วันที่ 8 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กระทรวงยุติธรรม ว่า เมื่อเวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา จากกรณีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อายุ 43 ปี อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ เสียชีวิตที่เรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ซึ่งกรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจงว่าเวลา 20.24 น. เจ้าพนักงานเวรรักษาการณ์เดินไปจ่ายยาประจำตัวให้กับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ พบเห็นในลักษณะนั่งหลังพิงกับประตูห้องขัง จึงได้พยายามเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้แจ้งพัศดีเวรและพยาบาลเวรเข้าเปิดห้องขัง พบว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ใช้ผ้าขนหนูขนาดเล็กผูกคอกับประตูห้องขัง ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก ไม่รู้สึกตัว ปลายนิ้วมือซีดเขียวคล้ำ ไม่พบชีพจรบริเวณหลอดเลือดแดงใหญ่ ที่คอตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าทางเดินไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าออกห้องดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิต ยืนยันว่าไม่มีเจ้าพนักงานเรือนจำหรือผู้ต้องขังรายใดทำร้าย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นที่ปรากฏโดยทันที 

อย่างไรก็ตาม นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความ รับมอบอำนาจจาก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ แจ้งความร้องทุกข์เมื่อเดือน ม.ค.2568 กรณีถูกผู้คุมเรือนจำกลางคลองเปรมด่าทอ แล้วชกต่อย บาดเจ็บมีรอยฟกช้ำขนาดใหญ่ที่ทรวงอก ทนายความของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ก่อนหน้านี้และยังได้เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเสียชีวิต ญาติของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ได้เข้าไปเยี่ยมเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (7 มีนาคม 2568) ซึ่งเหตุการณ์ปกติ และ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กล่าวว่า ต้องเข้าไปสอบสวนวินัยหลังเวลา 15.00 น. เพราะมีความผิดกระด้างกระเดื่อง ก่อนที่จะเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งติดใจในประเด็นว่าเกิดจากอะไร โดยได้แจ้งความที่ สน.ประชาชื่น และขออายัดศพ เพื่อไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี 

สำหรับเรื่องนี้ พันตำรวจเอก ทวี ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ได้สั่งการให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ลงพื้นที่เพื่อติดตามตรวจสอบข้อมูลกรณีผู้ถูกควบคุมตัวถึงแก่ความตาย และให้นำเรื่องเสนอคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองเกี่ยวกับการกระทำทรมาน ตามมาตรา 28 ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการกระทำทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เป็นกรณีเร่งด่วนต่อไป