ไม่ฟ้องแล้ว! “ประจักษ์ชัย” ยอมกลืนเลือดอภัย "โม" เตรียมให้ “ลำไย” แถลง

กรณี “ลำไย ไหทองคำ” ประกาศโสด เลิกรากับ “ปุ้ย Lกฮ.” แฟนหนุ่มที่คบหาดูใจนาน 9 ปี ต่อมามีหลายเพจโพสต์อักษรย่อ อ้างลำไยมีซัมติงกับ “บอส” แดนเซอร์ในวง พร้อมเผยว่าฝ่ายชายไม่โสดตอนที่คบหากัน ลำไยมีการออกมาโพสต์อีกครั้งว่าถูกแฟนเก่าบอสเรียกเงิน 10 ล้าน แต่ลดเหลือ 2 ล้าน เรื่องราวบานปลาย มีการตามหาว่าฝีมือใครกันแน่ที่นำภาพลับและเรื่องราวของลำไย-บอส ไปปล่อยให้เพจต่างๆ ออกมาแฉ ขณะที่บอสกับโมต่างพูดในมุมของตัวเองหนังคนละม้วน จน “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” ผู้บริหารค่ายไหทองคำ ประกาศจ่อฟ้องโม 100 ล้าน 

รายการ โหนกระแส วันที่ 7  มี.ค.68 ดำเนินรายการแทน “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น มาพร้อม “ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล”

เครียดมั้ย ได้นอนบ้างมั้ย วันๆ เห็นนั่งไลฟ์อย่างเดียวเลย?

ประจักษ์ชัย : ปกติไลฟ์สดอยู่แล้วครับ ตีสองตีสาม จะไปแต่กับลำไยก็กลัวลูกๆ ในค่ายน้อยใจ ก็ไปทั่วถึง รับงานช่วยน้องแอนด้วย ก็เป็นเซ็นเตอร์ในการตัดสินใจ นอนน้อยครับ แต่ก็อิ่ม ทานน้อยก็อิ่มทิพย์ อิ่มสุข กับสิ่งที่เราทำแล้วสำเร็จ

มีโอกาสได้สัมภาษณ์ลำไยตอนรายการปากโป้ง รายการแรกที่เปิดซิงลำไย กับประจักษ์ชัย นานมากหลายปีมาก เดินทางมาถึงวันนี้ ก็ยินดีกับความสำเร็จด้วย เรื่องราวที่เกิดขึ้น พี่กินไม่ได้นอนไม่หลับมั้ย?

ประจักษ์ชัย : มีผลครับ ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว เหนือความคาดหมายเลย เพราะลำไยก็ไต่จากเด็กบ้านๆ เด็กในสลัมแถวๆ พรานนก ขายถั่วต้ม ลูกอมในร้านข้าวต้มตอนกลางคืน ก็มาถึงจุดนี้ เราเป็นผู้สร้าง เห็นเด็กที่มีแววร้องเพลงและเต้นเก่ง มาสร้างชื่อให้น้องลำไย เป็นลำไย ไหทองคำ โดยการตั้งชื่อโดยผม แต่งเพลงหาเพลงให้ ปีแรกไม่ดัง ร้องผ่านไปสามเพลงได้ 1 ปี ค่อยมาดัง เราก็เสียดายสิ่งที่เราต่อสู้มา เมื่อเป็นความผิดพลาด ด้วยความไม่เจตนา หรือพลั้งเผลอ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทางค่ายก็น้อมรับครับ หลังจากนี้ค่อยมาคุยกัน

เคยรู้มาก่อนมั้ย ว่าบอสกับลำไยเคยคบหากัน?

ประจักษ์ชัย : ผมเพิ่งมาเห็นพฤติกรรมหลังๆ ปีใหม่นี้เอง ที่มีการไปเต้นคลิปคู่กันมากขึ้น หรือนั่งทานข้าวก็นั่งใกล้ชิดมากขึ้น เราก็เริ่มจับตามองอยู่ ก็ถามแอนอยู่

เสืออย่างเราก็พอรู้?

ประจักษ์ชัย : ก็พอรู้ มันเป็นเรื่องภายในที่เราห้ามกันไม่ได้ ลำไยก็เป็นซูเปอร์สตาร์ในจังหวะนี้ด้วย ไลฟ์สไตล์แต่ละคน เรื่องหัวจิตหัวใจ ความรัก ความชอบ มันห้ามกันไม่ได้

ถามลำไยมั้ย คบกันจริงหรือเปล่า?

ประจักษ์ชัย : เราไม่กล้าถาม ให้สเปซ เป็นตัวแมสของค่ายด้วย เราจะไปทำให้น้องมีอะไรในใจว่าทำไมอาจารย์ต้องมาจี้

กลัวย้ายค่าย?

ประจักษ์ชัย : โห (หัวเราะ) มันก็ถูกต้อง (หัวเราะ) ก็ต้องรักษาสิ่งที่สร้าง

ถอนหายใจเลยนะ?

ประจักษ์ชัย : กระทบไม่ได้ มันสร้างมาด้วยกัน มันสวิงไปหมด ทั้งงานพรีเซ็นเตอร์ งานที่เหลืออยู่ เอาคนอื่นมาทำแทนไม่ได้นะมันมีผล

พอลองสังเกต นายห้างจะให้ภรรยา คือคุณแอนนาดูทั้งหมด?

ประจักษ์ชัย : ดูเรื่องคิว แต่การสร้างโปรดักชั่นต่างๆ งานครีเอต งานมีเดีย คือผม แฟนเขาจะเก่งเรื่องบัญชี ล็อกคิวเป็นหลัก คิวสุดท้ายต้องอยู่กับแอน ถ้าแอนไม่เคาะผมไม่กล้ารับมัดจำเลย สุดท้ายต้องเอาคิวที่เขา แต่เบอร์ที่ติดอยู่ในยูทูปแต่ละครั้งจะเป็นเบอร์หลักของผม ตอนนี้ต้องเปลี่ยนผ่านให้แฟนและลูกสะใภ้ ลูกชายช่วยกันดู

ตอนบอสเข้ามาค่ายไหทองคำ ใครคัดเลือก?

ประจักษ์ชัย : ผ่านการออดิชั่นผ่านเพจ และมาเต้นที่บ้านลำไย แล้วก็เลือกกันมาประมาณ 8 คน หนึ่งในนั้นมีน้องบอส ออดิชั่นรอบเดียวเลย

ตอนนั้นเข้ามาเดือนมี.ค. ปีที่แล้ว เข้ามาเป็นตัวสำรอง?

ประจักษ์ชัย : ที่จริงมีเจอาร์กับพีพีไว้เบื้องต้น  น้องเป็นตัวสามตัวสี่ ถ้าพีพี-เจอาร์ลา ก็จะเป็นน้อง แต่จริงๆ น้องก็เต้นเก่งอยู่แล้ว ด้วยหุ่นด้วยบอดี้ โครงสร้าง ออกแบบท่าเต้นให้ทีมได้หลายเพลง ก็เห็นแวว

บอสบอกว่าลำไยเป็นคนโปรโมตขึ้นมาเป็นตัวจริง แค่เดือนเดียวเท่านั้นเอง?

