วันที่ 11 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.  พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.ท.ธนนชัยย์ ศรีบุญจันทร์, พ.ต.ต.วชิรเชษฐ์ อัครธีระพงศ์, พ.ต.ต.ศุภเดช ธนชัยศิริ สว.กก.2 บก.ปอท.แถลงผลจับกุม นายสเตฟเฟน  อายุ 54 ปี สัญชาติเยอรมัน ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1633/2568 ลง 3 มี.ค.68 ข้อหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศ, ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น, เพื่อความประสงค์แห่งการค้า เพื่อการแจกจ่าย  ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือ ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก” ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

 

พล.ต.ต.อธิป กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับข้อมูลจากสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) ว่า นายสเตฟเฟน ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ใช้ดาร์กเว็บ (Dark web) จำหน่ายสื่อลามกอนาจาร เด็ก โดยมีทั้งคลิปแอบถ่าย,  คลิปวาบหวิว, คลิปหลุด, คลิปการช่วยตัวเอง และคลิปการมีเพศสัมพันธ์  โดยผู้ใช้บริการจะต้องโอนเงินดิจิทัลสกุล Bitcoin หรือ Monero สมัครสมาชิก  และจะได้รับเครดิตเท่ากับจำนวนเหรียญที่โอนไป ซึ่งภายหลังจากที่ได้เครดิตแล้ว หากสมาชิกเข้าดูคลิปวิดีโอใดในเว็บไซต์ ก็จะถูกหักเครดิตตามราคาของแต่ละวิดีโอ โดยนอกจากบริการการเข้าชมสื่อลามกอนาจารในเว็บไซต์นี้ได้แล้ว สมาชิกยังสามารถดาวน์โหลดคลิปลามกอนาจารมาเก็บไว้ได้อีกด้วย

 

พล.ต.ต.อธิป กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินดิจิทัล พบว่าผู้กระทำความผิดมีการยักย้ายถ่ายเทเงินไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลหลายกระเป๋า โดยมีการแลกเปลี่ยนเหรียญสกลุเงินดิจิทัลเป็นเหรียญสกุลเงินต่างๆ ก่อนจะแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทโอนเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทยจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับไว้ กระทั่งตามจับกุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลาง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค, คอมพิวเตอร์แม่ข่าย, โทรศัพท์มือถือ, อุปกรณ์บันทึกข้อมูล มีไฟล์วิดีโอ และภาพนิ่งกว่า 140,000 ไฟล์ , บัญชีธนาคาร, บัตรเครดิต, ซิมการ์ด รวม 36 รายการ 

 

ด้าน พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จากการสอบสวน นายสเตฟเฟน ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ประเทศเยอรมัน เมื่อเกษียณ จึงได้เดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย และใช้ความรู้ความสามารถทางด้านโปรแกรมเมอร์มาสร้างเว็บไซต์จำหน่ายสื่อลามกอนาจาร โดยเป็นผู้ดูแลดาร์กเว็บ จำนวน 2 เว็บไซต์ ซึ่งมีวิดีโอลามกอนาจารกว่า 5,000 คลิป โดยส่วนใหญ่เป็นสื่อลามกอนาจารเด็ก มีลูกค้าเป็นสมาชิกกว่า 10,000 ราย โดยแต่ละรายจะต้องมีการชำระเงินขั้นต่ำในการเข้าชมจำนวน 10 ดอลลาร์ ซึ่งภายหลังจากที่ได้รับเหรียญดิจิทัลสกุล Bitcoin จากลูกค้าแล้ว จะทำการยักย้ายถ่ายเทไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่นๆ และแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลเป็นเหรียญสกุลต่างๆ ก่อนจะนำเหรียญดิจิทัลมาขายเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายในประเทศไทย ซึ่งจากการตรวจสอบคาดว่าผู้ต้องหามีรายได้จากการขายสื่อลามกอนาจาร ประมาณ 3,500,000 บาท จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป