ตำรวจเรียกประชุมเร่งรัดคดี อดีตผู้กำกับโจ้ผูกคอตายในเรือนจำ อนุกรรมการฯร่วมสังเกตการณ์ ชันสูตรพลิกศพ ไม่พบรอยช้ำใต้ลำคอ ญาติส่งรพ.จุฬาฯตรวจซ้ำ
จากกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ผู้ต้องหาใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตบน สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยใช้ผ้าขนหนูผูกคอเสียชีวิตในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อคืนวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าที่ห้องประชุมชั้น 3 สน.ประชาชื่น เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 มี.ค.68 พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 , พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 , พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น , พ.ต.ท.ณัฐพล รัตน์สุภาพงศ์ สว.(สอบสวน) สน.ประชาชื่น พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ประชุมเร่งรัดการทำคดีดังกล่าว ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พล.ต.ต.เจษฎา กล่าวว่า ในการประชุมได้ติดตามเร่งรัดคดี ทั้งในส่วนคดีที่ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต และถูกทำร้ายร่างกาย โดยคดีการเสียชีวิต เบื้องต้นมีการเก็บพยานหลักฐานมาครบแล้ว รวมถึงกล้องวงจรปิดทั้งหมด หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียด โดยเฉพาะผ้าขนหนูที่ใช้ในการก่อเหตุ
ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี บรรยากาศช่วงเช้าที่ผ่านมา มีรายงานว่าครอบครัวของ อดีตผกก.โจ้ ได้เดินทางมารับศพในเวลา 10.00 น. โดยมีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรพลิกศพอดีตผกก.โจ้ และประชุมสรุปผลที่อาคาร 2 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยถึงผลชันสูตรพลิกศพว่า การชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ให้น้ำหนักไปที่เรื่อง ขาดอากาศหายใจ จากการผูกคอเสียชีวิตด้วยตนเอง โดยใช้ผ้าในการผูกรัดคอ เนื่องจาก บาดแผลมีรอยกว้าง ประมาณ 1.4 เซนติเมตร จึงอาจไม่ใช่การใช้เชือกผูกคอเสียชีวิต อีกทั้งลักษณะของแรงที่เกิดขึ้น ไม่พบรอยช้ำบริเวณเนื้อเยื่อใต้ลำคอ หรือ บริเวณใต้รอยรัด และไม่พบการช้ำของกล้ามเนื้อลำคอ หรือบาดเจ็บของกระดูกแต่อย่างใด จึงให้เหตุผลว่าแรงที่มากระทำไม่ได้เยอะมาก
นอกจากนี้ ยังไม่พบร่องรอยบาดแผล ที่ถูกทำร้ายอื่นด้วย จะมีแค่เพียงร่องรอยบาดแผลฟกช้ำ บริเวณสะโพก ซึ่งเป็นรอยช้ำเก่า แต่ก็จะตรวจสอบโดยใช้เครื่องซีทีสแกน สแกนว่าเป็นร่องรอยบาดแผลในอดีตหรือไม่ แล้วจะลงรายละเอียดในรายงานอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่ญาติพบว่ามีเลือดออกในที่เกิดเหตุนั้น จากการสอบถามกับคณะชันสูตรในที่เกิดเหตุ เป็นไปได้สองกรณี กรณีแรกสงสัยว่า หลังเสียชีวิตจะมีของเหลวในร่างกายไหลออกมาคลายเลือด อาจออกจากทางปาก ส่วนกรณีที่สอง คือไหลออกมาจากบาดแผล เพราะพบบาดแผลถลอกที่บริเวณแขน ซึ่งคิดว่าน่าจะไม่ใช่เลือด คาดว่าเป็นของเหลวที่ไหลออกมาหลังเสียชีวิตเสียมากกว่า ซึ่งสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจได้เก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว ส่วนแผลถลอก เราได้สอบถามกับทางพนักงานฝ่ายปกครอง บอกว่าเห็นตั้งแต่ช่วงไปชันสูตรศพ ที่เกิดเหตุแล้ว อาจเกิดขึ้นในช่วงที่นำร่างออกมา แล้วไปครูดกับของแข็งบางอย่าง เรื่องนี้ยืนยันได้ว่าเจอแผลถลอกตั้งแต่ชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นแผลที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่
ส่วนเรื่องผ้าที่ใช้ในการผูกคอ ทางพนักงานสอบสวนส่งให้ทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจเป็นผู้ตรวจพิสูจน์ต้องใช้ข้อมูลจากส่วนนั้นอีกครั้งนอกจากนี้แพทย์จะต้องมีการตรวจสอบสารพิษ ในยาอีกด้วย ต้องใช้องค์ประกอบในการตรวจเลือดตรวจปัสสาวะที่ได้จากศพ จะใช้เวลา 2-4 สัปดาห์จึงจะได้ผลชันสูตรฉบับสมบูรณ์
นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์เปิดเผยว่า หลังจากนี้ทางครอบครัวจะนำร่างของอดีตผกก.โจ้ไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชของรพ.จุฬาลงกรณ์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลที่ได้รับในวันนี้
วันนี้ทางครอบครัวก็พอใจ แต่ขอดูผลรายละเอียดต่างๆจากแพทย์อีกครั้งหนึ่ง สำหรับการที่อดีตผู้กำกับโจ้ถูกนำไปขังเดี่ยวประมาณ 2 เดือนเศษ คาดเป็นการถูกลงโทษหลังถูกทำร้ายที่ไปแจ้งความจากนั้นก็ถูกนำตัวไปขังเดี่ยว และไม่ได้มีการขอไปอยู่ขังเดี่ยวเพราะผู้กำกับโจ้บอกตลอดว่าอยากออกจากการถูกขังเดี่ยว