ประจักษ์ชัย : ก็เห็นความสามารถ ตอนนั้นเริ่มเห็นแววของพีพี เขาลุคดาราเอเชียน เล่นหนังเล่นละครได้เลย แล้วท่าเต้นความแข็งแรง ความอึด เด็กวัยรุ่น น่าจะเป็นบอสที่แข็งแรงกว่าในท่าเต้น ลำไยก็อยากให้ความแข็งแรงตรงนั้นเกิดขึ้น ก็เลยเรียกบอสขึ้นมา แล้วดันพีพีมาเป็นศิลปินเดี่ยวที่ผมกำลังวาง

เรื่องที่เกิดกับลำไย  ส่วนใหญ่เขาปรึกษาใคร?

ประจักษ์ชัย : คุยกับปุ้ยมากกว่า แม่ ประมาณนี้ ผมไม่ได้ยุ่งเลย เรื่องบริบทต่างๆ ในชีวิตเขา ผมยุ่งแค่เรื่องงาน คิวงาน เพลง มีพรีเซ็นเตอร์เข้ามาต้องเต้นต้องซ้อม เรารู้ว่าน้องมีไลฟ์สไตล์ของน้อง ความเป็นส่วนตัวก็มี  ที่ว่าจะไปปรึกษาใครผมไม่ทราบ น้องจะโพสต์ด้วยมุมมอง ด้วยมายด์เซ็ตของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ตรงนี้ผมไม่ก้าวล่วงจริงๆ

ตอนที่เขามีเรื่องมีราวกัน มีคนมารายงานมั้ย ช่วงจะเซ็นสัญญาข้อตกลงระงับข้อพิพาท?

ประจักษ์ชัย : ไม่มี ผมไม่ทราบจนถึงวันที่ลำไยโพสต์ครั้งแรก ไม่รู้จริงๆ ด้วยสัตย์ซื่อ เขารู้กัน 4 คน ขนาดสามียังไม่รู้เลย

มีใครบ้าง?

ประจักษ์ชัย : แอนนา น้องโม บอส และพยานที่เป็นพี่ชายของน้องโม

ต้องมีปุ้ยด้วยนะ ปุ้ยบอกนัดทั้งหมดมาเคลียร์กัน?

ประจักษ์ชัย : ผมไม่ทราบได้ แต่ผมคิดว่าในการไปเจรจากันตรงนั้น มีแค่ 4 คนจริงๆ และผมไม่ทราบว่าปุ้ยให้ไปเจรจาหรือแอนพาไปเจรจาตอนไหนไม่ทราบ ในบันทึกข้อตกลงไม่ได้ลงวันที่ ผมเริ่มวิเคราะห์แล้วว่าผมขอสลิปเพื่อโอนเงินในวันนั้นเลยทันทีมั้ย ก็สามสลิปในวันนั้น เริ่มรู้แค่นั้น

ถ้านายห้างรู้วันนั้น นายห้างจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?

ประจักษ์ชัย :   ผมว่าการเจรจาไม่ถึง 2 ล้านเลยด้วยซ้ำไป ผมก็ต้องเรียบเรียงหลักฐานก่อน ว่ามีคลิปจริงมั้ย มีอะไรที่สุ่มเสี่ยงจะเสียหาย จะเปิดเผยยังไง ผมน่าจะได้พูดคุยมากกว่านี้ การลบตอนนั้นลบเพราะเชื่อใจ ไม่ได้เห็นว่ามีคลิปอยู่ในมือ กี่ชั้น กี่อัน ขอแค่อย่าเผยแพร่ ในข้อตกลงตรงนั้นไม่ได้สืบสาวราวเรื่องว่ามีคลิปกี่ตัว กี่อัน แค่เขาเอ่ยขึ้นมาว่ามีการแชต มีการไม่พอใจ มีการเห็นข้อความ รูปถ่าย แอนก็คงพยายามไม่ให้ข่าวนี้รั่วไหล และไม่ได้ปรึกษาผม แอนแค่คิดข่าวเฉยๆ

ถ้านายห้างอยู่ตรงนั้นและจัดการเรื่องเอง ไม่ให้ 2 ล้าน?

ประจักษ์ชัย : น่าจะซอฟต์กว่านี้ วิธีการมีข้อมูลที่บีบให้น้องปฏิบัติตามข้อตกลงก็จะเข้มข้นกว่านี้ หรือจ่ายเพื่อให้น้องปิดข่าวได้รัดกุมกว่านี้

มองว่าสัญญาไม่รัดกุม?

ประจักษ์ชัย : การจ่าย จ่ายง่ายเกินไป ความผิดฐานเสียใจอย่างนี้ น้องได้รับไปคือสิ่งที่เรามีน้ำใจ เราคิดว่าลำไยเป็นคนที่มีชื่อเสียง มีมูลค่า ไม่ว่ามีคลิปยาวสั้นเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่งก็ขอให้จบตรงนี้ ไม่ได้คิดว่าต้องมีคลิปจริง คลิปไม่จริง ขอแค่ไม่ต้องพูดต่อสำหรับน้องโม แอนคิดแค่นี้ และคิดว่าลำไยก็ไม่ได้แถว่าไม่ได้ทำความผิด แค่พี่แอนไปเคลียร์ให้เบื้องต้น เขาสูญเสียแล้วจะเรียกร้องอะไร แล้วเอามาสรุปกัน

หลังเกิดเรื่อง ได้คุยกับลำไยมั้ย?

ประจักษ์ชัย : คุยเมื่อวานซืนแค่นั้นเอง ไม่ได้เจาะเรื่องนี้ แค่ให้กำลังใจ ไม่ได้ถามว่าทำไมทำแบบนั้น เราไปพลาดยังไง เราดื่มมั้ย เราเพ้อมั้ย เราเหงามั้ย น้องเขาแถลงไปแล้วในรายละเอียด ซึ่งผมก็ไม่กล้าถามว่าทำไมไปทำอย่างนั้น เราระดับนี้ ทำไมไม่คิดให้มากกว่านี้ ไม่กล้า ไม่ได้ถาม ไม่อยากพูด มันเป็นการตอกย้ำ ก็แค่ให้เวลามันผ่านไป สลายความเจ็บปวด ถามว่าตอนนี้ผมเจ็บปวดมั้ย นอกจากลำไยเป็นเหยื่อในมุมมองหลายๆ ท่านที่มองว่าจะมีการรีดทรัพย์ ตบทรัพย์หรือไม่ก็แล้วแต่ แต่คนที่ได้ทรัพย์ไป ก็ได้ไปแล้ว 2 ล้าน ไม่ว่าน้องปล่อยคลิปรั่วไปถึงแม่ของผู้ชายด้วยเจตนาฟ้องแม่เฉยๆแต่ก็เป็นบุคคลที่สาม แม่อาจมีบุคคลที่ 4 และ 5 ที่ได้รับรู้ไปจากตรงนั้น มันก็เสียหายแล้ว ผมหยิกเล็บก็เจ็บเนื้อครับ พูดอะไรมากไม่ได้ ในฐานะเป็นองค์กร ต้นสังกัด ก็ได้แค่ออกมาปกป้อง ถามว่าในสิ่งที่เป็นจริยธรรมในสังคมผิดมั้ยก็ผิดครับ สิ่งนี้ลำไยก็ต้องยอมรับผิด หลังจากหาทางลง หาอะไรให้ซอฟต์กว่านี้ ตอนนี้กำลังน้ำเชี่ยว ลำไยต้องแถลงนะ ลำไยต้องแสดงสปิริต ผมไม่ได้ปกป้องลำไยจนไม่ลืมหูลืมตา ผมก็เป็นผู้ใหญ่ในสังคมที่ต้องเดินต่อกับคำว่าไหทองคำเรคคอร์ด องค์กรผมต้องเดินได้ ไม่ใช่ผมต้องไปปกป้องทุกอย่าง ผมก็เสียโอกาส

หลายคนถามว่าพี่คิดได้ไง เป็นคอนเทนต์หรือเปล่า หรือพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ในการเอามิวสิกวิดีโอออกมา?

ประจักษ์ชัย :   ไม่ได้เป็นคอนเทนต์เลยครับ มันเป็นจังหวะที่เราทำเพลงนี้ไว้ก่อนหน้านี้ และจะปล่อยให้ดังก่อนสงกรานต์ มีไทม์ไลน์ว่าเพลงนี้กว่าจะขยี้ได้ต้องใช้เวลาประมาณครึ่งเดือน ถึงหนึ่งเดือน ไม่มีใครสร้างคอนเทนต์ที่บาดเจ็บจี๊ดขนาดนี้ เพราะมันเป็นภาพลักษณ์ของค่าย มันไม่น่าแลก แต่ต้องปล่อยจังหวะนี้เพราะลูกค้าบรีฟมาว่าต้องรีบปล่อยได้แล้ว เพราะรอคิวลำไยมานานมาก ขนาดถ่ายเอ็มวีวันที่ 25 ก็ถ่ายได้แค่ชุดเดียว เพราะลำไยต้องบินไปเล่นคอนเสิร์ตที่อุบลฯ ต้องรีบปล่อยตามลูกค้าขอมา ไม่ได้มีคอนเทนต์ครับ

วันนี้พี่จะเอายังไงกับบอส หลังเป็นประเด็นเกิดขึ้น จะเก็บบอสไว้ใช้งานอื่นๆ มั้ยหรือจะให้ออกจากไหทองคำไปเลย?

ประจักษ์ชัย : สิ่งที่ตัดสินใจวันนี้ หลังผ่านมา 3-4 วัน น่าจะให้น้องออกจากไหทองคำ ถ้ามีเหตุการณ์ต่อเนื่องจะเสียหายไปเรื่อยๆ ทางเอฟซี แฟนคลับ แฟนเพลงที่ไปเล่นแต่ละที่ ถึงไม่เด้ง ไม่เด้า ก็อยู่ในซีนต้องโยนมุกไป ถ้าโยนมุกไปแล้ว คนตอบโต้มาเป็นน้อง ก็ต้องมาแสดงตัวตนอยู่ในซีน มันก็ทำให้เหมือนเราไม่มีมาตรการรับรู้รับทราบ ไม่ใช่บทลงโทษหรอก เพียงแต่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นบ้าง ไม่ได้ดูถูกความรู้สึกของแฟนเพลง ขอความร่วมมือกับน้อง แต่ก็ไม่ได้คุยกับน้องเลยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ผมมีไลน์น้องนะ แต่จำไม่ได้ว่าชื่อไลน์ว่าอะไร

การเอาคนเข้าคนออก ใครเป็นคนคุย?

ประจักษ์ชัย : ถ้าเป็นศิลปินผมสกรีนหมดเลย แต่แดนซ์ผมว่าไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องไปสกรีนว่าคนไหนเต้นเก่งหรือเต้นไม่เก่ง เวย์การเต้นหรือบีบอย ผมไม่ถนัด ถ้าหมอลำผมพอดูออก แต่ตอนเราประกาศว่าแดนซ์เราเป็นผู้หญิง 4 คน เราน่าจะมีอะไรที่ว้าวกว่านี้ เราลองสมัครแดนซ์ชายมั้ย ลำไยดันโพสต์ไปสนุกสนานว่ารับสมัครแดนซ์ชาย เพิ่มคำว่าแท้เข้าไป มันเลยกลายเป็นไวรัลว่าทำไมต้องแท้ เป็นประเด็นว่าลำไยขอเป็นชายแท้ตอนนั้น

ไม่ถามไม่ได้ ก่อนรับบอสเข้ามา หรือรับแดนเซอร์เข้ามา จำเป็นต้องเช็กประวัติก่อนมั้ยว่าเขามีพฤติกรรมอื่นๆ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการมาทำงานกับเรา ไหทองคำต้องเช็กก่อนมั้ย แล้วบอสคุณได้เช็กก่อนมั้ย?

ประจักษ์ชัย : ไม่มีหรอกครับ ไม่มีค่ายไหนถามประวัติเรื่องราวก่อนหน้านี้หรอก ไม่มีแม้กระทั่งใบสมัครงาน บัตรประชาชน ผมรับมาก็คือรับเฉยๆ เรื่องแดนเซอร์เป็นเรื่องที่ลำไยออดิชั่นที่บ้านลำไยนั่นแหละครับ เรียกมาออดิชั่นไม่มีการตรวจสอบประวัติ

ไม่เคยทราบว่าก่อนมาอยู่ไหทองคำ บอสเคยมีประเด็นนึงติดตัวมาจากที่เดิมคือเรื่องการแอบถ่าย?

ประจักษ์ชัย : ไม่ทราบเลยครับ มาทราบตอนที่มีสื่อต่างๆ ลงว่าน้องมีพฤติกรรมชอบถ่ายคลิป ถ่ายนั่น เห็นน้องไปออกอีเวนต์กับผม ก็เห็นไปถ่ายเต้นบีบอยตามห้าง แบ็กดร็อปสวยๆ อยู่ แต่เรื่องแอบถ่ายไม่ทราบจริงๆ มันเป็นเรื่องส่วนตัว ยากแท้หยั่งถึงครับ เหนือการควบคุม ถึงจะเป็นประวัติย้อนหลัง หรือพฤติกรรมความชอบส่วนตัวเราไม่ก้าวล่วง เจาะไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง บางทีเห็นคนนี้มาหุ่นดี หน้าตาดี เต้นได้แต่จะไปส่องเฟซว่าคนนี้คบใครเป็นแฟน เปิดตัวมีลูก มีอะไรกับใคร เราไม่ได้ก้าวล่วงถึงขนาดนั้น

ทำไมพี่ประกาศไต่ระดับฟ้อง 20 ล้าน มา 50 ล้าน แล้วก็ 100 ล้าน?

ประจักษ์ชัย : ผมคิดว่าในเมื่อน้องละเมิดข้อพิพาทผมเห็นแค่สิทธิ์ในการฟ้องร้อง ยินยอมชำระกลับคืนมาให้ 20 ล้าน ผมคิดว่าสเกลการฟ้องคือระวางโทษในบันทึกข้อตกลงตรงนั้นสูงสุดแค่ 20 ล้าน มีพี่ๆ ทนายหลายคนให้กำลังใจผมมาว่า นี่คือการประทุษร้ายต่อชื่อเสียงของศิลปินและของค่ายด้วย เพราะในบันทึกข้อตกลง ตกลงว่าจะไม่ทำให้ศิลปินในค่ายเสื่อมเสีย ผมก็มองว่าถ้างั้นถ้าฟ้องหมิ่นประมาท ได้ตรงนี้ 20 ล้าน ผมไม่ได้คาดหวังถึงเงินที่จะได้จากน้อง แต่ผมฟ้องเพื่อป้องปรามน้อง ให้ยำเกรงต่อข้อผิดพลาดที่น้องทำ และจากเพจต่างๆ ที่ย่ามใจในการเอาไปเผยแพร่ ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะภาพนิ่ง คลิปสั้น คลิปยาว เอไอเอาไปตัดต่อหรือเป็นไวรัลต่างๆ ผมว่าน้องน่าจะมีวงเงิน 20 ล้านที่ผมจะเรียกในเบื้องต้นก่อน ผมพอเรียนรู้กฎหมายนิติศาสตร์บ้าง หมิ่นประมาท 2 ปี จำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสน วงเงิน 2 แสน นี่คือทางอาญา แต่ทางแพ่งผมสามารถเรียกร้องประเมินความเสียหายจากค่ายได้อีก เท่าไหร่ก็ว่าไป 20 30 100 ล้านก็ว่าไป มูลค่าของผมก็ไม่ธรรมดานะ พรีเซ็นเตอร์ของผม งานลำไยลากไปอีก 2 ปีข้างหน้า ถ้าลูกค้าแคนเซิล หรือพรีเซ็นเตอร์ผมแคนเซิล ไม่ใช่แค่ 20 ล้านที่ผมได้รับ ผมก็ต้องป้องปราม ผมกลัวหลุดตรงนี้ น้องไม่มีจ่ายตรงนี้ ผมก็ต้องไปเอาหมิ่นประมาท ถ้าลูกค้าผมถอนพรีเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นๆ ผมก็ตีกว้างๆ ไว้ก่อนว่า 70 ล้าน อารมณ์คนเห็นน้องบอกว่าไม่ค่ะ หนูไม่ได้ทำเลยค่ะ หนูไม่ได้เรียกร้องเลยค่ะ ทางนั้นเสนอมาค่ะ ผมกำลังจะไปออกอีกรายการ ผมเป็นพ่อพระอยู่ดีๆ ผมเปลี่ยนมายด์เซ็ตมาเยอะแล้ว ผมก็ตบะแตกเลย

เป็นซาตานเลย?

ประจักษ์ชัย : พ่อมดลงสิงเลย

โมพูดอะไรที่พี่ไม่โอเค?

ประจักษ์ชัย : ตอบว่าไม่ค่ะอย่างเดียว ตอนเรียก 10 ล้าน บอกว่า 5 ล้านเอง

ด้วยความเคารพ ผมเป็นกลาง ขอถามแทนโม ในเมื่อวันนั้นพี่ก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ พี่ไม่ได้ฟังเขาพูดอะไรกันพี่ไม่ได้เห็นสัญญา ทำไมพี่ถึงมั่นอกมั่นใจขนาดนั้นว่ามีการเรียกแบบนี้จริงๆ???

ประจักษ์ชัย : ก็แฟนผมบอกว่าได้คุยกันเบื้องต้นในโทรศัพท์ มีการเรียกมาเบื้องต้น มีการต่อรองเบื้องต้นก่อน แล้วค่อยไปเจอกัน

ได้ฟังเสียงนั้นหรือยัง?

ประจักษ์ชัย : ไม่ได้ฟัง แฟนก็อัดมา แต่ผมบอกว่าไม่ต้องเผยแพร่ ไม่อยากรับรู้ วันนั้นก้าวข้ามคำว่ามีคลิปสั้น หรือคลิปยาว ผมแค่บอกว่าถ้างั้นก็ไม่ต้องขยายผลต่อนะ สำหรับน้องโม แต่เพจนั้นเพจนี้ไปตามเจาะก็เป็นหน้าที่ของเพจที่ต้องคุ้ยเขี่ยไปตามบทบาท แต่คนที่จะต้องไม่ไปโพสต์หน้าวอร์ของตัวเอง ใน 4 คนนั้นที่รับรู้วันนั้น ที่เดือดคือออกจากคุณหรือเปล่า เกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่าคลิปนั้นบอกว่าได้มาจากไอแพดของน้องผู้ชาย และเข้ารหัสได้ เลยไปเลื่อนดู และส่งให้แม่ เพื่อหาแนวร่วมว่าลูกชายแม่นอกใจหนู ก็เท่ากับมันไปถึงมือที่สามแล้ว ผมเป็นเจ้าของค่ายต้องป้องปราม มันเป็นกระบวนการหรือเปล่า บางทีน้องผู้ชายบอกว่าเราได้เงินไปสักก้อน เรากลับไปอยู่ด้วยกัน แล้วค่อยแบล็กเมล์ทีหลัง พูดเอาตัวรอด พูดจวนตัว หรือพูดจริง พูดเล่นก็แล้วแต่ แต่มันก็ต้องเป็นมุมมองที่ผมสามารถเอามาปะติดปะต่อ ถ้าจริงผมก็โง่เลยนะ ผมกินอาหารหมาเลยนะ ผมจะปกป้องแต่น้องผู้ชายไม่ใช่นะ เพียงแต่เคสนี้เป็นการรักษาข้อพิพาทเฉยๆ มันก็เลยมาเป็นผู้หญิงก่อน แล้วค่อยไล่เรียงว่าน้องบอสมีส่วนได้เสีย เส้นทางการเงิน 2 ล้าน ถ้าไปเข้าผู้หญิง ถ้าแบ่งคนละครึ่ง แล้วมันไปไหนต่อผมก็ต้องให้ทีมกฎหมายผมขอดูเส้นทางการเงินน้องด้วยนะ

เงิน 2 ล้าน สรุปบอสรับผิดชอบ จ่ายคืนให้ไหทองคำ โดยไหทองคำ เอาเงินสองล้านส่งให้โม นั่นหมายความว่าบอสจ่ายเงินก้อนนี้เองใช่มั้ย?

ประจักษ์ชัย : บอสขอแอดวานซ์ เดือนละ 5 หมื่น

เท่ากับเงิน 2 ล้านบอสจ่ายให้โม แล้วก็มาจ่ายคืนให้ไหทองคำแทน?

ประจักษ์ชัย : ใช่ครับ ทำงานหักเดือนละ 5 หมื่น ไม่ว่าได้เดือนละแสน หรือกี่หมื่นก็แล้วแต่

ที่บอกว่ารีดทรัพย์ โมรีดจากใคร จากบอสหรือไหทองคำ?

