โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ ขยายผลสำเร็จสู่รั้วโรงเรียน
นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เปิดเผยกับสื่อมวลชนในโคงการสื่อมวลชนสัญจร สืบสานพระราชดำริ ประจำปี 2567 ของสำนักงาน กปร. ในระหว่างเยี่ยมชมกิจกรรมในโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลเขาชะงุ้ม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี และศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ เมื่อวันก่อนว่า ที่ผ่านมาโครงการฯ ประสบความสำเร็จในการศึกษาทดลองเพื่อการประกอบอาชีพของราษฎรในพื้นที่มากมายหลายรายการ และได้ขยายผลสู่การปฏิบัติใช้ของราษฎรจนประสบความสำเร็จสามารถยกระดับจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ เพื่อเป็นแม่แบบให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ นำไปปฏิบัติใช้ นอกเหนือจากการดำเนินงานภายในโครงการฯ ในการเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ในด้านต่างๆ
“โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ มีการจัดอบรมเผยแพร่องค์ความรู้พร้อมสนับสนุนปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรในพื้นที่หมู่บ้านรอบโครงการ จำนวน 12 หมู่บ้าน สามารถยกระดับเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ได้ถึง 10 แห่ง มีทั้งด้านเกษตรอินทรีย์ และเกษตรผสมผสาน รวมถึงสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เช่น โรงเรียนวัดนางแก้ว หมู่ที่ 3 ตำบลนางแก้ว อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ได้ส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ด้วยการใช้สารอินทรีย์ชีวภาพในการเพาะปลูก การปลูกพืชสมุนไพรในโรงเรียน การปลูกผักแบบยกแคร่ โดยคณะได้ชมกิจกรรมการปรุงดินเพื่อการเพาะปลูก การทำปุ๋ยหมัก การทำน้ำหมักชีวภาพ การเลี้ยงไส้เดือนดิน การเลี้ยงปลาดุก และกบในวงบ่อซีเมนต์ และการเลี้ยงไก่ไข่ เพื่อนำผลผลิตมาประกอบอาหารกลางวันสำหรับนักเรียน ในโรงเรียน เป็นต้น” นางสุพร ตรีนรินทร์ กล่าว
ด้านนายสุรเชษฐ์ สายสุดใจ ผู้อำนวยการโรงเรียน วัดนางแก้ว เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการนำผลสำเร็จจากการศึกษาทดลองมาขยายผลด้วยการจัดกิจกรรมด้านการผลิตภาคการเกษตรสำหรับใช้ประโยชน์ในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันเด็กนักเรียน ซึ่งสนับสนุนทั้งวิชาการผลิตและปัจจัยการผลิตแก่โรงเรียน
“ทางโรงเรียนได้จัดหลักสูตรการเรียนการสอนแก่เด็กนักเรียนในวิชาการเกษตร โดยให้เด็กนักเรียนเข้ามาเรียนรู้และฝึกปฏิบัติในการทำการผลิตภาคการเกษตร อาทิ การทำเกษตรอินทรีย์ การปลูกผักยกแคร่ การปรุงดินเพื่อการเพาะปลูก การทำปุ๋ยหมัก การทำน้ำหมักชีวภาพ การเลี้ยงไส้เดือนดิน การเลี้ยงปลาดุก กบในวงบ่อซีเมนต์ และการเลี้ยงไก่ไข่ เป็นต้น ผลผลิตก็นำมาประกอบอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน” นายสุรเชษฐ์ สายสุดใจ กล่าว
ส่วนเด็กนักเรียนได้รับความรู้ในการทำการเกษตรที่ถูกต้องและใช้ต้นทุนน้อยจากโครงการนี้ และได้มีอาหารที่ไม่มีสารเคมีกินทุกวัน ที่สำคัญได้มีความรู้ติดตัวเมื่อเรียนจบไปแล้วก็สามารถนำไปทำต่อที่บ้านได้ ทำให้ครอบครัวมีพืชผัก มีไข่ ได้กินและขาย มีความรู้ในการเพาะปลูกโดยไม่ต้องใช้สารเคมี เช่นการเพาะเลี้ยงไส้เดือนเพื่อเอามูลมาบำรุงดินปลูกพืชผัก ส่วนหนึ่งก็ขายสร้างรายได้ได้ด้วย