การเมืองท้องถิ่นช่วงนี้ต้องยกให้เวทีเทศบาล ซึ่งส่วนใหญ่ทั่วประเทศจะหมดวาระพร้อมกัน ปลายเดือนมีนาคมนี้ และจะมีการจัดการเลือกตั้งประมาณช่วงเดือนพฤษภาคม แต่ก็จะมีบางส่วนที่ได้มีการลาออกก่อนครบวาระ และจะมีการเลือกตั้งปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน

จังหวัดนครราชสีมาเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่จะมีเทศบาลครบวาระและจะต้องทำการเลือกตั้งกว่า 90 แห่ง ส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรรมการการเลือกตั้ง จึงต้องเตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยทางกกต.ได้จัดโครงการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยมีนายวิจิตร  กิจวิรัตน์ รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธาน มีปลัดเทศบาล เครือข่ายศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล ( ศส.ปชต.) บุคลากรสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอจำนวน 400 คน ร่วมกิจกรรมอบรมผู้ปฏิบัติงานเลือกตั้งมืออาชีพเทศบาล โดยรับฟังนายสุรพงษ์  ทิพย์โอสถ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.สนง.กกต.จ.) นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ กกต. สร้างการรับรู้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองผ่านกลไกระดับพื้นที่ให้เป็นผู้ปฏิบัติงานเลือกตั้งมืออาชีพ เพื่อลดข้อผิดพลาดและมีความบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม

นายสุรพงษ์ ผอ.สนง.กกต.จ.นครราชสีมา กล่าวว่า การเลือกตั้งเทศบาล 90 แห่ง จะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ไทม์ไลน์ กกต.ได้สำรวจแนวเขตพิจารณาประกาศเขตเลือกตั้งและสรรหาบุคคลมาทำหน้าที่เป็น กกต.ประจำเทศบาลแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่าง กกต.กลางพิจารณา ฝากถึงผู้สนใจลงสมัครเลือกตั้ง ซึ่งเสียสละประสงค์มาเป็นผู้แทนพี่น้องประชาชนแก้ไขปัญหาชุมชนท้องถิ่น ให้ตรวจสอบคุณสมบัติเข้าลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 50 รวม 26 รายการ หากสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานเทศบาลหรือสายด่วน 1444 รวมทั้งสืบค้นข้อมูลจาก application สมาร์ทโหวต ขณะนี้กำลังเข้าสู่โหมดหาเสียงเลือกตั้ง ผู้สมัครต้องไม่กระทำการในลักษณะฝ่าฝืน มาตรา 65 ของกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งอาจเป็นมูลเหตุให้คู่แข่งนำไปร้องเรียนได้ ต้องพึงระมัดระวังด้วย

ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวสนามเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ซึ่งมีงบบริหารต่อปีกว่า 1.6 พันล้านบาท มีเพียงพรรคประชาชน (ปชน.) โดยนายฉัตร  สุภัทรวณิชย์ ส.ส เขต 1 จ.นครราชสีมา เปิดตัวนายพงษ์ยุทธ หรือเหน่ง  สุภัทรวณิชย์ อดีตที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา รองประธานหอการค้านครราชสีมา นายกสโมสรไลออนส์มิตรภาพ เป็นว่าที่ผู้สมัครนายก ขณะนี้ได้ออกเดินประชาสัมพันธ์แนะนำตัวกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 37.5 ตารางกิโลเมตร เพื่อเปิดรับฟังเสียงสะท้อนในเขต 98 ชุมชน ส่วนแชมป์เก่า “โคราชชาติพัฒนา” นายประเสริฐ  บุญชัยสุข ยังถูกวางตัวให้รักษาเก้าอี้นายกต่ออีกสมัย

ด้านนายสุรวุฒิ  เชิดชัย อดีตนายกเล็กหลายสมัยถือเป็นขวัญใจชาวเทศบาลและมีเสียงเรียกร้องขอให้ลงอีกแต่ยังไม่ตอบชัดเจน ช่วงก่อนถึงวันเปิดรับสมัครมีการโยนหินถามทาง สร้างกระแสข่าวให้สับสนตลอด เช่น โคราชชาติพัฒนา เปลี่ยนตัวว่าที่ผู้สมัครนายกเป็นด๊อกเตอร์มหาวิทยาลัยดังและดีลกับสุรวุฒิ ซูเอี๋ยการเมือง นอกจากนี้นายมารุต  ชุ่มขุนทด “กอล์ฟ คลาสเฟ่” ซึ่งได้ลำดับ 2 ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ครั้งที่ผ่านมา ผลคะแนนในเขตเทศบาลกว่า 2.4 หมื่น ทำให้นายมารุต ขอลงแข่งด้วย เพื่อหวังเป็นตาอยู่

ส่วนที่จังหวัดพิษณุโลก ได้มีการเปิดรับสมัครนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เมื่อวันที่ 24-28 ก.พ.68 และจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 30 มี.ค.68 ผู้สมัครนายก แชมป์เก่าคือ ดร.เปรมฤดี ชามพูนท จับได้เบอร์ 3 ซึ่งถือเป็นผู้สมัครที่เดินสายการเมืองท้องถิ่น “นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ในนาม “ลูกนเรศวร” เที่ยวนี้ต้องแข่งกับนายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ อดีตรองนายก ประธานสภา อบจ.พิษณุโลก ในนามทีม”พัฒนานคร” จับได้เบอร์ 1 และตัวแทนสายสีส้ม อย่างนายธนากร กลิ่นผกา ที่ได้เบอร์ 4 ขณะที่ปลัดพิทักษ์ สันติวงศ์สกุล อดีตส.ส.พิษณุโลก ก็เปิดตัวลงเป็นทางเลือกด้วยเช่นกัน ชูป้าย “คณะพลังชุมชน” ชิงเก้าอี้นายกในครั้งนี้ด้วย

ดร.เปรมฤดี ชามพูนท กล่าวว่า ลาออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก 13 กุมภาพันธ์ 2568 ก่อนครบวาระ เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตัวนายกและสมาชิก สับสนกัน มีบัตรเสียมาก จึงขอลงจากตำแหน่งก่อน ถามผู้ว่าฯแล้วก็ไม่ได้เสียหายอะไร อีกทั้งการเลือกตั้งจะง่ายขึ้น เพราะกาบัตรใบเดียว ไม่ต้องสับสนกับเลือกสมาชิก งบประมาณไม่ได้เพิ่มขึ้น มีแค่เบี้ยเลี้ยงหน่วยเลือกตั้งเท่านั้น

“ตอนนี้แม้ตนจะอายุ 80 ปีแล้ว ตามกฎหมายยังมีโอกาสลงเลือกตั้งอีก 1 ครั้ง หลังเว้นไปหลายปี พร้อมจะพัฒนาเมืองพิษณุโลกให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ เป้าหมาย คือ 1. ให้มีคนเข้ามาอยู่ 2. มากินมาเที่ยว 3. ให้คนมาลงทุน เนื่องจากปัจจุบันเทศบาลนครพิษณุโลก ประชากรหายไป 2 หมื่นกว่าคน จาก 8 หมื่นคน เหลือ 6.2 หมื่นคน ซึ่งงานวิจัยของ ม.นิด้า ระบุว่า จะเหลือ 4 หมื่นคน หากพิษณุโลก ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้พัฒนา เมืองจะเงียบไป อาจเหลือกับผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจุบันพบว่า มีอัตราสูงขึ้น ซึ่งตัวเทศบาลนครพิษณุโลกเป็นเหมือนห้องรับแขกของเมือง หากเทศบาลฯ แย่ลงหรือซบเซา ตัวจังหวัดก็จะเงียบไปด้วย”

ดร.เปรมฤดี ชามพูนท ย้ำว่า จะขอพัฒนาต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่การเริ่มต้นใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมระหว่าง ภาครัฐ เอกชน และประชาชน ที่ได้ริเริ่มไว้ เดินหน้าสู่ความสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยจะนำทีม "ลูกนเรศวร"ผนึกคนรุ่นใหญ่และคนรุ่นใหม่ทำงานร่วมกัน สานต่อโครงการที่วางระบบไว้แล้ว และผลักดันให้เป็นรูปธรรม

ด้านหนึ่งในผู้ท้าชิงที่น่าจับตา คือ นายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ หัวหน้าทีม”พัฒนานคร” อดีตรอง นายก/ประธานสภาอบจ.พิษณุโลก ที่พาอดีตทีม”พลังพิษณุโลก”  (สายอบจ.พล.) อย่างนางสุวิมล ปราบศรีภูมิ อดีต สมาชิก เทศบาลนครพิษณุโลกพา สท. ทั้ง 24 คนใน 4 เขต ช่วยหาเสียงนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ก่อนจะลง สท. ที่กำลังหมดวาระลงในเร็วๆนี้

นายศิริชิน เปิดเผยว่า จะเปลี่ยนแปลงพิษณุโลกให้เป็นรูปธรรมภายใน 2 ปีแรก และสำเร็จลุล่วงภายใน 4 ปี เป้าหมาย คือ พัฒนาระบบประปาและสาธารณูปโภคให้ได้มาตรฐาน / การตั้งศูนย์รับแจ้งเรื่องราวตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามและแก้ไขปัญหาเรียลไทม์ บริหารงานที่โปร่งใส

จากประสบการณ์วงการการเมืองท้องถิ่น 20 ปี เคยเป็น รองนายก อบจ. มาก่อน เข้าใจปัญหาของประชาชน อดีตก็เคยลงสมัคร ส.ส.เขต 2 พิษณุโลกในนามพรรคพลังประชารัฐมาแล้ว จึงขอพัฒนาพิษณุโลกอย่างยั่งยืน ตามสโลแกน "ทำทันที 2 ปีเห็นผล 4 ปีสำเร็จ"พร้อมเดินหาเสียงแบบเคาะประตูบ้าน

อีกหนึ่งคู่แข่งสำคัญในศึกเลือกตั้งนายกนครพิษณุโลกครั้งนี้ หลายฝ่ายจับตาไปที่ “เสื้อสีส้ม” เพิ่งผ่านการประกาศคัดสรรมาสดๆร้อนๆ ก็คือ นายธนากร กลิ่นผกา (มะต้อง) เดินลงพื้นที่หาเสียงทันที พร้อมประกาศสู้ศึกชิงเก้าอี้นายกเทศบาลนครพิษณุโลก จับได้เบอร์ 4 ที่ผ่านมาถือว่า พลังเงียบ วัยหนุ่มวัยสาว อาจมีคะแนนเฉพาะกลุ่มอันเหนียวแน่น เดินสายตามโซเชียล ประกาศ/โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวว่า..ร่วมออกแบบเมืองพิษณุโลกด้วยกันครับ

นายธนากร (มะต้อง) เป็นทายาทเจ้าของหมู่บ้าน พงศ์ผกาลากูน เป็นผู้บริหารโรงแรมผกาวรรณ, โรงแรมอื่นๆอีกหลายแห่งในพิษณุโลก กทม.และเขาค้อ ระบุว่า มีทีมงานคุณภาพ ที่จะวมผลักดันการเปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่น ร่วมกันสร้างการเมืองที่ดี โปร่งใส ใกล้ชิดประชาชน ผนึกกำลังของคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นใหญ่ ที่ต้องการสร้างเมืองพิษณุโลกให้สะอาด ทันสมัย เศรษฐกิจดี สิ่งแวดล้อมดี เมืองพิด’โลกที่น่าอยู่ จะขอออกแบบเมืองฯตามความต้องการของประชาชน ความคิดเห็นของแต่ละท่านคงจะมีทั้งเหมือนและต่างกัน

“ผมอยากเป็นนายกเทศมนตรี ที่เปิดใจและรับใช้ทุกคนครับ ขอเชิญร่วมออกแบบเมืองที่ทุกคนต้องการ ทุกๆ ความคิดเห็นนำพาสู่การพัฒนาเมืองให้ดียิ่งขึ้นไปร่วมแชร์และแบ่งปันไอเดียสร้างสรรค์”

ส่วนที่นครศรีธรรมราช  นางสาววาริน ชิณวงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช  กล่าวถึงปมที่กำลังถูกวิพากษ์ในกรณีการเตรียมทีมผู้สมัครชิงนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ว่าเป็นที่พูดถึงกันมากขณะนี้ว่าจะส่งนายกเทศมนตรี และทีมสมาชิกสภาเทศบาลจนมีกระแสวิพากษ์ไปในแง่มุมต่างๆแตกไปหลายประเด็น

“น้ำในฐานะผู้ก่อตั้งทีมนครเข้มแข็งมาตั้งแต่แรกเริ่ม และโดยส่วนตัวขอย้ำว่าไม่มีนโยบายและไม่เคยคิดที่จะส่งผู้สมัครลงในสนามท้องถิ่นของนครศรีธรรมราชในเทศบาลทุกเทศบาล และรวมไปถึงสนาม อบต.ทุกแห่ง อบจ.นครศรีธรรมราชพร้อมทำงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งเช่นเดิม เหมือนที่ได้เคยมีแนวทางและนโยบายตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งนายก อบจ.เคยพูดอย่างไรจะเป็นไปอย่างนั้น ยืนยันจะไม่มีแนวทางที่จะไปสร้างความขัดแย้งกับใคร และจะเดินหน้าทุกนโยบายสำหรับองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ได้ประกาศไว้เป็นสัญญาประชาคม” นายกอบจ.นครศรีธรรมราช กล่าว