ประจักษ์ชัย :  ผู้ชายเล่าว่าถ้าเธอจะไป 5 หมื่นฉันไม่ยอม ฉันเสียโอกาส ฉันขอเท่านี้ๆ ทางนี้ก็ร้อนตัว อยากเคลียร์ตัวเอง

แต่จริงๆ เห็นว่าคุณแอนนาบอกให้เขาไปเรียกเงินจากบอสเองนะ?

ประจักษ์ชัย : เขาพูดผ่านบอสมา ถ้าจะจบก็แบบนี้ แต่น้องรู้สึกว่าต้องหาเงินก้อนก็ต้องมาทางบริษัท บริษัทก็กลัวว่าเงินให้บอสไปเคลียร์ตัวเอง ระหว่างทางกลัวไม่ถึง เกิดเอาไปซื้อโน่นซื้อนี่มันก็ไม่ถึง มันก็ไม่จบ คลิปหรือข้อความแชตก็จะหลุด อย่างน้อยบริษัทก็ต้องรับรู้ด้วย แอนเลยบอกว่าบริษัทต้องรับรู้ทั้งสองฝ่ายเพื่อเจรจา ทำไมกลัวหลุด เพราะบริษัทเสียหายด้วย ไม่ใช่ลำไยคบน้องผู้ชายเสียหาย ถ้าคุณแอดวานซ์เงินจากบริษัทไป แล้วบริษัทไม่รับรู้ คุณเป็นแฟนเก่ากันอยู่แล้ว เกิดไม่มีหลักฐานที่บริษัทรับรู้ พวกผมก็เสียเงิน 2 ล้านเปล่าๆ

ถ้าเอาบอสออกจากไหทองคำ ต้องทำสัญญากับบอสมั้ยเรื่องกลับมาใช้เงิน?

ประจักษ์ชัย : ก็คุยกันครับ หลังจากนี้น้องมีการทำงาน อัตราสปีดรายได้ที่จะอยู่กับเรา จะมีศักยภาพในการผ่อนชำระได้ประมาณเท่าไหร่

อยากฟ้องโมอยู่มั้ย?

ประจักษ์ชัย : ที่ผ่านมาผมซอฟต์มากนะ เห็นในความเป็นผู้หญิง ผมบอกตลอดว่าผมไม่อยากรังแก มันไม่สมศักดิ์ศรีผม ผมเลยมีประเด็น มีคดีหลายๆ คดี ไม่ว่าหมิ่นประมาทคนนั้นคนนี้ ก็เป็นภาพของผู้ใหญ่หรือองค์กรที่มันดูดี แต่วันนี้เป็นเรื่องผู้หญิงและเป็นเด็กเราไม่ได้รู้จักกันมาก่อน พยายามใช้คำว่าเมตตากับทุกอย่าง แต่เนื่องจากมันล่วงเลยมา มึคนไปแซะไปปั่นตรงนั้นตรงนี้ เริ่มรู้สึกว่ามีข้อหาเสียใจ มีข้อหาตกใจ หมั่นไส้อะไรขึ้นมามันเป็นอารมณ์นึง เหมือนที่น้องมีอารมณ์เสียใจ โกรธ ทุกคนก็เป็นเหมือนกัน เมื่อวานที่ปรี๊ดขึ้นมา พยายามรักษาทรง เป็นพ่อพระในวงการเพลง เป็นที่พึ่งในวงการเพลงอินดี้ ลูกทุ่ง ผมเป็นค่ายนึงที่ถูกจับตามองว่าเป็นค่ายกลางๆ แล้ว

อยากเจอโมเพราะอะไร?

ประจักษ์ชัย : มีหลายๆ เพจ หรือผู้หลักผู้ใหญ่บอกว่าถ้าลงได้ลักษณะเราก็สงสารเด็ก จริงๆ ผมสงสารเด็กตั้งแต่ไปซื้อทองให้พ่อให้แม่ มันเหมือนครั้งนึงบที่เราทำงานครั้งแรกสำเร็จแล้วซื้อทองให้แม่ใส่ วันนึงผมต้องมาฟ้องเด็ก 20 ล้าน ผมให้เขาตั้งสติก่อนนะ ถ้าลามปามหรือลุกลามไปอีก ยังเอาไม่อยู่ ยังสนุกกับการปั่นยอดไลก์ ทำให้ผมขยายผลไปเรื่อยๆ ผมก็ต้องป้องปราม ว่างั้นบทระวางโทษในข้อพิพาทตรงนั้น 20 ล้าน ผมก็เปิดไปก่อน 20 ล้าน แต่พอตั้งสติอีก ก็มีคนบอกว่าฟ้องแพ่งอีกนะ ผมก็เริ่มโพสต์ 50

ฟังคนนั้นคนนี้พูด?

ประจักษ์ชัย : ใช่ครับ ในเมื่อเราเสียไปแล้ว เราเจ็บทั้งใจ

พี่ฟังคนโน้นคนนี้พูดเยอะ ฟังจากปากโมเองมั้ย เชิญโมมาเลย เดี๋ยวคุยเอง เคลียร์เลย จะได้คุยกันไปเลยว่าเป็นยังไง เคยเจอกันมั้ย?

ประจักษ์ชัย :   ไม่เคยเจอเลยครับ

เห็นบอกอยากเจอ?

ประจักษ์ชัย : เป็นวิถีที่ต้องเจอก็ต้องเจอ เป็นไฟลต์บังคับที่ต้องเจอทุกอย่าง เจอแต่หน้าเฟซ แต่ทุกคนมีอารมณ์ มีความเสียหายเกิดขึ้น เราเป็นผู้ใหญ่ในวงการ เห็นเป็นผู้หญิง เห็นเป็นลูกเป็นเต้าก็ได้  แต่สิ่งที่ผมได้รับผลกระทบไม่ใช่แค่เรื่อ่งลำไย แต่เป็นเรื่ององค์กรผม ผมตั้งชื่อลำไย ไหทองคำ ผมก็รักในสิ่งที่ผมรัก น้องก็รักครอบครัวน้อง แฟนน้อง เข้าใจในทุกความรู้สึก

อาจารย์เป็นผู้ใหญ่เชื่อว่าแกก็เป็นคนรับฟัง อยากให้อาจารย์ได้มีโอกาสพูดคุยกับโม ในสิ่งที่คั่งค้างในใจ เราจะได้ฟังความจากมุมนี้ เพื่อคิดวิเคราะห์ว่าจะเอายังไงกันต่อ ผมมองว่าถ้าต้องมีการต่อสู้กันบนชั้นศาล ต่างคนต่างใช้สิทธิ์กันได้ แต่อาจไม่สนุกมากนักเวลาขึ้นศาล เพราะมันมีรายละเอียดที่ต้องคุยกันต่อ อันไหนที่ลงกันได้ลง คุยกันได้คุย ถ้าไม่ได้ก็ไปว่ากันในชั้นศาล ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน อาจารย์อยากคุยอะไรมั้ย?

ประจักษ์ชัย : มันอาฟเตอร์ช็อกมาก มันช็อตฟีล (หัวเราะ)

ก็เห็นอยากเจอไง?

ประจักษ์ชัย : พี่บอกว่ามีเซอร์ไพรส์ ผมก็ต้องมาให้พี่ ไม่รู้ว่าจะลงเอยยังไง ก็อยากเจอสักครั้ง

หรืออยากจะกรี๊ด?

