ”

คุณแยกห้องนอนปี 60 เท่ากับระยะเวลาที่คุณอธิบายว่าคบกัน 6 ปี เพราะคุณตัดจบตรงนี้เลย แค่ 54-60 จากนั้นจากปี 60 คุณอยู่ด้วยกันต่อถึง 66?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ แต่ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์ที่เหมือน 6 ปีแรกแล้วนะคะ”

60-66 เป็นความสัมพันธ์ฉันท์อะไร?

จ๊ะโอ๋ : “แค่พ่อกับแม่ค่ะ เพื่อลูก สถานะคือดูแลลูก ไม่ได้เป็นผัวเมียกันแล้วค่ะ”

แต่ก็มีทะเบียนสมรสคาอยู่ ในทางกฎหมายคุณเป็นผัวเมียกันอยู่ แต่ในทางพฤตินัยคุณแยกย้ายกันแล้ว คุณมาหย่า 26 มิ.ย.ปี 66 แสดงว่าช่วง 54-60 รักกันมาตลอด รักกันปานจะกลืนกิน หลัง 60 เริ่มตร.จับแล้ว?

จ๊ะโอ๋ : “เริ่มมีเข้ามากวนที่บ้านค่ะ”

คุณก็ไม่เอาแล้ว ตั้งแต่ 60 จนถึง 66 คุณขอหย่า แสดงว่าช่วงนี้คุณไปเจอคนอื่น?

จ๊ะโอ๋ : “เจอค่ะ ประมาณปี 62-63”

ทำไมตอนมีประเด็นตอนโน้นเขาไม่เคยเปิดตัวอะไรเลย คุณไปห้ามอะไรเขา?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ได้ห้ามค่ะ เขารู้ตลอด เหมือนที่เห็นตามคลิป ที่เขาบอกว่าเข้าใจหนูทุกอย่าง ยังไงฝากบอกพี่เขาแล้วกันว่าหาเมียใหม่ให้พี่ด้วยคนนึง ขอรวยๆ และชอบพี่ รักพี่ ซึ่งอันนั้นเป็นคลิปปี 66 แล้วเขามาพูดในรายการว่าเขาพูดเล่น หนูไม่รู้หรอกว่าเขาพูดเล่นพูดจริง เพราะทุกอย่างที่หนูอธิบายให้เขาฟัง ว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นไง หนูพูดจากความรู้สึกของหนูจริงๆ ว่าหนูไม่ได้รักพี่แล้ว ตัวเขาเองต่างหากที่รับเรื่องนี้ไม่ได้เลย จะบอกว่าไม่จริง ไม่เชื่อ ทะเลาะกันก็แล้ว คุยดีก็แล้ว บอกก็แล้ว เขาก็จะบอกว่าไม่จริงหรอก ไม่เชื่อ เขาบอกเอางี้ ถ้าวันไหนเขาทิ้งหนูกลับมานะ หนูเจอพี่แน่นอน พี่จะไม่ไปไหน ก็เลยบอกว่าแล้วแต่พี่”

แต่เขาก็รักคุณมากนะ?

จ๊ะโอ๋ : “ยอมรับว่ารักจนไม่รู้ว่าความรักของเขามันจะเป็นความเห็นแก่ตัว รักมากจนยอมทำทุกอย่าง ที่เขาเคยพูดว่าเขาจะพัง เขาบอกกูจะทำลายมึง จะทำให้มึงไม่เหลืออะไรเลย จะให้ลูกไปเรียนโรงเรียนวัด จะทำให้มึงกลับไปจนเหมือนเดิม หลังๆ เริ่มไปพูดกับคนงาน ชี้หน้าด่าแม่โอ๋ ว่าเลี้ยงลูกยังไงให้ลูกเป็นกะ-รี่ บอกคนงานว่าให้เตรียมกลับไปอยู่บ้านได้แล้วนะ เดี๋ยวมันจะเจ๊งไม่เหลืออะไร พอมันไม่เหลืออะไรมันจะกลับมาหาผม”

เขามั่นใจว่าคุณต้องกลับไปหาเขา?

จ๊ะโอ๋ : “ใช่ค่ะ เขาพูดตลอดว่าเราทั้งคู่ไปจากกันไม่ได้ เราต้องตายไปด้วยกัน มึงกับกูต้องตายไปด้วยกัน จะพูดคำนี้ตลอด งั้นก็ตายกันทั้งบ้าน การขู่หลังๆ เริ่มเป็นช่วง 5-6 เดือนหลัง เริ่มเป็นหนัก”

มันเป็นไปได้มั้ย การที่เขาเป็นแบบนี้ เพราะคุณไปคบหากับอีกคนหรือเปล่า เขาเลยเป็นแบบนี้หรือเปล่า?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ค่ะ ก่อนหน้านี้ที่หนูจะคบหากับอีกคน เขาเองก็ไม่ได้มาสนใจอะไรหนูนะคะ”

มานั่งตรงนี้ ไม่กลัวโดนด่าเหรอ?

จ๊ะโอ๋ : “หนูรู้ค่ะว่าหนูต้องโดนด่าอยู่แล้ว หนูก็ทำไม่ดีกับเรื่องที่หนูเคยทำมาก่อน หนูยอมรับ”

เรื่องอะไร?

จ๊ะโอ๋ : “เรื่องที่เคยเกิดขึ้น”

เรื่องคุณจูนกับหนุ่ม กะลา?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ หนูยอมรับผิดค่ะ หนูผิด”

เพราะคุณทำแบบนี้หรือเปล่าถึงทำให้เขาเป็นแบบนี้?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ค่ะ เราแยกกันอยู่แล้ว เขารู้มาก่อนอยู่แล้ว เหมือนที่เขารู้ว่ามีข่าวกันจนเขาหย่า เขารับรู้เรื่องนี้มาตลอด แล้วที่เขาบอกว่าไม่เคยเจอพี่หนุ่มเลย เขาโกหกค่ะ เขาเคยเจอกันแล้วค่ะ ที่บ้านโอ๋”

คุณทำให้เขาเข้าใจได้มั้ยว่าคุณกับเขายังเป็นผัวเมียกันอยู่?

จ๊ะโอ๋ : “คือมันอาจจะเป็นที่ตัวหนูเอง ไม่เด็ดขาดด้วย อันนี้หนูยอมรับ อาจทำให้เขาคิดว่าหนูยังรักเขาอยู่ แต่จริงๆ ตัวหนูเองพูดตลอดว่าเราไม่ได้รักกันแล้ว เราทั้งคู่ไปด้วยกันไม่ได้ เราจะอยู่ฉันท์พี่น้องหรือพ่อแม่ ที่ไม่ทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ต้องทะเลาะกัน ลูกเจอหน้าพ่อไม่ได้ เราเลยให้เขามาเจอลูกรับส่งลูกในสิ่งที่เขาต้องการ ก่อนหน้านี้ปีแรกเขายังรับส่งลูกอยู่ หนูหย่าปี 66 ปี 67 เขายังรับส่งลูกได้ปกติ ไม่เคยมีปัญหาเลย พอเข้า 68 ช่วง 5-6 เดือนหลัง เขาเริ่มมีปัญหาซึ่งไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรหนักขนาดนั้นเริ่มมีการขู่ อย่างคลิปที่เห็นว่าจุ๊บกัน ก่อนหน้านี้ถ้าไม่จุ๊บเขาก็ยิงตัวเองค่ะ”

คุณพูดจริงเหรอ?

