สยามรัฐ ยืนหยัดอยู่บนบรรณภิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาณ “นิคฺคณฺเห นิคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” …*…

ไม่แปลกใจที่จะมี สส.พรรคส้ม แหกคีย์ ออกมาตำหนิเหตุถล่มสุไหงโกลก ที่ชื่อ “รอมฎอน ปันจอร์”  ที่วกมาด่ารัฐบาลไม่จริงจังกระบวนการสันติภาพ  เพราะหากไปย้อนดูพฤติการณ์ในอดีต ที่มีชื่อไปเอี่ยวกับขบวนการนักศึกษาแบ่งแยกรัฐปาตานี ก็ไม่แปลกใจที่จะมีท่าทีเช่นนี้ แม้ตัวเขาจะปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ตาม …*…

เมื่อถูกวิจารณ์ดักคอเอาจาก ไพศาล พืชมงคล ว่า “แทนที่จะประณามคนร้าย กลับมาด่ารัฐบาลและเรียกร้องให้รัฐบาลไปเจรจาสันติภาพกับคนร้าย นี่คือสาเหตุสำคัญของปัญหาใหญ่ในภาคใต้ ที่ไม่จบไม่สิ้นก็เพราะมีคนแบบนี้แหละ”…*…

“รอมฎอน” ก็เลยอ้างแบบสีข้างถลอกว่า “เพราะรัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อสภาและประชาชนครับ  (ฝ่ายก่อการเขาไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ ต่อประชาชนอย่างนี้) นี่เป็นความชอบธรรมธรรมและจุดแข็งของรัฐบาลที่สำคัญ นายกฯและผู้กำหนดนโยบายของรัฐบาลยังคงมีอำนาจที่ได้เปรียบกว่าในการกำหนดสถานการณ์ให้ดีกว่านี้ เพียงแต่ต้องตั้งหลักดีๆ และมีความกล้าหาญครับ”…*…

อ่านดูแล้ว ก็เห็นด้วยที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อสภา และประชาชน อย่างที่ “รอมฎอน” พูด  แต่ก็อยากถามกลับว่า แล้ว สส.ในสภาไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนหรืออย่างไร? การแสดงความเห็นของ“รอมฎอน” จึงไม่แปลกที่จะถูกมองว่าฉวยโอกาสจากสถานการณ์เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับอีกฝ่ายในการบรรลุเป้าหมายบางประการ…*…

ในอดีต “ศรพระราม”  เคยมีข้อมูลการข่าวว่า ไอ้คนที่มันใส่สูทเข้าไปนั่งในสภาฯ (ไม่ใช่ชุดปัจจุบัน) มันเอี่ยวจัดฉากสร้างเงื่อนไข ทำร้ายนาวิกฯในภาคใต้ ด้วยซ้ำ ซึ่งไอ้คนประเภทนี้  ก็เคยเดินเข้าเดินออกในสภาฯหน้าตาเฉยอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะต่อสู้ด้วยอุดมการณ์อะไร ก็ไม่ควรมีสิทธิในการทำร้ายหรือฆ่าคน ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นฝ่ายไหน เป็นประชาชน หรือเจ้าหน้าที่รัฐ…*…

กรอบอายุ 16-20 ปี  เป็นคุณสมบัติผู้รับเงินดิจิทัล1หมื่นบาท เฟส 3 “ศรพระราม” ปั่นต้นฉบับก่อนรู้ผลการประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องมีคำตอบว่า กลุ่มอายุ 16-20ปีนี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร พฤติกรรมการใช้จ่ายของคนกลุ่มนี้เป็นอย่างไร ไม่ใช่จะ “หาเสียงกับวัยรุ่น” อย่างที่เขาวิจารณ์กัน โดยอ้างเรื่องความเข้าใจเทคโนโลยี…*…

เตือนรัฐบาลระวัง “สึนามิ” ความไม่พอใจของกลุ่มคน ที่รอเงินหมื่น ช่วงอายุต่างๆ ที่พลาดมาหลายรอบ จนมาถึงในรอบนี้ให้ดีๆ และกลุ่มที่ไม่ได้ลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟนด้วย…*…

รัฐบาลต้องปรับมายด์เซ็ต คนที่เค้ารอลงทะเบียนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์เพทุบายอะไรอย่างที่รัฐบาลมองอยู่ เพราะเท่าที่ซาวเสียงคนรอบข้างการไม่ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐในรอบแรก ก็เพราะปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างๆ และบรรดามิจฉาชีพที่มาคอยหลอกลวงเอาเงิน ที่สำคัญคือกลุ่มผู้สูงอายุ ที่เขาอยู่ห่างไกลจากลูกๆหลานๆ เขาก็รอไปลงทะเบียนกับธนาคารเพื่อความเชื่อมั่น ฉะนั้น รัฐบาลต้องให้ความสำคัญและบริหารความไม่พอใจตรงนี้ให้ดี จากที่จะเป็นจุดแข็ง อาจกลายเป็นจุดอ่อนได้ ...*...

ที่มา:ศรพระราม (11/3/68)