ประจักษ์ชัย : ไม่หรอกครับ เมื่อวานพี่นักข่าวหลายคน พี่ทนายหลายคนก็ถามผมจังเลย ว่าฟ้องจริงไม่ฟ้องจริง ในใจผมถ้าฟ้อง 50 ล้านต้องวาง 2 แสน เราก็มีอารมณ์กันทุกคน พอไปหลายๆ เพจ จากเรานั่งสมาธิ สวดชินบัญชรตลอด มันตบะแตกเลย ในใจไม่อยากทำร้ายใคร เราเคยเจ็บปวด โดนกระทำ เคยเป็นจำเลย ขึ้นศาลหมิ่นประมาท 7 ครั้ง มันเจ็บปวด เราชั่งใจตลอด ในใจใฝ่ธรรมมี ถ้าน้องได้สำนึก หรือแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โอเควันนั้นเราอาจน้อยเนื้อต่ำใจในตัวแฟนเรา อาจโมโห ทุกคนก็รักษาสิทธิ์ เขาก็รักษาสิทธิ์ความเป็นครอบครัว แต่ค่ายผมก็โดนย่ำยี น้องลำไยก็โป๊ะแตก โบ๊ะบ๊ะ มันก็เสียหายไปแล้ว เอาคืนไม่ได้ น้องได้แน่ๆ 2 ล้าน ไม่รู้จะไปฟ้องตอนไหน ขึ้นศาลอุทธรณ์ ฎีกาอีก วางศาลอีก แล้วผมก็จะมัวหมองอยู่แต่กับสิ่งเหล่านี้ คนจะดัง คนจ่อคิวดัง ปลาร้าไหทองคำจ่อคิวเป็นหนึ่งในน้ำปลาร้าขายดี ผมก็ต้องเสียหาย ผมเลยคิดว่าถ้าไม่ฟ้อง มาตรการป้องปรามจะเป็นยังไง หรือจะปล่อยผ่าน ถ้าคนอื่นมารีดทรัพย์ มาเรียกร้องอีก ก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี นักร้องในค่ายก็จะขวัญเสียขวัญกระเจิงไป มันมีสองด้าน ว่าตกลงเราจะใช้พระเดช หรือจะใช้อำนาจที่เรามีในทางกฎหมาย แล้วสู้ไปให้สุดซอย หรือได้ใช้จริยธรรม ผิดศีลธรรม ลำไยผิดพลาดพลั้งเราไม่ได้แถว่าลำไยไม่ผิด เรารู้ว่าลำไยมีสวนในการกระทำความผิด อันนี้มีส่วนในการกระทำความผิดไปแล้ว เราเลยเยียวยา ชดเชย ชดใช้ตามข้อตกลง ที่เราจะฟ้อง 20 ล้านเพราะเราเห็นตามในสัญญาเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ก็คิดว่าจะฟ้องได้ 20 ล้านด้วยซ้ำไป

วันนี้ผมแมตซ์ให้เอง เห็นพี่ประจักษ์ชัย อยากเจอ อยากให้โมเข้ามาคุย จะเดินไปทิศทางไหนกันต่อ จะได้เห็นหน้า การพูดผ่านรายการ คนโน้นคนนี้ไม่มีประโยชน์ เจอกันเลย ตามองตานี่แหละ เอายังไงเดี๋ยวว่ากัน ผมเชื่อว่านี่คือสิ่งที่คุณประจักษ์ชัยต้องการ เมื่อวานหลังจบรายการ โมก็ขอโทษอาจารย์ประจักษ์ชัยก่อนปิดรายการ เขาเดินทางกลับส่งข้อความมาหาผม บอกว่าพี่หนุ่ม หนูอยากขอโทษอาจารย์ประจักษ์ชัย แบบเข้าไปขอโทษท่านเลย พี่คิดว่าดีมั้ยคะ ผมก็บอกว่าดี ให้พี่พาไปมั้ย เขาบอกว่าจะดีมากเลยค่ะ แล้วส่งรูปร้องไห้ยกมือไหว้มา แต่ไม่รู้พี่หนุ่ม อาจารย์ประจักษ์ชัยจะสะดวกวันไหน แต่หนูสะดวกทุกวัน ทุกเวลา อยากเข้าไปกราบขอโทษท่านในส่วนที่ตัวหนูเอง ทำให้ท่านลำบากใจในบางเรื่อง จะได้คุยกับท่านด้วย ผมเลยถามว่าโมพร้อมเจออ.ประจักษ์ชัยมั้ย เพราะพี่นัดสัมภาษณ์อาจารย์วันนั้น เขาบอกว่าเขาพร้อม เขาอยากมาเจอ อยากมาคุย อยากพูดอะไรกับแก?

โม : ที่หนูมาวันนี้ หนูอยากแสดงความจริงใจกับอาจารย์ว่าหนูไม่ได้ปล่อยอะไรให้ใครจริงๆ ตามเพจค่ะ หนูลบไปหมดแล้วจริงๆ ค่ะ และอยากขอโทษที่เคยโพสต์อะไรที่ไม่ได้ไตร่ตรอง ทำให้อาจารย์ไม่สบายใจ ปวดหัว และเวลาหนูโกรธหรือเสียใจ หรือไปปรึกษาคนใกล้ตัว หนูโพสต์เรื่องหนูกับบอสตลอด แต่ไม่เคยไปว่ากล่าวอะไรพี่ลำไยเลย หนูแค่บอกว่าโอเค คนที่บอสไปคบคือคนนี้ค่ะ

คลิปหนูยืนยันเหรอว่าไม่ได้ส่งไปให้คนนั้นคนนี้ เพราะมีผลตามมาทีหลังกับตัวค่ายเขา คิดยังไงกับเรื่องนี้?

โม :   หนูยืนยันว่าหนูไม่ได้ส่งจริงๆ ค่ะ

การที่ได้พูดกับคนใกล้ชิดกับคนรู้จัก ข้อเท็จจริงประมาณไหน?

โม : หนูบอกว่าหนูเลิกกับบอสแล้วเพราะอะไร เพราะไปคบกับคนนั้น พูดกับคนใกล้ตัวหนู

ในเพจได้ไปพูดมั้ย ส้มโอ น็อต ผู้จัดการหนู ได้พูดมั้ย?

โม : ได้พูดค่ะ พี่น็อตเป็นผู้จัดการหนู ได้คุยกันในกลุ่มว่าจะทำยังไง

ได้ให้เขาลงเรื่องราวนี้มั้ย?

โม : หนูไม่ได้ให้เขาไปลงค่ะ

เขาขอหนูขอไปลงมั้ย?

โม : เขาขอค่ะ แต่หนูไม่แน่ใจ เขาจะพูดเรื่องหนูกับบอสอย่างเดียวใช่มั้ย หนูก็บอกว่าอาจจะได้มั้ง

ต้องพูดความจริงนะ ถ้าไม่พูดความจริงเพจก็อาจะสวนได้ อันไหนที่เราไม่สบายใจ ในการไปละเมิดความรู้สึกอาจารย์เขาจะได้คุยตรงนี้ให้จบ อันไหนเราทำก็บอกว่าเราทำ อันไหนไม่ได้ทำก็บอกว่าไม่ได้ทำ เรื่องมีอยู่เท่านี้เลย?

ประจักษ์ชัย : สิ่งที่ผมเคลือบแคลงสงสัย วันนั้นเราคิดว่าเรารู้กัน 4 คน พอมีประเด็นออกมาอย่างนี้ เราจะพุ่งไปที่น้องก็ไม่ได้เกินความคาดหมาย เพราะเรามีข้อตกลงกัน แล้วไม่ต้องใช้คำว่าเรียกร้องหรือเสนอไปทางนั้น มันเป็นข้อต่อรอง ในการจ่ายเงิน 2 ล้านระงับข้อพิพาทตรงนั้น ก็ต้องเรียบเรียงประเด็น ก็เป็นเรื่องที่ผมต้องปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง แม้ว่าน้องแสดงความบริสุทธิ์ใจวันนี้ มันก็ไม่ผิดหรอก ผมก็ต้องสงสัยน้องก่อนในเบื้องต้น แล้วเพจต่างๆ ไปเล่นกระจายแบบนี้ ทุกคนก็ไม่สบายใจ เสียหาย ทุกคนได้ยอดวิว ยิ่งเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง มีกระแสของลำไย มันง่ายที่คนจะมาโฟกัสที่ลำไย และค่าย มันมีผลกระทบจริงๆ

ทนายแก้ว : โมยืนยันว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังใครให้มาโจมตีทั้งลำไยหรือไหทองคำเลยใช่มั้ย

โม : ใช่ค่ะ ไม่ได้มีจุดประสงค์จะทำอะไรแบบนั้นเลย

ประจักษ์ชัย : อย่างยูริเป็นใคร หรือส่งให้แม่บอส ก่อนหลังมีการเจรจา ถ้ามีการเจรจาแล้วมีการส่งไป ถ้าส่งให้แม่เพื่อหาแนวร่วมเพื่อบอกว่าบอสนอกใจหนูนะแม่ ไม่เชื่อดูสิ อย่างนี้ยังมีเหตุผล แต่ถ้าน้องรับไป 2 ล้านแล้วเพื่อยุติข้อพิพาท น้องไปเอาคลิปจะเริ่มเป็นความผิดต่อบุคคลที่สามทันที

ที่ส่งให้แม่บอส เป้าประสงค์คืออะไร?

โม : หนูแค่อยากยืนยันว่าสิ่งที่หนูบอกแม่คือความจริง แค่นั้นเลยค่ะ

ทนายแก้ว : หลังจากทำบันทึกข้อตกลง หนูไม่ได้ส่งอีกใช่มั้ย

โม : ไม่ได้ส่งค่ะ หนูลบตั้งแต่วันนั้นเลยค่ะ ลบต่อหน้าบอส เพราะแม่แอนไม่ได้อยากจะดูอะไร แต่บอสก็รู้ว่าหนูเห็นอะไร หนูมี พอแยกจากแม่แอนมา หนูก็ลบให้บอสดูต่อหน้าค่ะ

ประจักษ์ชัย : ที่บอกว่าพอได้เงินแล้วจะไปใช้ชีวิตร่วมกันค่อยแบล็กเมล์ทีหลัง เป็นใครก็ต้องตั้งธงไปอีกว่าถ้าใช่ล่ะ ถ้าไม่ใช่ไม่เป็นไร แต่ถ้าเหมือนมีประเด็นเปิดที่เราต้องนำสืบ ว่าเขามีกระบวนการคิดไว้ก่อนจะเหยียบย่ำเรา เหมือนตระเตรียมก็ไม่เหมาะสม ที่จะมาทำกับผมหรือค่าย ผมก็มีความบริสุทธิ์ใจที่จะชดเชย ค่าเสียหาย ค่าเยียวยาที่น้องพอใจในวันนั้น ได้จรดปากกาเซ็นไปแล้วมีพี่ชายเป็นพยาน พอวันนึงออกมาพูดในรายการ เงิน 2 ล้านเสียไป ไม่ได้หาง่ายๆ ในชีวิต แล้วต้องมาโดนอะไรแบบนี้เหรอ มันเหมือนมีการคิดไว้ก่อน เหมือนสมรู้ สิ่งที่ผมได้เยียวยาชดเชยไปแล้ว สังคมมองว่าลำไยไปแย่งแฟนคนอื่นมา มันก็คาอยู่อย่างนี้ ทั้งที่ความผิดก็รู้ น้องถามว่าทำไมไม่เช็กให้ดีๆ ก่อน บางทีเราก็ไม่รู้ มันนอกเหนือจากผู้บริหารที่ต้องไปเช็กว่าเด็กเราคบคนนี้ แดนเซอร์ คนขับรถ ไปคบคนนี้ มันเหนือการตรวจ แม้แต่ลำไย ก็ยังอยู่ในช่วงที่เขาใช้ชีวิตอิสระแล้ว เขาพักคุยกับคนนั้น ผมก็เลยไม่ทราบความสัมพันธ์หลังจากนั้น

โม : เรื่องนี้ไม่จริงเลยค่ะ หนูไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ว่าจะมีการแบล็กเมล์ หรือบอสตั้งใจถ่ายคลิปเพื่อทำอะไร หนูไม่ได้รู้มาก่อนเลย

ทนายแก้ว : ทำไมบอสถึงหยิบเอาประเด็นแบบนี้ขึ้นมาพูดได้

โม : หนูคิดว่ามันอาจเป็นทางลงของเขา

ทนายแก้ว : เขาเต้าเรื่องขึ้นมาเองเหรอครับ

โม : ค่ะ หนูไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่นอน หนูไม่เคยคิดเลย

ก็เป็นคำพูดของคนสองคนที่ไม่ได้มีหลักฐานอะไร ก็ก้ำกึ่งอยู่ตรงนี้ พี่มองไง?

