บจ.รายงานผลการดำเนินงานปี 67 กำไรสุทธิ 859,401 ล้านบาท ลดลง 3.7% จากหมวดธุรกิจเกี่ยวข้องน้ำมันและปิโตรเคมี-เคมีภัณฑ์ ส่วนกลุ่มธุรกิจทั่วไปกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น จากท่องเที่ยว-อุปโภคบริโภค บริการ ขณะที่กลุ่มการเงินได้รับผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวในระดับสูง
เมื่อวันที่ 13 มี.ค.68 นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 807 บริษัท นำส่งผลการดำเนินงานปี 2567 คิดเป็น 98.9% จากทั้งหมด 816บริษัท (รวม SET และ mai ที่มีกำหนดส่งงบการเงิน ณ สิ้นงวด 31 ธันวาคม 2567 และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน) พบว่ามี บจ.รายงานกำไรสุทธิ 604 บริษัท คิดเป็น 74.8% ของ บจ. ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 เทียบกับปีก่อน บจ.ใน SET มียอดขาย 17,524,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% ขณะที่ต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายการขายและบริหารเพิ่มขึ้นสูงกว่าเล็กน้อย ทำให้ บจ.มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) 1,559,270 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 859,401 ล้านบาท ลดลง 1.1% และ 3.7% ตามลำดับ ทั้งนี้ หากพิจารณาในกลุ่มธุรกิจทั่วไป (ไม่รวมหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์) บจ.จะมียอดขาย กำไรจากการดำเนินงานหลัก และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสำหรับฐานะการเงินของกิจการ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บจ.ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ratio (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.49 เท่า ลดลงจาก 1.52 เท่า
โดยการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลบวกให้ บจ.ไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว การอุปโภคบริโภคและการบริการ มีผลประกอบการดีขึ้น เช่น หมวดอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค ค้าปลีก โรงแรม การบิน โรงพยาบาล โทรคมนาคม และพื้นที่เช่าการค้า นอกจากนี้พบการเติบโตในกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมจากอุปสงค์ในพื้นที่ EEC ที่เพิ่มขึ้นมาก สอดคล้องกับกระแสการย้ายฐานการผลิต และจำนวนคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และธุรกิจการเงินซึ่งได้รับผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวในระดับสูง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันและส่วนต่างค่าการกลั่นปรับลดลงในปี 2567 กดดันความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันและปิโตรเคมีภัณฑ์ และภาพรวมของ บจ.ทั้งหมด
ขณะที่ด้านผลการดำเนินงานของ บจ.ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอไอ (mai) งวดปี 2567 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ยังคงเติบโต โดย บจ. มียอดขายรวม 209,453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น3.8% ขณะที่ บจ.ควบคุมต้นทุนการผลิต และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดี ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน14,995 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น27.9% และ 5.5% ตามลำดับ
#อัสสเดชคงสิริ #หุ้น #ข่าววันนี้ #SET #บริษัทจดทะเบียน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์