“มท.1”ลุยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบปม “กองทุนประกันสังคม”ซื้อตึก 7 พันล้าน “นายกฯ” ยันต้องโปร่งใส-ชัดเจน ด้าน “อนุทิน” ยันต้องชัดเจนโดยเร็ว และต้องโปร่งใส-ห้ามแทรกแซง ส่วน “พิพัฒน์” ระบุสัดส่วนกรรมการส่วนใหญ่เป็นคนนอก ยอมรับห่วงโหมกระแสหนัก จนกระทบผู้ประกันตนคนอื่น
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคประชาชน (ปชน.) ออกมาเปิดเผยกองทุนประกันสังคม มีการซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 7 พันล้าน จากราคา 3 พันล้านบาท แต่ทำผลประกอบการติดลบทุกปี รัฐบาลจะจัดการอย่างไร ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทรวงแรงงานดูอยู่แล้ว และแน่นอนว่าเราต้องช่วยกันรักษาผลประโยชน์และต้องมีความโปร่งใสมากที่สุด ฉะนั้นไม่มีอะไรต้องห่วง ซึ่งขณะนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้ลงนามตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีการเซ็นตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การใช้งบประมาณของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ว่า ตนเซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการเรียบร้อยแล้ว โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานและเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงที่ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดแรงงานคนปัจจุบัน เป็นเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ฉะนั้นการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และเมื่อมีระดับปลัดกระทรวง ถูกสอบสวนด้วย จึงจำเป็นต้องตั้งข้าราชการในระดับเดียวกันเพื่อเป็นผู้สอบสวน เพื่อให้มีความชัดเจนและเสร็จสิ้นโดยเร็ว
เมื่อถามว่า ประเด็นหลักการสอบสวนเรื่องการใช้งบประมาณ สปส. ซื้อตึกใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้กำหนดขอบเขต ฉะนั้นตรงไหนที่เป็นประเด็นที่เกิดปัญหา ก็ต้องดำเนินการสอบสวน ซึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบชุดดังกล่าวมีหลายบุคคล และตนก็สั่งการให้พิจารณาเร็วที่สุด แล้วจะไม่มีการก้าวก่ายแทรกแซงการสอบสวนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
เมื่อถามว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวตรวจสอบเพื่อลงโทษทางวินัยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ผลการสอบสวนที่ออกมา พร้อมยืนยันว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวเป็นการสอบสวนยังไม่ใช่การลงโทษหรือลงทัณฑ์ เพราะต้องการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน และเมื่อทราบแล้วมีความผิดปกติอะไรหรือไม่ หากไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ค่อยดำเนินการ
ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวว่า หลังจากตั้งคณะกรรมการสรรหาข้อเท็จจริง ต้องรอดูนายอนุทิน ว่าจะให้กรอบเวลาในการตรวจสอบเท่าไหร่ แต่ขอให้สบายใจได้ ตนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเชื่อว่านายอนุทินในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงานก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเช่นกัน ส่วนการที่สส.บางคนไปให้สัมภาษณ์ขุดคุ้ย ไปหาข้อเท็จจริง เป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้าเรามั่นใจว่าเรามีความโปร่งใสจริงก็ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาขุดคุ้ย
เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเงินของกองทุนประกันสังคมที่เอามาช่วยประชาชนน้อยเกินไป นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบวันนี้ที่สำนักงานประกันสังคมจะมีการประชุมเรื่องผลตอบแทนที่มีการปรับปรุง ซึ่งเมื่อครั้งที่ผ่านมากรรมการหลายท่านยังไม่ได้รับรายละเอียดข้อชี้แจงจากฝ่ายอนุ จึงมีการประชุมกันที่สำนักงานประกันสังคม ฉะนั้น ตนคิดว่าสิ่งต่างๆ ที่ออกมาในปัจจุบันนี้อย่าคิดว่าประกันสังคมทำไม่ถูกทุกเรื่อง เชื่อว่าประกันสังคมมีกรรมการมาจากหลายฝ่าย ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง โดยเฉพาะฝ่ายภาครัฐ เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างการที่จะผ่านบอร์ดประกันสังคมออกมาน่าจะมีการพิจารณาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะก่อนที่จะเข้าบอร์ดนั้น อนุในแต่ละชุดต้องมีการนำเสนอบอร์ดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
“ กระแสคือกระแส ผมกังวลว่า ถ้าสุดท้ายโหมกันเข้าไปเรื่อยๆ ประกันสังคมก็จะเป็นจำเลยของสังคม ซึ่งถ้าเขาไม่ผิดจริง หรือไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเลย การที่เราไปกดดันเขามากๆ มันอาจจะทำให้เกิดความไม่ยุติธรรม กับเพื่อนๆ ในประกันสังคม”
