"บิ๊กเปีย" รับชันสูตรศพ "ผกก.โจ้" ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

วันที่ 11 มี.ค. ที่สน.ประชาชื่น ภายหลังจากพล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท่วม ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2, พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2, พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.ณัฐพล รัตน์สุภาพงศ์ สว.(สอบสวน)สน.ประชาชื่น เจ้าของคดี ร่วมประชุมกับ พล.ต.ต.วาที อัศววุฒมางกุร ผบก.พฐก. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์สถาบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ เพื่อเร่งรัดติดตามคดีการตายของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ เป็นเวลากว่า 3 ชม. 

พล.ต.ท.สมประสงค์ เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุมเร่งรัดติดตามสำหรับคดีการตายของผู้กำกับโจ้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำคดีไปคืบหน้าเยอะแล้วในหลายๆเรื่อง ทั้งพยานหลักฐานต่างๆ รวมไปถึงภาพกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ โดยมีกล้องทั้งหมดสองตัวที่อยู่บริเวณหน้าห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการตรวจดูแล้ว ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ ก็ไม่พบความผิดปกติ โดยในที่เกิดเหตุตัวผู้กำกับโจ้ก็ยังทักทายผู้คุมตามปกติ ซึ่งนอกจากกล้องในวันที่เกิดเหตุแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการร้องขอกล้องวงจรปิดตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุไปแล้วเช่นกัน แต่ต้องรอทางกรมราชทัณฑ์ส่งมาให้เพิ่มเติม 

โดยกล้องวงจรปิดพบว่าการจะเข้าห้องขังนั้นจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยไขกุญแจห้องขังของผู้กำกับโจ้ทุกครั้ง ยืนยันไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าออกจากห้องขังนอกจากตัวผู้กำกับโจ้. เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่เรือนจำให้การว่า ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เรือนจำได้พบผู้กำกับโจ้เสียชีวิตประมาณ 20.00 น. ขณะที่กำลังจะนำยาแก้เครียดไปให้ โดยเจ้าหน้าที่พยายามเรียกชื่อแต่ไม่มีการตอบรับ จึงก้มมองผ่านช่องประตูและพบว่าผู้กำกับโจ้ นั่งอยู่ก่อนจะทำการเขย่า แต่ก็ไร้การตอบรับ จึงนำมือสอดเข้าไปปรากฏว่าพบผ้าที่คอที่ถูกผูกไว้กับกรงประตู เจ้าหน้าที่ได้รีบนำกรรไกรมาตัดออกแต่ตัดไม่ขาด จึงรีบวิ่งกลับไปนำคัตเตอร์มาตัดผ้าออกเพื่อช่วยชีวิต ซึ่งตนได้ตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดแล้วก็เป็นไปตามคำให้การ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุการเสียชีวิตประมาณ 23.00 น. แต่สามารถเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ในเวลา 10.00 น. ของอีกวัน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุได้ตั้งแต่ได้รับแจ้งนั้น เนื่องจากจะต้องมีหลายฝ่ายเข้าไปร่วมตรวจสอบพร้อมกัน ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์เป็นผู้นัดให้เข้าไปในเวลาดังกล่าว

ซึ่งศพของผู้กำกับโจ้ได้อยู่ตรงที่เกิดเหตุตั้งแต่เสียชีวิตจนถึงเวลาที่พนักงานสอบสวนได้เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุเป็นเวลา 14 ชม. และจากการเข้าไปตรวจสอบพบว่าศพนั้นถูกนำมานอนหงายตรงและคลุมด้วยผ้าสีขาว และพบตัวผ้าขนหนูที่ถูกตัดมีชิ้นหนึ่งผูกอยู่ที่กรง และอีกชิ้นอยู่ที่พื้น ซึ่งขนาดผ้าอยู่ที่ประมาณ 1.6 เมตร โดยขณะนี้ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้นำผ้าขนหนูไปตรวจหา DNA ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจประมาณ 1 สัปดาห์


โดยตอนที่ตำรวจไปพบศพนั้น มีการทิ้งระยะเวลาไว้นาน และมีการเปลี่ยนแปลงท่าการตายของศพก่อนที่ตำรวจจะไปพบเป็นศพ (จากนั่งเป็นนอน) จึงจะทำให้การชันสูตรศพยากขึ้น. นอกจากนี้ยังพบรอยเลือดเล็กน้อยที่อยู่ใกล้ศพจำนวน 2 หยด แต่ทางกองพิสูจน์หลักฐานสามารถยืนยันได้ว่าเป็นเลือดมนุษย์ และได้มีการเก็บเลือดดังกล่าวไปเพื่อทำการตรวจ DNA แล้ว และยังพบว่ามีรอยกัดจากสัตว์ขนาดเล็กอยู่ที่บริเวณแขนซ้ายของศพอีกด้วย

ซึ่งในวันนี้ได้ส่งพนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ผู้คุมที่อยู่เวร ผู้ต้องขังที่อยู่ห้องบริเวณรอบข้าง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน โดยคดีการตายและคดีการถูกทำร้ายร่างกาย จะทำไปควบคู่กัน ซึ่งการตายนั้นตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ตายเองหรือถูกทำให้ตาย  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งกรอบระยะเวลาในการทำคดีนี้ไว้ 30 วัน เพื่อทำทุกอย่างให้กระจ่าง สามารถตอบโจทย์ได้อย่างสงสัย โทรไปถ้าตรงมา