จ๊ะโอ๋ : “ไปสืบเช็กประวัติที่รพ.ได้เลยค่ะ”

ช่วงไทม์ไลน์ที่คบหากัน ตั้มอยู่ในบ้าน มีการมาส่งหน้าประตู เดินไปจุ๊บกัน คุณไม่ใยดี?

จ๊ะโอ๋ : “ใช่ หัวหนูถอยหลัง หนูไม่รู้จะพูดยังไง”

คุณหันทำไม หันให้เขาจุ๊บเหรอ?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ค่ะ หันเพื่อจะบอกว่าเขาต้องพาคนอีกคนนึงไปเป็นพยานในคดีให้ด้วย วันนี้เป็นชุดที่หนูกำลังจะไปขึ้นศาล ตอนเขาจุ๊บหนูก็ถอยหลัง”

ล่าสุดรถปอร์เช่สีเขียว?

จ๊ะโอ๋ : “เขาก็ชะโงกเข้าไป ทำเหมือนจะหยิบของ รถนี้เขาเอารถไปล้าง”

เขาบอกเขาใช้รถคันนี้ด้วย?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ค่ะ เขาจับรถคันนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง เขายังพูดกับหนูว่าขอบคุณหนูมากๆ นะที่ทำให้เขาได้ขับรถแพงๆ พี่ไม่คิดเลยว่าหนูจะไว้ใจให้พี่ได้ขับได้จับคันนี้”

ทำไมไม่ปิดกระจกทับหัวมัน?

จ๊ะโอ๋ : “หนูเปิดกระจก บอกเขาว่าพอออกจากบ้านไปแล้วอย่าลืมปิดประตู ส่วนมากบ้านหนูเปิดประตูกว้างเอาไว้ พอหนูกลับมา เขาก็กลับไปนอนบ้านเขา”

คุณให้เขามาอยู่ในบ้านทำไม?

จ๊ะโอ๋ : “มาอยู่มาเจอลูกอยากรับส่งอะไรลูก ถ้าไม่ทำแบบนี้เขามาเจอลูกไม่ได้ เขาจะยิงตัวเอง จะยิงคนในบ้าน จะยิงลูก วันนั้นที่ทะเลาะกัน ตัวโอ๋รู้สึกว่าเขาต้องทำจริงแน่ๆ คือการที่เขาเอาปืนจ่อหัวลูกในขณะที่ลูกหลับ เขาบอกจะเริ่มยิงจากลูกก่อน แล้วก็มึง จะยิงทุกคน แล้วยิงตัวเองเป็นคนสุดท้าย ตอนแรกหนูคิดว่าเขาขู่ ยังปากดีเหมือนเดิม ไล่เหมือนเดิม ยังไม่แยแส ไม่รู้สึกว่าอะไร เพราะรู้สึกว่าฉันไมได้อะไรกับเธอแล้ว จนล่าสุดทะเลาะกันบ่อยแล้ว เขาถือปืนมาเดินรอบบ้าน เป็นปืนยาวๆ เดินรอบบ้าน เดินชักปืน”

คุณยืนยันว่าการที่เขาจุ๊บคุณ คุณห้ามไม่ได้?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ”

ถ้าคุณห้ามเขาจะเป็นยังไง?

จ๊ะโอ๋ : “เขาจะยิงค่ะ”

เคยมีเหตุการณ์นั้นเหรอ?

จ๊ะโอ๋ : “มีค่ะ”

บางเรื่องเคลียร์ บางเรื่องไม่เคลียร์ เคลียร์มุมความสัมพันธ์ที่คุณพยายามจะบอก  แต่เรื่องจุ๊บ คุณไม่ยอมให้จุ๊บไม่ได้เลยเหรอ?

จ๊ะโอ๋ : “มันมีเหตุการณ์นั้น เขายิงตัวเองค่ะ เกิดเหตุการณ์ที่เราไล่เขา เราอึดอัดกับความสัมพันธ์ที่เขาแบบ ฉันรอเธอ ฉันรักเธอ ฉันไม่อยากไปไหน พอเราบอกว่าไม่ได้ เราด่า จนวันนึงเราด่า เราไม่ไหว เราก็บอกว่ากูไม่ได้รักมึง มึงไปจากกูสักที มึงไปเถอะ เขาก็ถือปืนมาเลย งั้นก็ตายไปด้วยกัน เราก็ไล่เขา ล็อกบ้าน เราเริ่มกลัวแล้ว เขาก็ออกไปยิงตัวเอง ยิงตรงพุงเขา เย็บประมาณ 8-9 เข็ม เขาบอกมีคนผลักเลยแฉลบไป เขายิงเสร็จก็มีคนโทรเข้าเบอร์ลูก บอกว่าพ่ออยู่รพ.นะ หนูขับรถเอาลูกไปส่ง หนูไม่เข้าไปดูเลยค่ะ เหตุการณ์เกิดเมื่อ 5-6 เดือนที่แล้วค่ะ”

ประวัติที่รพ.มันเช็กได้นะ ถ้าไม่มีคุณเสียคนเลยนะ?

จ๊ะโอ๋ : “เช็กเลยค่ะ”

ท้าเลยนะ?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ ที่หนูรู้ว่าเขาทำจริง เวลาหนูให้เงินเขาไปทำธุรกิจ เวลาเขามีปัญหาก็จะเกิดเรื่อง แจ้งความเอาปืนไปขู่กันบ้างไปตีไก่ เขาจะค่อนข้างเป็นนักเลงในมุมฝั่งที่เขาทำธุรกิจ เกิดเรื่องราวแจ้งความต่างๆ นานาเยอะมาก ตอนหลังๆ หนูไม่เอาตัวเข้าไปเกี่ยวแล้ว เพราะรู้สึกว่าหนูก็ไปใช้ชีวิตของหนูให้รอด เพราะไปใช้ชีวิตทางนั้นไม่รอด”

เคยเห็นว่าตั้ม มีความดีตรงไหนบ้าง?

จ๊ะโอ๋ : “เขามีความดีก่อนหน้านี้ ช่วงที่เรายังเด็ก บ้านเราไม่มี สถานะทางบ้านเราจน เขาทำธุรกิจของเขาอยู่แล้ว ซึ่งเราไม่รู้ว่าเขาทำอะไร แต่เรารู้ว่าเวลาจะกินเรามีเงินกิน เราอยากได้เสื้อผ้า เขาซื้อให้หมดเลย”

เขาไม่ใช่ผัวที่ดีเหรอ?

จ๊ะโอ๋ : “เขาเป็นคนที่ดีค่ะ แต่เราให้เขาเลือกแล้วว่าระหว่างไก่กับเรา ช่วงหลังๆ ที่เราเริ่มทะเลาะกันเรื่องเงิน เขาไปตีไก่ อย่างเงินหมื่นตัวเขาพูดเองว่าสำหรับเขามันคือเงินร้อย ฉะนั้นเวลาไปตีไก่แต่ละที ให้เขาแค่นี้ไม่ได้ ต้องเอาเยอะๆ”

คุณเป็นคนให้เงินเขา?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ เราเกิดความอึดอัดในหัวใจ เราถามเขา 7-8 ครั้งว่าระหว่างไก่กับโอ๋เลือกอะไร เขาไม่เลือก จนเราคิดว่าคนนี้ไม่ใช่ ปรึกษาธุรกิจไม่ได้ ไม่เคยถามธุรกิจเราเป็นยังไง วันที่เราล้มเรื่องธุรกิจมีแต่คำด่า สมน้ำหน้า ไม่มีคำปลอบใจเลยสักนิดเดียว เราเลยรู้สึกว่าเขาไม่ใช่แล้ว เริ่มอยากได้เงินเยอะๆ บางทีเคยเอาเงินที่จะลงทุนไปไว้กับเขา เขาก็เอาไปตีไก่หมด”

พอถามว่าผัวคนนี้ไม่มีความดีเลยเหรอ หนูก็พูดออกมาเป็นความไม่ดีอีกแล้ว?

