วันที่ 10 มี.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ในช่วงเดือนรอมฎอนว่า นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ตนเคยบอกว่า ในช่วงเดือนรอมฎอน ขอให้ต่างฝ่ายต่างไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น  เพราะหากไม่เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นถือว่าชุดเจรจาเก่าสามารถเป็นตัวแทนได้จริง เราจึงควรตั้งคำถามว่าคู่เจรจาของเราสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ได้ขอในช่วงเดือนรอมฎอนเป็นช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม ไม่ควรมีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ยังมีอะไรเกิดขึ้นอีก ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ อยากให้เหตุการณ์สงบ โดยยังมีการตั้งด่านตรวจตามปกติ ซึ่งเหตุการณ์ที่สุไหงโก-ลก ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าเสียใจ จึงขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

 

เมื่อถามว่า จะมีการปรับหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากชัดเจนว่าคู่เจรจาใช่คู่เจรจาตัวจริงหรือไม่ ซึ่งยอมรับว่าเป็นข้อสงสัยเหมือนกัน และขณะนี้มีการติดต่อไว้หลายส่วน เพราะไม่แน่ใจว่า ใครคือตัวจริงที่จะเจรจา แต่ยังไม่ได้หยุด และเราเดินหลายทางอยู่ พยายามเช็คให้แน่นอน ซึ่งตัวคณะกรรมการของเราตั้งไม่ยาก แต่ตั้งให้ถูกคนอันนี้ยาก ขอย้ำว่าไม่ได้นิ่งนอนใจกำลังสรุปเรื่องนี้อยู่ และเมื่อสักครู่ เพิ่งได้รับรายงานและแจ้งกลับไปว่า ขอให้เดินหน้าพูดคุยกับภาคส่วนต่างๆต่อ โดยเป็นการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการว่า ใช่คนที่เราจะคุยต่อหรือไม่ 

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ย้ำว่ารัฐบาลเต็มที่ที่จะเจรจา ซึ่งรัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการเจรจา ซึ่งอยู่ในโพเซสที่เคยเจรจาไว้แล้ว กำลังตรวจเช็คอยู่ ขณะนี้สิ่งที่เราพูดชัดเจนต่อสาธารณะ ขอให้ยุติสักช่วงหนึ่ง ซึ่งหากสามารถยุติได้ช่วงหนึ่งแสดงว่าต้องการที่จะเจรจา แต่เมื่อกำลังมีการเจรจา แต่เหตุการณ์ยังเกิดขึ้นมีที่ไหนเจรจากัน เพราะไม่ว่าสงครามที่ไหนเมื่อมีการเจรจาเขาก็ให้หยุดยิงก่อน รวมถึงหยุดเหตุการณ์รุนแรงก่อนถึงจะพูดคุยกัน ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ได้หยุดอยู่ในคณะเจรจาเดิม กำลังประสานและหาจุดใหม่ รวมถึงหาผู้เจรจาตัวจริง 

 

เมื่อถามว่า แผนยุทธศาสตร์ชายแดนใต้ที่สั่งการให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปจัดทำก่อนหน้านี้มีความคืบหน้าอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้จะเป็นครั้งที่สองที่จะนำกลับมาเสนอ ซึ่งไม่ใช่มอบหมายให้สมช. ทำเพียงหน่วยงานเดียว แต่บางหน่วยก็สั่งให้ทำข้อมูลส่งมายังตนเอง ซึ่งตนอยากฟังจากหน่วยงานตรง เพื่อเวลาอยู่ในที่ประชุม หากไม่พร้อมจะพูดคุยก็ส่งตรงมาให้ตนเองเพื่อตรวจสอบ ยอมรับว่า ขณะนี้ใช้การเมืองนำการทหารอยู่แล้ว ใช้เรื่องสันติและการพัฒนา พยายามที่จะเข้าหาและรับฟัง พยายามไม่เกิดการใช้กำลังรุนแรงเป็นเรื่องนำ แต่ต้องยอมรับว่าอย่างน้อยสุด ต้องปกป้องชีวิตทรัพย์สินของผู้คน จะยืนอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรคงไม่ได้ 

 

เมื่อถามว่า ทางการมาเลเซียแนะนำไม่ให้ประชาชนเข้าพื้นที่นั้น จะต้องมีการประสานเพื่อสร้างความมั่นใจหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า การแจ้งพลเมืองว่าเหตุเกิดที่ใดและให้หลีกเลี่ยงเป็นเรื่องปกติ อะไรเกิดขึ้นที่ไหนแต่ละประเทศจะมีการแจ้งพลเมือง ส่วนการดำเนินการนั้นมีหลายส่วน กระทรวงการต่างประเทศ มีการพูดคุยระดับแกนนำที่เราติดต่อประสานภายในก็ประสานอยู่ และตนมองว่าทางรัฐบาลมาเลเซียก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาเข้าใจถึงสถานการณ์อยู่แล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นยืดเยื้อและยาวนาน เราไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะแก้ไข 

 

เมื่อถามว่า มีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้จะดีขึ้นภายในปี 2568 ตามที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ระบุไว้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า รอ 1 ปี แล้วค่อยมาพูดกัน กำลังทำงานอยู่ อย่าไปคาดหวังว่าจะมีปัญหาอะไรก่อน เพราะเราต้องเชื่อมั่นว่าทำให้เต็มที่ ส่วนจะได้หรือไม่ได้ถึงตอนนั้นค่อยนำรายละเอียดมาพูดคุยกัน