วันที่ 14 มี.ค.68 ที่สำนักงานเขตพระนคร นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร เปิดเผยแนวทางดำเนินการตามข้อร้องเรียนกรณีเจ้าหน้าที่ดื่มสุราในห้องฝ่ายเทศกิจและมีพฤติกรรมการพูดข่มขู่เพื่อนร่วมงานว่า เบื้องต้นพบว่ามีทั้งเจ้าหน้าที่ที่เป็นข้าราชการและลูกจ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวน คาดว่าจะใช้เวลา 30 วัน
โดยกรณีดังกล่าวเป็นการดื่มสุราในสถานที่ราชการ สำนักงานเขตฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมสูงสุด หากผลการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริง สำนักงานเขตฯ จะดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนของทางราชการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด รวมถึงปฏิบัติตามข้อสั่งการของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร โดยจะดำเนินการรายงานข้อเท็จจริงและขั้นตอนการตรวจสอบไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้เพิ่มมาตรการกำกับดูแลข้าราชการและลูกจ้างในสังกัดไม่ให้ดื่มสุราในเวลาราชการและในสถานที่ราชการ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและเข้าข่ายกระทำผิดวินัย โดยติดตั้งป้ายเตือนห้ามดื่มสุราและเล่นการพนันในสถานที่ราชการ บริเวณห้องพักสายตรวจเทศกิจ พื้นที่รวมพลเจ้าหน้าที่ และห้องปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เทศกิจทุกจุด พร้อมทั้งเรียกประชุมแถวเจ้าหน้าที่เทศกิจเพื่อเน้นย้ำและชี้แจงข้อปฏิบัติและข้อห้ามต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ทุกคนเป็นประจำก่อนออกปฏิบัติงาน โดยเฉพาะข้อห้ามการดื่มสุราและเล่นการพนันในขณะปฏิบัติหน้าที่หรือในสถานที่ราชการ
สำหรับพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ. 2551 มาตรา 31 และมาตรา 42 ห้ามมิให้ดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณสถานที่ราชการ โดยผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) กำหนดแนวทางลงโทษข้าราชการเล่นการพนันและเสพสุรา กรณีเสพสุรา ระบุ ข้าราชการผู้ใดเสพสุรามึนเมาจนไม่สามารถครองสติได้ ซึ่งอาจทำให้เสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการ ให้พิจารณาลงโทษตามควรแก่กรณี ข้าราชการผู้ใดเสพหรือเมาสุราในกรณีต่อไปนี้ อาจถูกลงโทษสถานหนักถึงให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ เช่น 1.เสพสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ 2.เมาสุราเสียราชการ 3.เมาสุราในที่ชุมนุมชนจนเกิดเรื่องเสียหาย หรือเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการ