“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กระเด็นตกรอบ 16 ทีมถ้วย แชมเปียนส์ลีก เรียบร้อยแล้วหลังโดน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บุกมากำชัยถึง แอนฟิลด์ ด้วยสกอร์ 1-0 จากการฟาดแข้งเมื่อวันอังคารที่ 11 มี.ค.ส่งผลให้ทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 ในเวลา 120 นาทีก่อนที่ เปแอสเช จะชนะการดวลลูกโทษโดยเกมนี้ จานลุยจิ ดอนนารุมมา โชว์ฟอร์มข่ม “อลิสซง” แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของ “หงส์แดง” ในเกมแรกแบบหมดท่าจริงๆ เหลือให้ลุ้นชิง 2 ถ้วยที่เหลือ คือ พรีเมียร์ลีก และเกม คาราบาว คัพ ที่จะพบกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด รอบชิงชนะเลิศ ในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคมนี้

และหากสามารถคว้าแชมป์คาราบาว คัพได้สำเร็จ ก็จะเป็นการรักษาแชมป์จากฤดูกาล 2023-24 เป็นการคว้าแชมป์ 2 สมัยติด และจะเป็นแชมป์สมัยที่ 11 ของลิเวอร์พูลด้วย

อย่างไรก็ตาม การลุ้นถ้วยแชมป์ ที่สำคัญของ “หงส์แดง” ที่สุด คงหนีไม่พ้น ถ้วยพรีเมียร์ลีก ที่กลายเป็นคำถามที่แฟนบอลทั่วโลก ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง “ลิเวอร์พูล” กับ “อาร์เซนอล” ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล จะตกเป็นของทีมใด

ซึ่ง ณ ตอนนี้ "หงส์แดง" โกยแต้มนำเป็นจ่าฝูงด้วยการมี 70 คะแนน ทิ้งห่าง "ปืนใหญ่" อันดับ 2 ที่มี 55 แต้ม ออกไปเป็น 15 คะแนน แม้จะแข่งมากกว่าอยู่ 1 เกมก็ตาม

และจากโปรแกรมที่เหลือตามโปรแกรมอีก 10 นัด ทำให้แฟนบอลตั้งคำถามว่า “ลิเวอร์พูล” ต้องการอีกกี่คะแนนถึงจะสามารถคว้าแชมป์ลีกมาครองได้อย่างเป็นทางการ

ล่าสุด ออปตา (OPTA) องค์กรที่เก็บข้อมูล และจดบันทึกสถิติกีฬาโลก ได้ออกมาสรุปเงื่อนไขง่ายๆ ออกมาว่า อาร์เซนอล ที่มี 55 คะแนนในตอนนี้ และเหลือโปรแกรมแข่งอีก 10 นัด (หากชนะหมดจะมี 85 คะแนนเท่านั้น)

นั่นเท่ากับว่า ลูกทีมของ “อาร์เน สล็อต” ต้องการอีกเพียงแค่ 16 คะแนน จาก 9 นัดที่เหลือ (มีแต้มทั้งหมด 27 แต้ม) ก็จะทำให้มีคะแนนรวม 86 แต้ม โดยไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันของ “อาร์เซนอล” ในช่วงที่เหลือ

อย่างไรก็ตาม การตกรอบ “แชมเปี้ยนส์ลีก” ในเกมล่าสุด อาจจะกระทบกระเทือนต่อการไล่ล่าแชมป์ของ “หงส์แดง” ก็เป็นไปได้ และนับจากนี้ เกมที่เหลือของ “จ่าฝูง”พรีเมียร์ลีก จะเป็นเกมวัดใจ “พลพรรคหงส์แดง” ว่าจะผ่านพ้นฝันร้ายได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เหล่า “เดอะค็อป” เอาใจช่วย “ทีมรัก” กับช่วงเวลาที่เลวร้ายในครั้งนี้ให้จงได้