“เท้ง” ยัน “ฝ่ายค้าน” ไม่ได้ดื้อ ขอรอดูพรุ่งนี้ ตั้งเป้าสะท้อนเสียงโดยตรงไปที่ “วันนอร์” ยันต้องใส่ชื่อ “ทักษิณ” ในญัตติซักฟอก ตอก “ประธาน” ต้องวางตัวเป็นกลาง! อย่าปกป้องฝั่ง รบ. ถามญัตติทั่วไปใส่ชื่อคนนอกได้ ทำไมญัตติไม่ไว้วางใจทำไม่ได้ ทั้งที่กล่าวหามากกว่า จะได้เปิดกว้างไปเลย
วันที่ 11 มี.ค. 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ยืนยันให้ฝ่ายค้านแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถอดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติ ว่า ขอให้รอการประชุมสภาพรุ่งนี้ (12 มี.ค.68) ตนก็เชื่อว่าพวกเราจะสะท้อนเสียงต่อประธานสภาโดยตรง ตามหลักการและเหตุผลที่ได้ระบุไว้ในหนังสือคัดค้าน
แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ตนเชื่อว่าน้ำหนักที่ให้ไป เหตุผลที่เราให้ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รายการญัตติที่ได้แสดงให้เห็นว่าในประวัติศาสตร์ หลายครั้งก็มีการกล่าวถึงบุคคลภายนอกได้ ถ้าหากจำเป็น เพราะฉะนั้น อยากจะให้ประธานได้รับฟังเหตุผลของเรา และลองตัดสินใจดูอีกสักครั้งหนึ่ง แต่หลังจากรับฟังแล้ว ประธานสภาจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นอำนาจของประธาน ซึ่งก็ยังมีกรอบเวลาในการหารืออยู่ภายในสัปดาห์นี้
เมื่อถามว่าการกล่าวสามารถกล่าวในที่ประชุมได้แต่ประธานสภาต้องการให้ลบชื่อออกจากญัตติ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าดูตามรายการญัตติที่ยื่นคัดค้านไปเมื่อวาน (10 มี.ค. 68) จะเห็นว่าหลายญัตติมีการใส่ชื่อบุคคลภายนอก ตนอยากชวนให้ทุกท่านคิดว่าญัตติธรรมดากับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ อะไรที่เป็นเรื่องการกล่าวหามากกว่ากัน ทุกคนตอบเสียงเดียวกันว่าต้องเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
“ญัตติธรรมดาสามารถกล่าวถึงบุคคลภายนอก ระบุชื่อบุคคลภายนอกในญัตติได้ แล้วทำไมญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เป็นการกล่าวหา จึงจะไม่สามารถระบุลงไปได้ เพราะฉะนั้น ในส่วนนี้ ผมเองก็คิดว่าอำนาจในการตีความต่างๆก็เป็นของท่านประธานแต่เราเองก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการให้เหตุผล” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการตัดชื่อนายทักษิณออก แล้วใส่เพียงแค่บิดาหรือคนในครอบครัวของนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าการใช้คำในการระบุลงไปในญัตติอาจจะไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือกระบวนการอภิปรายในสภา แน่นอนที่สุดว่าถ้าระบุชื่อนายทักษิณอย่างตรงไปตรงมา การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จะสามารถกล่าวถึงนายทักษิณได้อย่างตรงไปตรงมามากขึ้น และการประท้วงก็ทำได้ยากมากขึ้น
“มองกลับกัน ความพยายามที่บอกว่าให้ใช้คำอื่น เลี่ยงบาลีก็ได้ ไม่ต้องระบุชื่อ ก็ได้อาจจะเป็นความพยายามในการที่จะลุกขึ้นประท้วง พร้อมที่จะลุกขึ้นประท้วงทุกครั้งที่มีการกล่าวถึงคุณทักษิณในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะฉะนั้น ในส่วนนี้เองผมอยากให้ท่านประธานวางตัวเป็นกลาง ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่อยากให้ใช้อำนาจของท่านที่ดูเหมือนเป็นการปกป้องคุณทักษิณ หรือฝั่งรัฐบาลมากไปกว่านี้” นายณัฐพงษ์ กล่าว
นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า พวกเรา พรรคฝ่ายค้านไม่ได้ดื้อดึง ไม่ได้พยายามสู้ชนฝา ในสิ่งที่พวกเราคิดว่าสู้ไม่ได้พวกเราพยายามที่จะยืนยันในหลักการขั้นตอนในตอนนี้ก็คือการส่งหลักฐานต่างๆให้ประธานสภาพิจารณา พรุ่งนี้ก็จะประชุมสภา ตนเชื่อว่าประธานสภายังมีเวลาตัดสินใจ อย่างไรเรายังมีกรอบระยะเวลาภายในสัปดาห์นี้ที่จะเดินหน้ากับการอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป ซึ่งภายในวันศุกร์นี้ (14 มี.ค. 68) จะได้รับความชัดเจนแน่นอน
ส่วนวันอภิปรายเป็นเรื่องของวิป ในช่วงสัปดาห์นี้ยังเป็นกรอบระยะเวลาอีก 1 สัปดาห์ที่เรายังหารือกันได้ ซึ่งพรรคประชาชนเรามีความพร้อมเต็มที่ถึงแม้จะไม่มีการเลื่อนออกไปก็พร้อมที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกวัน ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาข้อสรุปเรื่องการบรรจุญัตติ
“ไม่ได้มีความลังเลนะครับ กระบวนการในส่วนนี้มองในมุมหนึ่ง ผมเองต้องถามกลับไปทางฝั่งรัฐบาลมากกว่า ว่าจริงๆแล้วที่ออกมาบอกว่าฝ่ายค้านไม่ควรจะระบุชื่อคุณทักษิณ และพยายามบอกว่าพวกเราถอยไม่ได้ ไม่ยอมถอย พยายามไม่อยากเดินหน้าเข้าสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ผมอยากจะตอบชัดๆ ว่าไม่ใช่ เราพร้อมที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกวัน เพียงแต่ต้องการยืนยันในหลักการของเราว่าการทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร ซึ่งควรจะพูดได้อย่างเปิดกว้างและเต็มที่” นายณัฐพงษ์ กล่าว