จ๊ะโอ๋ : “ความดีคือเขาเลี้ยงลูกให้ค่ะ เราทำงาน”

เป็นผัวที่ดีกับเรามั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “เป็นผัวที่ดีค่ะ ในมุมที่เลี้ยงลูกให้ รักเรามาก เราคิดแบบนั้น หนูมองแบบนั้น”

แต่มีข้อเสียมากกว่าเหรอ?

จ๊ะโอ๋ : “มันเหมือนเราอยู่ด้วยแล้วมันไม่ใช่ มันเหมือนเรากับเขาเดินคนละทาง ด้วยหนูยังเด็กที่เราคบกันแล้วเราท้อง มันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันน้อยมาก พอเรามาเจอก็คิดว่าอันนี้ก็ไม่ใช่ อันนั้นก็ไม่ใช่ แต่ถามว่าเขาดีกับเรามั้ย เขาดีค่ะ เป็นความผิดของหนูเองที่หนูคิดในส่วนตัวของหนูเองว่าเขาไม่ใช่คนที่จะอยู่กับเราแล้ว หนูโทษตัวเองเลยค่ะเรื่องนี้ การเลิกกันครั้งนี้หนูก็ยังโทษตัวเอง จะไม่โทษเขาเลย หนูโทษตัวเองค่ะ หนูผิดเพราะมองว่าเขาไม่ใช่ ส่วนเขามองว่าฉันจะใช้เงินของฉันอย่างนี้ ฉันจะตีไก่ของฉันอย่างนี้ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ในมุมของหนู หนูก็มองว่าเราไปด้วยกันไม่ได้ หนูมองว่าเป็นความผิดหนูเลย” 

คุณยินดีจะพูดทุกเรื่อง วันนี้คนจะถล่มด่าคุณนะ?

จ๊ะโอ๋ : “โอเคค่ะ หนูยอมรับ ด่าหนูได้เลยค่ะ หนูผิด”

“คุณนิด” เป็นคนไปไหนมาไหนกับจ๊ะโอ๋ตลอดเวลา รู้เรื่องราวทั้งหมด เหมือนสันต์ รู้จักมั้ย?

จ๊ะโอ๋ : รู้จักค่ะ

เขาบอกคุณทะเลาะกันผัวออกจากบ้าน คุณโทรปุ๊บสองนาทีผัวเข้าบ้านเลย จริงมั้ย?

จ๊ะโอ๋ : ตัวพี่ตั้มไม่มีเบอร์โอ๋เลยค่ะ โอ๋มีแต่ไม่เคยโทรหาเขา

ตั้มไม่มีเบอร์คุณ จริงเหรอ?

จ๊ะโอ๋ : จริงค่ะ คุยกันผ่านเบอร์แม่ นานแล้วค่ะ หลายปี

แปลก ตั้มยอมรับเองว่าไม่มีเบอร์ติดต่อฝั่งจ๊ะโอ๋ ติดต่อผ่านแม่ มีอะไรก็ผ่านแม่อย่างเดียว ตั้มบอกมาอย่างนี้ ก็แปลก ถ้าบอกว่าคบกันฉันท์ผัวเมีย อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมทุกอย่าง ตั้มก็ต้องมีเบอร์จ๊ะโอ๋สิ?

จ๊ะโอ๋ : ใช่ค่ะ ความสัมพันธ์หนูชัดเจนมากกับเขา เขาต่างหากที่คิดเองทุกอย่างค่ะ คิดในมุมที่เขารู้สึกว่าต้องเป็นแบบนี้ๆ

คุณยังเปิดโอกาสให้ตั้มมาอยู่ในบ้าน ทำไมไม่ไล่เขาออกไปเลย?

จ๊ะโอ๋ : “เราเคยไล่แล้ว เคยพูดแล้วว่าต้องออกไปนะ เราพูดกับเขาเลยว่าเราอยากพาคนใหม่ของเราเข้ามาอยู่ตรงนี้แล้ว ถ้าพามาจะเกิดอันตรายมั้ย เขาก็จะบอกว่าพามาได้ พี่ก็รู้นี่ว่าหนูมีเขา พี่ก็ไม่ได้อยู่นี่อยู่แล้ว พามาก็เรื่องของหนูสิ เราก็ถามว่าจริงเปล่าเนี่ย เราก็ลังเล แต่พอเขารู้ว่าเราดูไม่ไปทางเขาแน่ ดูท่าไม่กลับแน่นอน ที่เขารอเขาอะไรมา ก็เริ่มมีการขู่ อย่างที่เคยบอกไป หนูคิดว่าเขาพูดเล่น แต่พอเขายิงตัวเอง”

คุณขอหย่า คุณบอกเขาเลยว่าคุณคบหากับคุณหนุ่มแล้ว?

จ๊ะโอ๋ : “ใช่ค่ะ เขาไม่หย่าให้ค่ะ”

เขาบอกเขาไม่รู้เลย วันๆ อยู่ในสวน อยู่ดีๆ เมียบอกให้หย่า เขาก็ไปหย่าเลย?

จ๊ะโอ๋ :   พี่สาวเขาที่โทรเข้ามาเมื่อวาน เขาก็เล่นข่าวตั้งแต่ตอนแรกๆ เลยค่ะ พิมพ์ด่าพิมพ์ว่าโอ๋ว่าเอาเงินน้องชายเขามา เขาเป็นพี่สาว เขาไม่โทรบอกน้องชายเขาเหรอคะ

จริงๆ วันนี้สิ่งที่คุณพูดกับผม ถ้าในอดีตคุณไม่เคยมีชนักติดหลัง เรื่องคุณหน่ม กะลา กับคุณจูน ถ้าไม่มีประเด็นนั้นอยู่ เรื่องที่คุณพูดวันนี้คนจะเข้าใจเยอะมากเลย?

จ๊ะโอ๋ : “เข้าใจเรื่องนี้ดีค่ะ รู้ค่ะ”

ผมเป็นกลาง ฟังสองมุม มุมนึงซีกนึงของหัวใจผม ผมเชื่อคุณนะ แต่อีกซีกของหัวใจก็คิดว่าคนมีชะนักว่ะ จะมาเป็นแบบนี้หรือเปล่า จะใช่หรือเปล่า ผมเชื่อว่าคนดูทุกคนคิดเหมือนกัน ถ้าวันนี้คุณไม่เคยมีเรื่องแม่จูนมาก่อน สิ่งที่คุณพูดวันนี้เขารับฟัง แต่พอวันนี้เขาต้องชั่งใจและชั่งใจเยอะด้วย ความเคลือบแคลงสงสัยในหัวใจมันก็มี ทำไมอยู่ดีๆ เขาเจอคุณทำคุณไสย?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ได้ทำค่ะ เป็นรูปกระดาษเอ4 วางไว้ในห้องพระปกติเลยค่ะ อย่างที่เขาบอกเขาอยู่กับโอ่ตลอด โอ๋จะกล้าเอารูปผู้ชายไปอยู่ในบ้านให้เขาเห็น โอ๋จะทำแบบนั้นทำไม”

มันไม่เมคเซ้นส์?

จ๊ะโอ๋ : “ใช่ค่ะ แล้วที่บอกว่าเป็นหุ่นมันไม่ใช่เลย มันเป็นกรวยหมากพลู บ้านโอ๋มีขันธ์ 5 ไว้ไหว้ครูค่ะ มีกรวย มีพาน มียันต์ ซึ่งไม่ใช่ยันต์คุณไสย เป็นการจุดเทียนต่ออายุ ต่อชะตา ต่อวาสนาของเราเอง เพราะหนูค่อนข้างมู เพราะหนูอยู่กับการขายออนไลน์มาก่อนค่ะ”

ทำกับหนุ่มหรือเปล่า?

จ๊ะโอ๋ : “พี่หนุ่มรู้ค่ะ แต่ไม่ได้ไปทำด้วยกัน พี่หนุ่มรู้ว่าไปที่นี่มานะ เขาพูดมาว่าเราทั้งคู่ประสบความสำเร็จไม่อยากให้ใครเป็นช้างเท้าหลัง อยากให้ทั้งคู่เป็นช้างเท้าหน้าด้วยกันทั้งคู่”

มันมีคาถามั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่มีค่ะ”

ของคุณหรือเปล่า?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ใช่ของโอ๋ค่ะ ไม่ใช่ลายมือโอ๋ เขาเขียนว่าไอ้ณพ ไม่ใช่ลายมือโอ๋ ไอ้ณพน่าจะเป็นชื่อพี่เขา (หมายถึงหนุ่ม) เพราะพี่เขาชื่อณพสิน นี่เดานะคะ ไม่ใช่ของโอ๋ค่ะ ตัวเขาเองพอเห็น เขาบอกเป็นนั่นเป็นนี่ ทำไมไม่ทำของใส่พี่บ้าง ก็เลยบอกว่ามันไม่ใช่ของ จะทำใส่พี่ทำไมล่ะ เขาก็บอกว่าไปทำใส่เขาทำไม เขาจะเอาไปเผา เอาไปลอยน้ำ ก็เลยบอกว่าเอาไปเลย อยากทำอะไรก็ทำเลย ถ้ารู้สึกว่าไม่เป็นบ้าเป็นบอ อยู่ดีๆ มาโวยวาย รื้อของ ทำแบบนี้ทำไม เวลาหนูไม่อยู่บ้าน เขาไม่ได้บุกรุกแค่นี้ เขามาแอบขึ้นห้องหนู เขาไม่ได้ไปตัวเปล่านะคะ ที่แจ้งความก็แจ้งเรื่องนี้ด้วย เขาไม่ได้ไปตัวเปล่า เขาเอาของไปด้วยตัวเขาก็รู้ เอาอะไรไปบ้าง”

เขาบอกเขาไม่เคยเอาปืนไปจ่อหัว เขารักลูกมาก?

จ๊ะโอ๋ : “แต่ลูกไม่ได้รักเขานะคะ เมื่อวานเขาก็พูดว่าลูกไม่ค่อยรักผมหรอก ลูกเชื่อแม่”

เรื่องทั้งหมด ถ้าคุณไม่ได้ไปคบกับคุณหนุ่มกะลา คุณจะเลิกกับผัวคนนี้มั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “เลิกค่ะ”

คุณมีคนอื่นหรือเปล่า?

จ๊ะโอ๋ : “เลิกเพราะคิดว่าไม่ใช่ เราก็ต้องหาคนใหม่ อยู่ไปแล้วไม่ใช่ อยู่ไปแล้วไม่ดีขึ้น เขาไม่สามารถซัปพอร์ตธุรกิจหรือเวลาเรามีปัญหาธุรกิจได้ โอ๋ก็เลิกค่ะ”

คุณนิด เรื่องทั้งหมดที่เขาพูดเป็นยังไง?

นิด : “เขาเลิกกันแล้วก็ไปมาหาสู่ มาเจอลูกบ้างเทียวไปเทียวมา เขาหย่ากัน หลังๆ พอเริ่มมีประเด็นเขาออกไปแล้วมีปัญหากับทางนั้นทางนี้ เอาเงินไปลงทุนแล้วไม่โอเค เขาก็เริ่มกลับมามีปัญหา บางทีก็ขู่อาละวาด บางทีเขาก็พูดกับหนูว่าเดี๋ยวจะทำไม่ดี จะให้ล้มละลาย จะมาออกโหนกระแส จมไปด้วยกัน ถ้าจมปุ๊บเขาจะมาขายสครับเอง แล้วไม่ได้พูดแค่กับหนู พูดกับแม่จ๊ะโอ๋และลูกเขาด้วยค่ะ เรื่องนี้ยืดเยื้อมาสักพัก ด้วยตัวจ๊ะโอ๋ด้วยที่ไม่เด็ดขาดกับเรื่องนี้ เราก็ไม่ได้ทำอะไรกับมัน มันก็เลยมาเป็นวันนี้”

คุณบอกลูกไม่ได้รักพ่อ แต่ทำไมในแชตที่เขาเอามาโชว์มันเป็นอีกแบบนึงนะ?

จ๊ะโอ๋ : “เขาเป็นคนโทรหาลูกค่ะ ไม่นานก่อนออกรายการ น่าจะ 2 วันก่อนออกรายการ เขาโทรหาลูกว่าเขากินข้าวกับเกลือ มือเท้าชาเดินไม่ได้ จะตายแล้วโน่นนั่นนี่ พอลูกรู้ เขาก็เป็นห่วง วันที่เขาบอกว่าเข้ารพ. เขาก็โทรให้ประกันโทรหาแม่บอกว่าเอายังไงดี เขาต้องฝังเข็ม ต้องจ่ายเงินพันห้านะ แม่จะจ่ายให้มั้ย เขาให้โทรมาถาม แม่เขาก็สงสารก็จ่ายให้ แล้วก็โทรหาลูก บอกลูกจะตาย”

ก็เป็นห่วงนะ?

จ๊ะโอ๋ : “นี่ลูกคนโตนะคะ เป็นห่วงเพราะเขาโทรมานั่นแหละค่ะว่าเขาจะตาย ลูกขับรถไปหาเลยค่ะที่บ้าน”

นิด :   “ลูกเข้าใจว่าเขาเดินไม่ได้ พูดไม่ได้แล้ว แต่เขาก็มานั่งในโหนกระแส”

จ๊ะโอ๋ :   “ลูกบอกว่าพ่อเป็นจริง จะเดินหนูยังประคองพ่อให้เดินเลย อีกวันมาออกโหนกระแส หนูก็งงเหมือนกันนะ”

คุณยืนยันว่าถ้าวันนี้ไม่ได้มีบุคคลที่สามเข้ามาในชีวิต คุณก็จะเลิกกับตั้มอยู่ดี?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ เพราะไปกันไม่ได้ เขารู้ว่าหนูไม่ได้รักเขา”

คุณคิดว่าคนดูจะเชื่อคุณมั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “เขาไม่เชื่อหนูหรอกค่ะ หนูไม่ดีมาก่อน คำพูดหนูไม่มีน้ำหนัก รู้ค่ะ รู้ว่าอดีตเป็นยังไง สิ่งที่ทำมากับสังคม กับการที่สังคมตัดสินเราไปแล้ว อันนั้นหนูยอมรับผิด หนูรู้ว่าหนูไม่ดี คำพูดหนูวันนี้อาจเหลือแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ เข้าใจทุกคนมากๆ ว่าพูดอะไรไปคำพูดหนูไม่มีน้ำหนัก แต่หนูอยากพูดในมุมของหนูบ้างที่หนูต้องแบกรับเรื่องนี้มา กับการที่คนมองว่าหลอกตั้มมั้ย หลอกพี่หนุ่มมั้ย หนูแบกรับเรื่องนี้มาเกือบปีแล้ว กับการที่เขามาขู่เรา ทำทุกอย่าง ยิงตัวเอง ยิงครอบครัว หนูบอกเลยว่าหนูมองครอบครัว ความปลอดภัยของครอบครัวเป็นหลัก หนูเลยเลือกไม่แจ้งความคิดว่าไม่เป็นไร เราคุยกันได้ เพราะทุกครั้งเราคุยกันได้ตลอด ถ้าเขาโวยวายก็จะบอกว่าอยากได้อะไรพูด อยากได้อะไรเคลียร์ เพราะถ้าทำแบบนี้ลูกจะอยู่ไม่ได้นะ เขาก็พูดตลอดว่าเขาไม่ได้อยากได้อะไรเลย เขาอยากได้แค่ตัวโอ๋เท่านั้น เขาพูดตลอดว่าไม่มีใครรักโอ๋เท่าเขา เขาพูดว่าไม่มีใครรักมึงเท่ากูหรอก ไอ้หนุ่มมันไม่รักมึงหรอก จะพูดว่าสารพัด เขาจะมีมุมมองว่ายังไงเราก็ต้องเลิกกันแน่ ยังไงเราก็โดนทิ้ง เขาก็เลยคิดว่ากูอยู่ เดี๋ยวมึงก็กลับมา”

คุณบอกหนุ่มยังไง ในเมื่อผู้ชายคนนี้ยังอยู่ในบ้าน?

จ๊ะโอ๋ : “หนูเล่าให้ฟังว่าผู้ชายคนนี้ยังวนเวียนอยู่ในบ้าน ก่อนให้เขาเข้ามาเจอลูกก็บอกตลอดว่ามีเรื่องแบบนี้นะ เขาก็รับรู้มาตลอด แต่สิ่งที่เขาไม่เคยรู้เลยคือเรื่องที่เห็นพร้อมกันทั้งประเทศ ที่เป็นคลิปเขาเดินเข้ามาจุ๊บ เขาเห็นพร้อมทุกคนเลยค่ะ เขาเสียใจค่ะ หนูเข้าใจความรู้สึกเขาเลย (เสียงสั่น) อันนั้นคือจุดที่หนูรู้สึกว่าหนูก็ไม่ควรทำแบบนั้น หนูไม่ชัดเจนเองตรงที่หนูไม่กล้าบอกเขาด้วยว่าเราโดนขู่ โดนคุกคามมาตลอด จนล่าสุดที่เขาต้องมาออกข่าวเพราะหนูทนไม่ไหวแล้ว หนูตัดสินใจเล่าให้เขาฟัง ว่าหนูโดนคุกคาม จะยิง ลูกโดนแบบนี้ๆ นะ เขาเลยทักไปหาตั้มว่าให้หยุดทำแบบนี้ซะนะ ถ้าคุณทำแบบนี้แสดงวึ่คุณมีปัญหากับผม จากนั้นเขาก็ไม่ได้เข้ามาอีกเลย ปกติจะเข้ามารับลูก ทำเป็นวันนี้ขออาบน้ำหน่อยนะ ขอตังค์มั่งดิ จะมีพฤติกรรมแบบนี้ตลอด ตัวเราเองก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร ลูกยังได้เห็นหน้าพ่อ หนูไม่โทษใครเลยค่ะ หนูโทษตัวหนูเอง”

ปล่อยให้เขาเข้ามายุ่มย่ามชีวิตมากเกินไป?

จ๊ะโอ๋ : “ใช่ค่ะ หนูโทษตัวหนูเอง โทษตัวหนูเองด้วยที่ทำให้พี่ตั้มรู้สึกว่าหนูยังรักเขาอยู่ การที่เราให้เขาเข้ามาเจอลูกในบ้านแล้วเขาทำพฤติกรรม จริงๆ บางทีหนูเอามือดันเขาบ้าง เอาเท้าถีบหน้าอกเขาบ้าง”

มีคลิปพวกนั้นมั้ย กล้องวงจรปิด ที่เขาบอกว่ามีปืนรอบบ้าน?

จ๊ะโอ๋ : “หนูเพิ่งรู้ค่ะว่ากล้องวงจรปิดถูกล็อกโดยเขาเอาไปไว้ที่เครื่องเขาหมดแล้ว เพิ่งรู้ว่าความปลอดภัยในบ้านเราไม่มี โดยการที่คนอื่นสามารถมาดูการใช้ชีวิตของเราจากเครื่องของคนอื่น กล้องวงจรปิดของหนูดูไม่ได้ตั้งแต่เดือนธ.ค. หนูเอากล้องวงจรปิดที่เขาถือปืนรอบบ้าน แต่ร้านบอกว่ามันดูไม่ด้แล้วนะ เบอร์ล็อกอินด้วยเบอร์ที่ลงท้ายด้วย 904 ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ใคร ไม่รู้ใครมาดูการใช้ชีวิตของหนูในบ้านอยู่”

กล้องวงจรปิดดูในโทรศัพท์ได้ แต่ประเด็นคือคนต้องมีรหัสถึงจะล็อกอินไปดูได้ วันดีคืนดีทำไมดูไม่ได้ ก็เอาเซิร์ฟเวอร์ไปให้ช่างดู ช่างบอกว่ารหัสทั้งหมดถูกเปลี่ยนไปเป็นอีกรหัสนึง?

นิด : “เขาต้องปลดล็อกโดยการส่งรหัสไปที่เบอร์นี้ ซึ่งเราไม่รู้ว่าเบอร์ใคร ช่างเลยยกไปที่ศูนย์เพื่อปลดบล็อก ถ้าปลดไม่ได้ก็ต้องซื้อเครื่องใหม่”

กระทั่งภาพคลิปวิดีโอมาปรากฏสู่สาธารณชน แสดงว่าใครมีคลิปก็แสดงว่าเขาเปลี่ยนเบอร์ นั่นก็คือตั้ม?

จ๊ะโอ๋ : “หนูก็ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนั้นเหมือนกัน เหมือนที่พี่สาวเขาพูดว่าเขาให้น้องชายหาหลักฐานเพื่อที่จะมาวันนี้เพื่อที่จะทำลายหนู”

ทำไมคุณพยายามพูดตลอดว่าที่ผ่านมาหนูผิดเอง คุณผิดอะไร?

