"จิราพร สินธุไพร" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติ การปราบปรามจับกุมผู้ต้องหาลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและปฏิบัติการกวาดล้างตัดตอนลูกโป่งบรรจุแก๊สหัวเราะ

วันนี้ (12 มี.ค.) นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติ การปราบปรามจับกุมผู้ต้องหาลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและปฏิบัติการกวาดล้างตัดตอนลูกโป่งบรรจุแก๊สหัวเราะ โดยมี พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ภญ.สุภาวดี ธีระวัฒน์สกุล ผู้อำนวยการกองอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลดังกล่าว

จากกรณีเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ทำการสืบสวนหาข่าว ผู้มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าตามช่องทางออนไลน์ในกลุ่ม LINE Open chat โดยใช้ชื่อว่า Party 777 ซึ่งเป็นกลุ่มสำหรับขายพอดเค พร้อมบริการส่งให้ลูกค้าทางขนส่งเอกชน โดยพบว่าร้านดังกล่าวมีการสต๊อกสินค้าเป็นบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้นที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านถนนรัชดา-รามอินทรา โดยมีนายกันชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของ จากการตรวจค้นพบหัวพอดเคบรรจุน้ำยา 45 ชิ้น หัวพอดเครอบรรจุน้ำยา 470 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัว 2 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเติมขนาด 50 ml. 5 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเติมขนาด 100 ml. 4 ชิ้น เครื่องพิมพ์ฉลากแบบพกพา 2 ชิ้น จึงได้จับกุมนายกันชัยฯ พร้อมยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มีนาคม เจ้าหน้าที่ ปคบ. ทำการสืบสวนเพจ facebook "relx M2M Thailand" พบว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จึงได้ทำการล่อซื้อ จนทราบว่ามีการจัดส่งสินค้าบุหรี่ไฟฟ้ามาจากบ้านพักย่านทาวน์อินทาวน์ รับทราบว่ามีการย้ายบุหรี่ไฟฟ้ามายังคอนโดย่านลาดพร้าว 101 จึงทำการสืบสวนทราบว่ามีการเก็บสินค้าไว้ที่คอนโดดังกล่าว จึงได้ขอหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นพบ นางสาวชญานิษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของ แล้วจากการตรวจสอบ พบบุหรี่ไฟฟ้า ,น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และเครื่องบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 40,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท จึงได้ทำการจับกุมพร้อมยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย

นอกจากนี้ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่จาก อย. ได้ดำเนินการตรวจค้นจับกุมดำเนินคดีกับผู้ผลิตและจำหน่ายลูกโป่งแก๊สหัวเราะในพื้นที่ถนนข้าวสาร จากนั้นได้ทำการสืบสวนขยายผลหาแหล่งที่มา สถานที่กักเก็บ จุดกระจายสินค้า รวมถึงการลักลอบจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ กระทั่งได้นำหมายค้นของสารเข้า ตรวจสถานที่ลักลอบจำหน่าย จัดเก็บ และส่งสินค้าจำนวน 9 จุด ในพื้นที่ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ/ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี/ และพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตจตุจักร, เขตบางบอน, เขตวัฒนา, เขตสวนหลวง, เขตวังทองหลาง, เขตสาทร, และเขตคลองเตย พบของกลางเป็น หลอดบรรจุแก๊สไนตรัสออกไซด์ จำนวน 40,975 หลอด ลูกโป่งสำหรับใช้บรรจุแก๊สไนตรัสออกไซด์ 3,698 ลูก และกระบอกสำหรับใช้อัดแก๊สจำนวน 1,591 กระบอก 

น.ส.จิราพร กล่าวว่า ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีข้อสั่งการให้ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจังและให้ผลเป็นรูปประธรรมโดยเร็วเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป จึงได้มอบหมายให้ตนรับผิดชอบการดำเนินการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งการแถลงผลการจับกุมใหญ่ที่ทาง บก.ปคป. ร่วมกันกับ อย.และ สคบ. จับกุมการทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมี 3 เคสที่น่าสนใจ โดยเคสที่ใหญ่ที่สุดคือการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมของกลางรวม 40,000 ชิ้นมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท ส่วนรายที่ 2 ที่จับกุมได้พบว่าเป็นการผลิตพอดเครายแรกในประเทศไทย ส่วนรายที่ 3 เป็นการจับกุมแก๊สหัวเราะ ซึ่งเป็นสินค้าแบบใหม่ที่ทางรัฐบาลพยายามป้องกันไม่ให้เข้าถึงเด็กและเยาวชน โดยตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม สามารถดำเนินการจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าได้ทั้งหมด 1,078 บาทคดีเป็นของกลางกว่า 900,000 ชิ้นมูลค่ากว่า 118 ล้านบาทเศษ เกือบเทียบเท่ากับสถิติการจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าปี 2567 ทั้งปี

สำหรับการดำเนินการปราบปรามจะเน้นไปใน 2 ส่วนใหญ่ คือผู้ลักลอบนำเข้า จะมีการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นกว่าเดิม ซึ่งผู้ลักลอบที่ถูกจับกุม จะถูกส่งต่อให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดำเนินการต่อ และส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ดำเนินการสืบเส้นทางการเงินต่อ และขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดต่อไป / ส่วนกรณีร้านค้าที่มีที่ตั้งร้าน จะบูรณาการหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมายทั้งหมดปูพรมกวาดล้าง ซึ่งได้มีการประชุมพูดคุยกับกระทรวงมหาดไทย ขอความร่วมมือกำลังเจ้าหน้าที่ในการเอกซเรย์พื้นที่ต่างๆและส่งข้อมูลให้กับทางตำรวจเพื่อปราบปรามร้านค้าที่กระทำผิด ,ส่วนที่เป็นร้านค้าที่ไม่มีที่ตั้งหรือร้านค้าออนไลน์ จะดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปิดกั้นเว็บไซต์ และส่งข้อมูลขยายผลไปสู่ผู้ขายทั้งหมด โดยหากพบว่าผู้ขายไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่จะดำเนินการส่งต่อข้อมูลไปที่ ปปง. เพื่อทำการตรวจสอบทรัพย์สินและสืบเส้นทางการเงิน

ส่วนที่เป็นแก๊สหัวเราะหรือพอดเคก็จะใช้มาตรการในการปราบปรามเช่นเดียวกันกับบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะกวาดล้างโดยไม่สนว่าเป็นรายใหญ่หรือรายเล็ก ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมใน 30 วัน ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายสั่งการไว้ และเป็นการปกป้องลูกหลานไม่ให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายเหล่านี้ด้วย