"นายกฯ" นั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ดกระตุ้น ศก. - เคาะแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทเฟส 3 อายุ 16-20 ปี กว่า2.7 ล้านคน พร้อมเปิดเงื่อนไขใหม่ใช้ได้ทุกประเภทสินค้า-ค่าเทอม ส่วนเฟส 4 รอไปก่อน
วันที่ 10 มี.ค. 68 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.การคลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เข้าร่วมประชุม
โดยนายกฯ กล่าวก่อนประชุมว่า ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เราเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น และนโยบายการกระตุ้นต่าง ๆ ก็มาจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องมือสำคัญ โดยกระทรวงการคลังได้ประมาณการว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 น่าจะเติบโต 3 เปอร์เซ็นต์ แต่รัฐบาลเชื่อว่า ด้วยศักยภาพของเศรษฐกิจไทยและความตั้งใจทำงานของทุกกระทรวงร่วมกับเอกชน จะทำให้เติบเศรษฐกิจไทยเติบโตมากกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ได้
นายกฯ กล่าวว่า ดังนั้นเพื่อให้เกิดความฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของการประชุมในวันนี้ เพื่อที่จะร่วมกันคิดและหาทาง และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ และต้องปฏิบัติภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวมากกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ เพื่อวางรากฐานในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้าง ระยะยาว ขอให้ทุกคนร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ
ทั้งนี้ก่อนการประชุมนายพิชัย จะเสนอการพิจารณาจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้กับประชาชนช่วงอายุ 16-20 ปี เข้าสู่ที่ประชุม
ล่าสุด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 ที่มี น.ส.แพทองธาร เป็นประธานว่า ที่ประชุมเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 3 ผ่านการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี รวมทั้งหมด 2.7 ล้านคน คาดจะจ่ายเงินลงไปถึงมือได้ภายในปลายไตรมาส 2 ปีนี้ โดยรัฐบาลเห็นว่าคนกลุ่มนี้มีความเหมาะสม เพราะเป็นวัยเรียน สามารถนำไปใช้จ่ายในสิ่งของที่จำเป็นการการเรียนได้ ส่วนเฟส 4 กลุ่มที่เกิน 20-60 ปี จะแจกหรือไม่ ดูความเหมาะสมอีกครั้ง
ส่วน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ในการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี ครั้งนี้ รัฐบาลได้ตัดเงื่อนไขเดิมออก เช่น ตัดรายการสินค้าต้องห้าม หรือ Negative List ออกทั้งหมด เพื่อให้สามารถใช้จ่ายได้สะดวกขึ้น โดยเปิดให้ใช้จ่ายค่าเทอมได้ ค่าน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้าได้รวมทั้งยังเปิดให้ร้านค้าถอนเงินสดออกมาได้อีกด้วย สำหรับไทม์ไลน์ของโครงการนั้น จะเริ่มต้นโครงการเร็วที่สุด คือไตรมาสที่ 2 หรือต้นไตรมาสที่ 3 ปี 2568 สรุปคือช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม 2568 หรืออย่างช้าเดือนมิถุนายน 2568
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลังกล่าวว่า กลุ่มอายุตั้งแต่ 16-20 ปีที่ได้รับเงินเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตมีจำนวนอยู่ที่ 2.7 ล้านคน กลุ่มนี้มี Digital Adoption สูง มีความตื่นรู้ทางด้านเทคโนโลยีสูง และความสามารถในการใช้จ่ายในรูปแบบนี้สูงกว่ากลุ่มอื่น โดยกลุ่มต่อไปยืนยันว่ารัฐบาลได้เตรียมเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ 1.5 แสนล้านบาท ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ต้องใช้จ่ายในไตรมาส 3 เพราะเป็นเรื่องของงบประมาณ มีกระสุนเตรียมไว้เพียงพอ รัฐบาลต้องใช้เงินอย่างคุ้มค่า ทุกบาท ทุกสตางค์ ในทุกเวลาที่เหมาะ