จากกรณีโลกโซเชียลมีการเผยแพร่คลิป ขณะที่น้องโอม เด็กชาย อายุ 13 ปี สวมชุดนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ถูกทำร้ายร่างกาย บังคับให้นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นและเอามือไพร่หลังไว้ ภายในห้องเช่าที่อยู่ติดกันกับห้องเช่าของน้องโอม ซึ่งมีเยาวชนอีกหลายคนรวมทั้งหมด 6 คน ยืนล้อมรอบถือมีดดาบพร้อมกับถ่ายคลิปเอาไว้ ก่อนที่นายเล็ก เยาวชนอายุ 16 ปี ผู้อาศัยห้องเช่าที่เกิดเหตุจะเป็นคนเตะเข้าที่หน้าอกน้องโอมจนร้องไห้ พร้อมทั้งบอกหายใจไม่ออกแต่ก็ยังถูกเตะซ้ำ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 14 มี.ค.2568 เวลา 10.0 น. พ.ต.อ.ปรัชญามาศ ไชยสุระ ผกก.สภ.บ้านไผ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินคดีกับเยาวชนทั้ง 6 คนที่ก่อเหตุแล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนภายหลังสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพเสร็จ ได้แจ้งข้อหากับเยาวชนทั้ง 6 คน ซึ่งอายุ 13-16 ปี ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ก่อนดำเนินการส่งตัวเยาวชนทั้ง 6 คนเข้าสู่กระบวนการของทางสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดขอนแก่นไปเป็นที่เรียบร้อย ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายให้ปากคำว่าสาเหตุที่ถูกทำร้ายมาจากบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นเพียงการสันนิษฐาน ทางตำรวจต้องสอบสวนถึงสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งก่อน ว่าสาเหตุเพราะทวงค่าบุหรี่ไฟฟ้าหรือเป็นพฤติกรรมการเลียนแบบ ที่มีการทำร้ายร่างกายกรณีอื่นๆแล้วมีการนำไปโพสต์ออกสื่อต่างๆ
สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คนยังเป็นเยาวชน จึงจำเป็นต้องให้นักจิตวิทยาเข้ามาร่วมดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพราะเรื่องของเด็กเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องใช้ความรัดกุมในการสอบสวนอย่างระมัดระวัง แต่ในส่วนเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้านั้น เป็นนโยบายของทางรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว โดยทางตำรวจได้มีการสืบสวนหาข่าวและดำเนินการจับกุมผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมายในเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านเช่าที่เกิดเหตุ ภายในซอยชุมชนศาลเจ้า ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โดยพบว่าห้องเช่าของน้องโอม ผู้เสียหาย อาศัยอยู่กับแม่ที่ห้องเบอร์ 2 และ นายเล็ก ผู้ก่อเหตุ อาศัยอยู่กับพี่ชายที่ห้องเบอร์ 3 ถูกล็อกกุญแจเอาไว้จากด้านนอกไม่มีคนอยู่ ซึ่งจากการสอบถามเพื่อนบ้านที่เช่าห้องใกล้กันทราบว่าห้องเบอร์ 3 ของผู้ก่อเหตุนั้นได้มีการย้ายออกไปแล้ว ส่วนห้องเบอร์ 2 นั้นไม่ทราบว่าจะย้ายออกไปหรือไม่ และปกติกลุ่มเด็กๆจะพากันมานั่งเล่นที่หน้าห้องเช่าตลอด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ และไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากอะไร