ชาวบ้านคลองขลุงบุกสภา ร้อง สว. ขอให้ช่วย หลังฝากเงินสหกรณ์แต่ถอนไม่ได้ โอด ยอดเงินรวมกว่า 400 ล้าน ทำชาวบ้านเครียดจัด เข้า รพ. ขณะบางคนคิดสั้น เหตุเป็นเงินเก็บทั้งชีวิต ข้าราชการครูเสียงสั่นน้ำตาคลอ บอกเป็นครู มันไม่มีรายได้อื่น ด้าน “ภิญญาพัชญ์” รับปาก ประสาน อธ.กรมเกษตรและสหกรณ์
วันที่ 10 ม.ค. 2568 เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา น.ส. ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้าน อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งฝากเงินไว้กับสหกรณ์การเกษตรคลองขลุง แต่ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
โดย น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้าน ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรคลองขลุงมาหลายปี ตั้งแต่ปี 2557 ที่ผ่านมาชาวบ้านกลุ่มนี้ได้นำเงินที่เป็นน้ำพักน้ำแรงในการทำการเกษตร บางคนทำไร่ ทำนา ทำสวน บางคนเป็นข้าราชการ ก็เอาเข้าไปฝากมาอย่างต่อเนื่อง หวังว่าจะได้ดอกเบี้ย เพราะในช่วงแรก สหกรณ์ให้ดอกเบี้ย 5.25 % ต่อปี ก่อนที่จะปรับลดลงมาเหลือเหลือ 3.5% ซึ่งก็ยังถือว่าเยอะกว่าธนาคารอยู่ดี บางคนฝากไว้ 3-4 ล้านบาท ตนได้รับแจ้งข้อมูลจากชาวบ้านว่าในช่วงเดือน ต.ค. ปลายปีที่ผ่านมา ปรากฎว่า หลายคนพยายามถอนเงิน แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ ทางสหกรณ์บอกว่าไม่มีเงินให้ และพยายามบ่ายเบี่ยง ให้ลงคิวไว้ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แวว ว่าจะได้เงินที่ฝากกลับมา และเมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็มีการรวมตัวกันไปแจ้งความ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
“หลายคนที่มาร้องที่นี่ ไม่มีบัญชีธนาคารนะคะ ไม่ฝากเงินกับธนาคาร ยอมเอาเงินที่หามาได้ทั้งชีวิตมาเข้าสหกรณ์ พวกเขาลำบากกันมาก หวังว่าจะกินดอกเบี้ย เอาไว้ใช้ตอนทำงานไม่ไหว เอาไว้ใช้ตอนแก่ แต่ปรากฏว่า ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า สหกรณ์บอกว่า ขาดสภาพคล่อง ตอนไปถอน ถอนได้น้อย หรือถอนไม่ได้ ถอนยาก มาโดนแบบนี้หลายคนก็แย่ เพราะไม่มีเงินติดตัวเลย ตอนนี้บางคนก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เครียด เข้าโรงพยาบาล ซึมเศร้า ไปจนถึงคิดที่จะฆ่าตัวตายแล้ว” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว
น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจความเดือดร้อนและหัวอกของชาวบ้านว่าเป็นยังไง และคิดว่าการฝากเงิน ถ้าตามหลักแล้วมันควรจะถอนออกมาได้ คนที่เขาเหนื่อยมาทั้งชีวิต หาเงิน วางแผนการใช้เงิน เขาไม่ควรมาเจอเรื่องแบบนี้ แล้วเรื่องนี้มีการร้องเรียนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ตอนนี้ผ่านมาหลายเดือนแล้ว คนที่เขาจำเป็นต้องใช้จริงๆ จะทำยังไงต่อ ตอนนี้เดือดร้อนกันมาก ยืนยันว่ารับเรื่องไปแล้ว จะไม่นิ่งนอนใจ เบื้องต้น ดิฉันจะประสานไปยังอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจะมีการตามเรื่องกันต่อไป
ขณะที่ น.ส.ฐศิรกูล อัครบวร ทนายความและตัวแทนชาวบ้าน ระบุว่า กรณีนี้ได้ไปแจ้งความแล้วตำรวจไม่ได้ดำเนินการใดๆ และมีชาวบ้านบางส่วนได้ไปไกลเกลี่ยที่ศาลแล้ว แต่สหกรณ์แจ้งว่า ขาดสภาพคล่องเนื่องจากลูกหนี้ไม่ใช้หนี้ ซึ่งเป็นเพราะปล่อยนี่ไปจำนวนหลายพันล้านบาท
ด้านข้าราชการครูเกษียณ กล่าวด้วยน้ำตา เสียงสั่นเครือว่า ตนมีเงินอยู่ก้อนหนึ่ง ได้จากทำงานข้าราชการนำไปฝากสหกรณ์ พอไปขอเบิกก็ไม่ได้ ข้าราชการครู ไม่มีเงินมาจากไหน พอมีอยู่บ้างก็มาโดนแบบนี้ จึงอยากให้ สว.ช่วย
เมื่อถามว่ามูลค่าความเสียหายเท่าไหร่ น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวว่า เบื้องต้นที่นะครับสร้างมูลค่ารวม 400 ล้านบาท หลังจากนี้ก็จะนำเข้าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อ ส่วนจะมีที่อื่นหรือไม่ ตนยังไม่ได้รับรายงาน