จ๊ะโอ๋ : “ข่าวที่เคยเกิดขึ้น ที่มีคดีความตอนนั้น หนูไม่เคยสบายใจสักครั้งเดียว กับการที่ต้องออกมาเจอคน หรือออกมานอกบ้าน หรือต้องเอาหน้าตัวเองออกมาขายของ ต้องทำเหมือนฉันไม่แคร์ ฉันไม่รู้สึก แต่จริงๆ ไม่ใช่เลยค่ะ จริงๆ โอ่ รู้สึกผิดมาตลอด และเป็นตราบาปของชีวิตมาก ที่เราทำเรื่องนั้นไป หลายๆ เรื่องพอเกิดขึ้นมาทุกคนต้องเดือดร้อน โอ๋ขอรับความผิดนี้ไว้ทั้งหมดค่ะ”

คือเรื่องคุณหนุ่ม?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ หนูผิดค่ะ เรื่องพี่ตั้มหนูก็ผิด หนูเองชัดเจน แต่เขาคิดว่าเขายังรอหนูได้ หนูสามารถกลับไปหาเขาได้ตลอด แล้วเรื่องที่หนูไม่ได้คุยกับเขาให้ชัดเจนเรื่องทรัพย์สิน เพราะหนูถามเขาตลอดว่าเขาจะเอาอะไร เขาพูดแต่คำว่าไม่เอา เขาขอแค่เรา จะพูดแบบนั้น เขารักเรา จะตายไปกับเรา ต้องตายไปด้วยกันเท่านั้น เราปล่อยวางเรื่องนี้มาตลอด โดยไม่รู้ว่าจริงๆ เขาก็คิดเรื่องนี้ จนมารู้เมื่อวานที่เขาพูดเรื่องสินสมรส”

นิด : “ถ้ามีโอกาสจะเจรจาก็อยากให้เคลียร์ อยากให้จบวันนี้ ไม่อยากให้ส่งผลกระทบถึงลูกของเขา”

คุณพร้อมเจอเขามั้ย เท่าที่ฟังตั้มเขาต้องการสินสมรส?

จ๊ะโอ๋ : “หนูตั้งใจไว้อยู่แล้วค่ะ ว่าถ้าจบรายการหนูจะติดต่อคุยกับเขา ติดต่อหาเขาค่ะ”

เรื่องที่ดินที่มีซื้อหาด้วยกันมา?
จ๊ะโอ๋ : “ได้ค่ะ หนูไม่อยากยืดเยื้อ เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับลูกล้วนๆ เลยค่ะ หนูไม่รู้หรอกว่าวันนี้เขาจะอะไรยังไงต่อ หนูยอมแพ้”

การที่คุณออกมาพูดตรงนี้ วันนี้ คุณคิดว่าตั้มจะทำอะไรต่อไปมั้ย เขาอาจออกมาโวยวายมาเปิดอะไรอีกหรือเปล่า?

จ๊ะโอ๋ : “หนูไม่รู้หรอกว่าถ้าเขาดูรายการแล้วเขายังรู้สึกอะไรอยู่ หนูยอมแพ้ค่ะ (ร้องไห้) หนูยอมแพ้แล้ว (ร้องไห้) หนูไม่อยากคิดสู้อะไรกับใครแล้ว หนูยอมแพ้ หนูสงสารลูก (ร้องไห้)”

สถานภาพคุณกับคุณตั้ม ถ้าเขาบอกว่าเขาต้องการให้คุณกลับไปอยู่กับเขา?

จ๊ะโอ่ : “หนูเข้าไปอยู่กับไม่ได้ค่ะ แต่หนูให้เขาเจอลูกได้นะคะ ให้เขาเจอลูกได้ปกติ หนูจะไม่ขัดขวางอะไรเรื่องนี้ จะยังให้ลูกไปหาเขา ให้เขาได้ใช้ชีวิต ทุกอย่าง ให้เขาเจอลูกได้ปกติเลยค่ะ”

สถานภาพคุณกับคุณหนุ่ม จะยังไงต่อไป?

จ๊ะโอ๋ : “หนูไม่รู้ว่าหลังจากนี้พี่เขาจะยังไงกับหนูต่อ เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็เป็นเรื่องที่กระทบจิตใจพี่เขามากๆ หนูผิด หนูทำร้ายความรู้สึกเขา หนูทำให้เขาต้องเสียใจ (ร้องไห้) หนูเลยไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไงค่ะ”

มุมคดีความกับคุณจูน ตอนนี้เป็นไง?

จ๊ะโอ๋ : “หนูไม่ได้ยื่นฎีกาต่อแล้วค่ะ หนูก็อยากจบเรื่องนี้ค่ะ หนูอยากเคลียร์ทุกอย่าง”

ล่าสุดคุณจูนโพสต์ข้อความ เขาเห็นคุณออกรายการ เขาฝากถามหนึ่งคำถาม 4 ล้านจะจ่ายกี่โมง?

จ๊ะโอ๋ :   “เดี๋ยวหนูคุยและเคลียร์เรื่องที่จะจ่าย ว่าเราจะเริ่มจ่ายยังไงค่ะ ตัวหนูเองไม่ได้ยื่นแล้วนะคะ หนูไม่ต่อแล้ว หนูไม่ยื่นฎีกาไม่อะไรแล้ว ตอนนี้หนูปล่อยให้หมดขั้นตอนของศาลที่จะสั่งให้คุยหรือเรียกคุย หนูไม่ได้สู้อะไรต่อแล้วค่ะ”

เรื่องรถปอร์เช่ ตกลงเป็นของใคร เขาบอกว่าเป็นรถที่หามากับคุณ?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่เลยค่ะ เป็นรถพี่หนุ่มค่ะ พี่เขาออกดาวน์ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ จ๊ะโอ๋ 30 เปอร์เซ็นต์ค่ะ วันที่เขาได้ขับ เขาบอกว่าเขาไม่คิดเลยว่าหนูจะใจดีให้เขาได้ขับรถแพงๆ ขนาดนี้ พี่ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้มาขับรถอะไรแบบนี้”

ยืนยันว่าเป็นรถคุณหนุ่ม เขาบอกคุณเอาทองไปขายดาวน์รถ?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ค่ะ ทองนั้นหนูซื้อใหม่ เป็นทองของหนูเอง หนูซื้อตอนหนูขายของได้ ของเขามันไม่มีแล้วค่ะ”

คุณจะจบยังไง?

จ๊ะโอ๋ : “เรื่องตัวโอ๋เองกับพี่ตั้ม เดี๋ยวหลังจบรายการ โอ๋ก็จะโทรคุยโทรเคลียร์เขา เรื่องที่เขาอยากได้ จริงๆ ตัวโอ๋เองก็เป็นเด็กบ้านนอกคนนึง ก็ไม่คิดว่าการใช้ชีวิตของตัวเองจนตัวเองประสบความสำเร็จ จนสังคมจับตา จับจ้อง มอง และได้ทำสิ่งที่พลาดไปในอดีต โอ๋ก็ต้องขอโทษสังคมค่ะ (ยกมือไหว้) ขอโทษแม่ ครอบครัวของตัวเอง ขอโทษครอบครัวพี่หนุ่มด้วยนะคะ (ร้องไห้) ขอโทษพี่หนุ่มมากๆ ที่ทำเรื่องนี้โดยความขี้ขลาดของตัวเอง กลัวคนนึงจะมาทำร้ายเรา โดยไม่ได้มองความรู้สึกของอีกคนนึงที่คบกับเราอยู่ ว่าเขาต้องเจ็บปวดแค่ไหน ขอโทษมากๆ ค่ะ (ร้องไห้)”

จากนี้ความสัมพันธ์คุณกับหนุ่ม กะลา?

จ๊ะโอ๋ : “หนูตอบไม่ได้ หนูทำร้ายพี่เขาค่ะ ทำร้ายความรู้สึกเขา เรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ พี่เขาก็โดนด่านะคะ ว่ารวมหัวกับโอ๋ทำร้ายพี่ตั้ม จริงๆ เรื่องนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับพี่เขาเลยนะคะ ไม่เกี่ยวกันเลยค่ะ เป็นความผิดของโอ๋คนเดียวค่ะ (ร้องไห้)”

เคยคิดมั้ยสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณวันนี้เหมือนวงล้อ วันนึงเราทำให้ใครคนนึงเสียใจ แล้วมันก็วนกลับมา เราก็ต้องเสียใจกับเรื่องแบบนี้เหมือนๆ กัน กับสิ่งที่คนๆ นึงเคยโดนเหมือนกัน คิดมั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “คิดค่ะ คิดว่าเป็นแบบนั้น มันเริ่มจากที่ตัวเรา ก็จะจบที่ตัวเราค่ะ เริ่มจากมือหนูเอง ก็จบจากมือหนูเองเหมือนกัน กับสิ่งที่เราตัดสินใจ ตั้งแต่เริ่มต้นจนมาถึงวันนี้ หนูไม่ได้โทษใคร  หนูโทษตัวเอง หนูผิดค่ะ”

มันคือกงกรรมกงเกวียน?

จ๊ะโอ๋ : “ค่ะ”

จะดูแลกันต่อไปยังไง?

นิด : “ไม่เป็นไรค่ะ จะได้เริ่มต้นใหม่กันได้ แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้เคลียร์เรื่องพี่ตั้มสักที การข่มขู่หรือการที่ต้องมานั่งด่าทอกัน ให้ลูกฟัง หนูคิดว่ามันจบแล้ววันนี้ เพราะได้พูดคุยกันจริงๆ ในสิ่งที่ทุกคนต้องการ เวลาทะเลาะกันมันหาข้อสรุปไม่ได้ แต่วันนี้ทุกคนได้ออกมาพูดในมุมของตัวเองกันหมดแล้ว หนูว่าถ้าเราได้มาคุยกันจริงๆ มันจะได้จบสักทีนึงค่ะ เรื่องคลิป ก่อนหน้านี้ปล่อยอะไรออกมาเราจะไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าหลังจากนี้ มันเป็นภาพในครอบครัว ถ้าหลุดออกมา ฟ้องแน่นอน”

จ๊ะโอ๋ : “หนูจะฟ้องคนที่ปล่อยค่ะ”

ถ้าทำแบบนั้น คุณเสียค่าทนายมันแพงเกินไป คุณให้รื้อกล้องวงจรปิดออกจากบ้านแล้วตั้งตัวใหม่ เซิร์ฟเวอร์ใหม่ จบ ง่ายกว่าหรือเปล่า ไม่ต้องมาตั้งคำถาม เราปกป้องตัวเองได้ รื้อกล้องวงจรปิดออก ทำได้ ง่ายกว่า เซฟกว่า แต่หลังจากนี้ คิดว่าคงมาวุ่นวายอะไรไม่ได้อีก จะให้เขาเข้ามาในบ้านอีกมั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “ให้ลูกไปหาดีกว่าค่ะ”

ถ้าเขาทวงสิทธิ์ว่าบ้านหลังนี้ก็สินสมรส เขามีสิทธิ์จะเข้า?

จ๊ะโอ๋ : “ก็เดี๋ยวไปคุยกันอีกทีว่าเขาจะเอาบ้านหลังนี้ไป หรือจะให้ลูกอยู่ ก็ต้องคุยกันอีกทีค่ะ”

ถ้าคุณหนุ่ม กะลาบอกว่าเรื่องนี้ทำให้เขาเสียชื่อเสียงมาก เขาเซย์กู้ดบาย รับได้มั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “รับได้ค่ะ (ร้องไห้) จริงๆ แค่เขาคุยด้วย ระหว่างที่ผ่านมาที่เกิดเรื่อง หนูก็รู้สึกดีใจมากๆ แล้วค่ะ เข้าใจความรู้สึกพี่เขาทุกอย่างเลย เข้าใจมากๆ เข้าใจว่าเวลาเขาต้องเจอคน คนต้องด่า ต้องว่าเขา เข้าใจมากๆ พี่เขาเสื่อมเสียทุกอย่างมามากพอแล้วกับผู้หญิงคนนี้ (ร้งอไห้) ถ้าวันนี้เราจะไม่ได้เดินด้วยกันต่อ โอ๋ก็ยอมรับค่ะ เพราะโอ๋ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อเหมือนกันค่ะ”

ไม่มีหนุ่ม กะลา วันนี้คุณจะกลับไปหาตั้มมั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่กลับค่ะ”

ถ้าเขาขอโอกาสอีกครั้ง?

จ๊ะโอ๋ : “มันไม่มีโอกาสนั้นแล้วค่ะ มันไม่เคยมีโอกาสด้วยค่ะเอาจริงๆ ไม่เคยมีโอกาสตั้งแต่หนูตัดใจ วันที่เราแยกกัน มันไม่มีวันนั้นแล้ว วันที่เขาไม่ยอมเลือกว่าเขาเลือกไก่หรือเลือกหนู วันไหนเขาหันกลับมาเขาจะไม่เจอหนูแล้ว หนูพูดคำนี้ตลอดค่ะ”

คุณเคยพูดกับตั้มว่าไม่ได้รักเขาแล้ว?

จ๊ะโอ๋ : “พูดค่ะ หนูไม่ได้รักพี่ กูไม่ได้รักมึง เขาก็บอกว่าไม่จริง แหม อยากมีมีดจัง อยากเอามากรีดหัวใจ หนูปากไม่ตรงกับใจ กรีดออกมายังไงก็มีพี่ หนูก็ตอบกลับไปว่าไม่มี (ร้องไห้) กรีดออกมาไม่เจอหัวใจหนูหรอก หัวใจหนูให้พี่หนุ่มไปหมดแล้ว หนูพูดแบบนี้จริงๆ เขาก็บอกว่าเจ็บว่ะ หนูพูดความจริงทุกอย่าง มีแต่เขาที่รับไม่ได้เรื่องนี้”

มีคำถามมากมาย ที่คุณพลอย พี่สาวคุณตั้มฝากให้ถาม แต่คงไม่ได้ถามแล้ว เพราะจ๊ะโอ๋ยอมแพ้แล้ว?

จ๊ะโอ๋ :   “หนูยอมแพ้แล้ว หนูสงสารลูก (ร้องไห้) เรื่องทรัพย์สินเดี๋ยวเรามาเคลียร์กันให้จบ หนูยังต้องดูแลลูก ดูแลคนอีกเยอะ ถ้าพี่จะทำอะไรต่อ พี่ทำเลย หนูยอมแพ้ค่ะ (ร้องไห้)”

เขาบอกถ้าจนก็จะจนด้วยกัน?

