สาวแบงค์ฉกการ์ดถอนเงินกว่า 8 ล้านงานงอกเพิ่มอีกพบความเสียหายเพิ่มลูกค้าแจ้งความซ้ำโผล่อีก 2 ล้าน
กรณี พ.ต.อ.ธวัชชัย สังฆมิตกล ผกก.สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สั่งการให้ชุดสอบสวนเชิญตัวนางปาริฉัตร (สงวนนามกสุล) อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่อำนวยบริการอาวุโสของธนาคารแห่งหนึ่ง แอบถอนเงินลูกค้าออกจากบัญชี 2 ครั้ง วงเงิน 8,004,424.66 บาท สอบปากคำรับว่าเอาเงินไปซื้อบ้าน ซื้อรถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ซึ่งทางธนาคารพบพิรุธการถอนเงินจึงตรวจกล้องวงจรปิดพบว่านางปาริฉัตรเป็นผู้กระทำการและยอมรับสารภาพกับผู้จัดการ ต่อมาจึงมีการมอบอำนาจจากธนาคารให้ผู้จัดการสาขาเข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานลักทรัพย์นายจ้างแล้วเมื่อวานนี้ (10มี.ค.)ขณะที่นางปาริฉัตร พนักงานสอบสวนได้คุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ฝากขังแล้วโดยยังไม่ได้ประกันตัว
ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ (11 มี.ค.68)มีรายงานว่าความเสียหายของธนาคารและลูกค้ายังไม่จบเพียงแค่นั้น ล่าสุดมีลุกค้าสงสัยจึงเข้าตรวจสอบบัญชีพบการแอบถอนเงินผ่องถ่ายออกจากบัญชีอีก 2 บัญชีวงเงินรวมกว่า 2 ล้านบาท โดยพันตำรวจโสมชาย มวยดี รองผู้กำกับสืบสวน สภ.ท่าศาลา ระบุว่าขณะนี้ผู้เสียหายทั้งสองราย ได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนแล้ว จนถึงขณะนี้พบว่าความเสียหายของผู้เสียหายรวมแล้วกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งไม่น่ากังวลเนื่องจากธนาคารจะเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหาย และจะไปฟ้องร้องดำเนินคดีแพ่งจากนางปาริฉัตรอีกชั้น นอกจากคดีอาญา ขณะเดียวกันทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดนั้นจะถูกอายัดด้วยไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือรถยนต์
ทั้งนี้นางปาริฉัตร เคยมีพฤติการทำนองนี้มาแล้วเมื่อครั้งตอนทำงานอยู่ที่ธนาคารสาขาอื่น แต่ความผิดในครั้งนั้นได้ยอมชดใช้ค่าเสียหาย และทางธนาคารได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและเห็นว่ามีปัญหาในครอบครัวและยอมชดใช้คืน ธนาคารจึงปราณียังให้ทำงานต่อ แต่ให้ย้ายไปอยู่สาขาล่าสุดก่อนจะทำผิดซ้ำอีกครั้ง ทางธนาคารเห็นว่าให้โอกาสแล้วยังไม่สำนึกผิดจึงแจ้งความดำเนินดำเนินคดีตามกฏหมายในที่สุด.