จ๊ะโอ๋ : “ถ้าไม่มีลูกแล้วพูดคำนี้หนูโอเคมากเลย กินก้อนเกลือไปด้วยกันหนูโอเคมาก แต่วันนี้มีลูก หนูไม่ยอมจนกับพี่ (ร้องไห้) หนูให้ลูกเรียนโรงเรียนวัดไม่ได้ หนูอยากให้เขามีอนาคตที่ดี อยู่ในสังคมที่ดี ยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ หนูถึงยืนหยัดกับการที่ไม่ยอมเขา หนูทำเรื่องนั้นไม่ได้ หนูยืนยันในหัวใจตัวเองและหนูก็มั่นคงว่าหนูไปกับเขาไม่ได้จริงๆ หนูไม่กลัวกับสิ่งที่เขาทำ ก็ให้เขาทำ จะได้คอมพลีตที่เขาอยากให้หนูพัง ไม่มีกิน ให้ลูกเรียนโรงเรียนวัด วันนี้พี่ทำสำเร็จแล้วนะ (ร้องไห้) พี่ออกรายการโหนกระแสพี่ทำสำเร็จแล้วนะพี่ตั้ม (ร้องไห้) หลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป ยังไงหนูก็ต้องดิ้นรน ถึงแม้วันนี้กลับไปหนูจะไม่มีใครสั่งของ ไม่มีใครซื้อของ มีแต่คนเกลียด สังคมประณามด่าว่ายังไง หนูก็จะไม่หยุดดิ้นรน (ร้องไห้) เพราะหลักๆ ของหนูหนูต้องการให้ครอบครัวหนูมีกิน หนูเคยลำบาก หนูเคยจนมาก่อน หนูจะไม่กลับไปอยู่ในจุดๆ นั้น หนูจะดิ้นรนของหนูไปเพื่อลูก เพื่อแม่ เพื่อครอบครัว (ร้องไห้) หนูยอมรับว่าวันนี้คนอาจจะด่า ว่าหนูไม่ดี หนูยอมรับหมดเลย หนูขอโทษทุกคนหมดเลย ขอโทษสังคม ตัวหนูเองไม่ดี หนูยอมรับ หนูขอโทษค่ะ (ร้องไห้) ขอโทษครอบครัวพี่หนุ่ม ถ้าดูอยู่นะคะ ขอโทษพี่หนุ่ม ขอโทษแม่ของโอ๋ ครอบครัวโอ๋เอง ขอโทษพี่จูนนะคะ (ร้องไห้พร้อมยกมือไหว้) หนูผิดกับพี่ (สะอื้น) หนูขอโทษ (สะอื้นหนักขึ้น)”

คุณไม่ได้มาต่อสู้ แต่คุณหมอบ?

จ๊ะโอ๋ : “หนูไม่รู้จะมาสู้เพื่ออะไรค่ะ เรื่องนี้คนที่เจ็บที่สุดคือลูก หนูไม่รู้ว่าหนูสู้ไปหนูชนะแล้วได้อะไร พี่ตั้มชนะแล้วได้อะไรจากเรื่องนี้ (ร้องไห้) คนอยู่ระหว่างกลางเรื่องนี้คือลูก ฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ หนูยอมแพ้เองกับเรื่องนี้ จะทำอะไรก็ทำเลยค่ะ หนูยอมแพ้ (ร้องไห้)”

จริงหรือเปล่าเขานอนห้องเดียวกับคุณ นั่งฟังคุณจู๋จี๋กับผู้ชายตลอดเวลา?

จ๊ะโอ๋ : “ไม่จริงค่ะ หนูนอนกับลูกทุกวัน”

เขาได้ยินที่ไหน?

จ๊ะโอ๋ : “เวลาเขาเข้ามาในบ้าน หนูคุยโทรศัพท์ หนูไม่สามารถคอนโทรลตรงนั้นได้หรอกค่ะ เพราะเขาจะเข้าออกบ้านได้ตลอด ตอนกลางคืนหนูคุยนอนอยู่กับลูก จนวันนึงลูกพูดว่าแม่ เวลาแม่คุยโทรศัพท์ หนูก็ตื่นขึ้นมานะ ก็เลยบอกว่าอ้าว ไม่รู้นะเนี่ย แม่คุยเปิดโฟนตลอดเลย”

มีอะไรอยากพูดอีกมั้ย?

จ๊ะโอ๋ : “ก็พูดเหมือนเดิมว่ายังรู้สึกผิดอยู่”

คุณโดนทนายหลอก 1.5 ล้านจริงมั้ย ไม่ใช่พี่เดชา เป็นทนายคนแรก?

จ๊ะโอ๋ : “จริงค่ะ ห้าแสนเป็นเรื่องค่าทนาย อีกล้านเป็นเรื่องเขาบอกว่าเอาไปวิ่งเต้นคดีได้ เขาเลยไม่ให้โอ๋ไปศาลเลย จากนั้นถึงมาเจอพี่เดชาค่ะ”

ครอบครัวติดต่อมาว่าอยากนัดเจอพรุ่งนี้เลย ฝากบอกคุณป้าคิมแซรน ถ้าอยากสัมภาษณ์ที่เมืองไทยผมก็ยินดี ผมก็อยากสัมภาษณ์ เป็นเรื่องที่ดังมาก เป็นเรื่องใหญ่ประเทศเขาเลย เป็นเรื่องที่จับตามองมากจริงๆ แต่ผมเอาเรื่องเมืองไทยก่อน พลอย พี่สาวตั้มอยู่ในสาย คุณจ๊ะโอ๋เขาก็หมอบนะ เขาก็จัดการเรื่องสินสมรสให้ คุณโอเคมั้ย?

พลอย :   “โอเคค่ะ แต่ต้องสัญญาว่าจะไม่ฟ้องบุคคลใดๆ เลย”

จ๊ะโอ๋ : “ไม่ฟ้องค่ะพี่ เดี๋ยวมาคุยกันเรื่องสินสมรสค่ะพี่ (ร้องไห้)”

พลอย :   “คุณขอโทษทุกคน แต่คุณไม่เคยขอโทษครอบครัวเราเลย”

ผมว่าไม่เป็นไร คุณไปคุยกันก็ได้ มันอาจมีความเจ็บช้ำ เขาก็หมอบให้แล้ว?

พลอย : “ได้ค่ะ เดี๋ยวไว้มาคุยกัน”

มุมนึงความรู้สึกเขาก็เป็นอีกแบบนึงเหมือนกันนะ?

พลอย : “เข้าใจค่ะ”

ถ้าตั้งแง่ปุ๊บจะจบกันไม่ลง?

พลอย : “ไม่เป็นไรแล้วค่ะ เขาเคยพูดเรื่องไม่ดีไว้เยอะ ก็เลยสงสารพ่อแม่ตั้มค่ะ”

ผมเรียนด้วยความเคารพ ไม่ได้เข้าข้างใคร มันเจ็บทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ว่าครอบครัวคุณโดนด่าฝ่ายเดียว ครอบครัวเขาก็โดนด่า ลูกก็โดนด่า มันเจ็บทั้งคู่ เป็นการสาดโคลนเข้าหากัน เรื่องนี้ไปคุยกันหลังบ้าน ไปขอโทษกันต่อหน้าต่อตาเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไม่จบมาตั้งแง่ แทนที่จะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งก็จะต่อเนื่องไปอีก?

พลอย : “โอเคค่ะ”

พรุ่งนี้นัดไปเคลียร์กัน?

พลอย : “ได้ค่ะ ขอบคุณพี่หนุ่มค่ะ”