ประจักษ์ชัย : พอมาถึงวันนี้ คนที่เป็นเหยื่อและเสียหายคือลำไย ผมในนามต้นสังกัดก็เสียหายอยู่แล้วเพียงแต่ว่าเอาอะไรคืนไม่ได้ เงินที่ให้ไปก็เพื่อรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เงินที่ค่ายแอดวานซ์ให้บอส ต้องทำงานใช้หนี้เราก็ว่ากันไป แต่ภาพลำไยที่ล่องลอยไป ไม่ว่าภาพจริง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว สั้นยาว หรือภาพเอไอ หรือคนหน้าเหมือน ชัดเจน โบ๊ะบ๊ะ กระจายไปในติ๊กต๊อก ซึ่งเหนือการควบคุม สิ่งที่ผมทำได้ หรือลำไยทำได้คือทำใจ และเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องอยู่กับมันให้ได้ ต้องอยู่กับปัญหา และใช้เวลาให้เป็นเครื่องสลายความเจ็บปวด เราเอาคืนมาไม่ได้ เงินจะไปเรียกร้องน้องคืน 2 ล้าน ในข้อตกลงก็ไม่ต้องนำสืบด้วยซ้ำไป น้องยินยอมว่าถ้าเปิดเผยยอมจ่าย 20 ล้าน แต่ในเมื่อน้องยืนยันว่าน้องไม่ได้เผยแพร่ แล้วจะไปเอาอะไรตอนนี้ก็ต้องไปนำสืบกันอีก ก็เห็นใจ หลายคน หลายกระแสข่าวบอกว่า อาจารย์ประจักษ์ชัยเป็นผู้ใหญ่ในวงการ อย่าไปรังแกเด็กเลย ที่จริงมาตรฐานผมไม่ใช่คนระราน ผมมาจากติดลบ มาจากบ้านนอก ไม่ได้มีฐานะทางการเงิน มาเรียนรามจบเฉยๆ ผมชิลๆ มาก ไม่ได้เรียกร้องเงิน 10 ล้าน 20 ล้านเพื่อมาตั้งตัว เป็นเกียรติภูมิของค่าย ถ้าผมไม่เชือดไก่ให้ลิงดูในอารมณ์เมื่อวานถ้าน้องต่างคนต่างอยู่ ยังไงผมก็เชือดแน่นอน แพ้ชนะไม่เป็นไร เอาฮา ฟังคำสัมภาษณ์แล้วของขึ้น ไม่ได้นะ มันมีการยั่วยุ แต่พอได้คุยกันแล้ว เราเข้าใจเหตุผล เราก็ซอฟต์ลงมาได้ เหมือนที่ผมเปิดช่องเอาไว้ว่าถ้าน้องได้เจอผม ต่อสายหาผม ได้คุยกันบ้าง เราไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยคุยกัน การเจรจาผมก็เพิ่งรู้ข่าวหลังจากที่มีข่าวเมื่อ 3 วันแรก

โม : วันนี้หนูเตรียมของมาด้วย (ยกพานพวงมาลัยมาด้วย) เรื่องทั้งหมดเกิดจากเด็ก อาจารย์ต้องลงมาเคลียร์ มันไม่จำเป็นเลยค่ะ (ประจักษ์ชัยลูบหัว) หนูอยู่กับบอสตลอด หนูรู้ว่าอาจารย์คอยป้อนงานให้ คอยผลักดันแฟนเก่าหนู หนูรู้ว่าอาจารย์เป็นยังไง แล้วเหมือนหนูไปทำให้มันเป็นแบบนี้ หนูเลยอยากกราบขอโทษอาจารย์นะคะ (ยกมือไหว้)”

ประจักษ์ชัย : “ไม่เป็นไร ผมเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็เจ็บปวด สิ่งที่ผมทำได้คือผมเคยกลืนทั้งเลือดและน้ำตา เพื่อต้องเดินหน้าต่อ น้องเป็นผู้หญิง แล้วเป็นเด็กที่สำนึกและไม่ได้เหมือนต้องแถไปอีกแล้ว เมื่อวานผมยังดุดันอยู่ พี่หนุ่มบอกว่าในรอบ 8-9 ปี ยังดุดันกว่านี้เยอะ แต่ในเมื่อน้องโมแสดงความบริสุทธิ์ใจแบบนี้ก็ไม่เป็นไร ก็ให้ก้าวผ่านไป ไม่ต้องกระแนะกระแหนกันอีก ไม่ต้องเหน็บแนม ไม่ต้องเอาชนะกันอีก ไม่ว่าคลิปต่างๆ จะล่องลอยไปที่ไหนก็แล้วแต่ ก็ให้มันผ่านไป (ลูบหัว)

โม : ขอบคุณมากค่ะ (กราบ)

ประจักษ์ชัย : ขอให้โชคดี เงินทองก็เอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ดูแลตัวเอง ขอบคุณพี่หนุ่ม (ร้องไห้)

เดี๋ยวก่อนนะ กูทำมาตั้งสองสามวันเหนื่อยแทบตาย ไม่ได้หลับไม่ได้นอน จบแล้วเหรอ?

ทนายแก้ว : อาจารย์ก็ให้อภัยเด็กมัน

ผมแยกเป็นอย่างนี้ เดี๋ยวจะเข้าใจในมุมมองที่ผิดกันไป วันนี้ที่ผมจับประเด็นได้ โมขอโทษอาจารย์ในกรณีที่อาจทำให้อาจารย์กับค่ายไม่สบายใจ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ส่งคลิปให้เพจต่างๆ

โม : หนูยืนยันค่ะ

การขอโทษครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับคลิป?

โม : ใช่ค่ะ หนูขอโทษในสิ่งที่หนูไม่สบายใจ ที่หนูทำลงไป และสิ่งที่อาจารย์ไม่สบายใจ ในสิ่งที่หนูทำลงไปจริงๆ คือโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของหนู

มุมอาจารย์ ยังติดใจอะไรมั้ย เรื่องขอโทษขอโพยเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าคิดว่ายังมีประเด็นค้างคาใจ จำเป็นต้องใช้กฎหมายดำเนินการต่อ เป็นสิทธิ์ของอาจารย์ ทุกคนก็เคารพสิทธิ์ของแต่ละคน ตัวโมก็ต้องเคารพสิทธิ์ถ้าเขาจะดำเนินคดีต่อไป ไม่ใช่ขอโทษแล้วจบเรื่อง อาจารย์ต้องดูต่อไปหรือให้จบตรงนี้ หรือมีอะไรเกิดขึ้นอีกก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ?

ประจักษ์ชัย : “ก็ให้จบแบบแมนๆ นี่แหละ ไปสืบสาวราวเรื่องอะไรมันก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับผม ผนเจ็บจนจุก อาจเป็นน้ำตาของลูกผู้ชายที่ผมเข้มแข็งตลอดนะ ผมไม่จำเป็นต้องเสียน้ำตาก็ได้ แต่มันเป็นทั้งชีวิตที่ผมสร้างมา (ร้องไห้) ลำไยมันก็พลาด ก็ผ่านไป หลังจากนี้ก็ทำงาน ไม่มีอะไรน้องจะได้ตั้งใจทำงาน ผมยอมกลืนเลือดเอง ทั้งลำไยและไหทองคำต้องเดินต่อไป ผมยอมเจ็บ ยอมออกรายการ มันไม่ใช่เรื่องเลย ผมเป็นอัศวิน เป็นนักรบ นักรบต้องมีบาดแผล แต่มีภาพฝังอยู่ในยูทูปตลอดชีวิต มันก็เจ็บปวด ก็ให้มันผ่านไป ก็ขอบคุณพี่หนุ่มที่ทำให้มันลงเอยด้วยดี

ไม่เป็นไรครับ ในใจผมคิดแค่ว่าจะมีการขอโทษกัน แต่ไม่ได้คิดว่าอาจารย์จะใจกว้างไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บแล้ว แบบนี้ก็โอเค ถ้าจบตรงนี้ได้ก็โอเค แต่หนูอาจต้องเป็นหูเป็นตาให้ไหทองคำเขาด้วย เพราะส่วนนึงก็มีความเดือดร้อน หลายคนกำลังพุ่งประเด็นยูริ เรื่องนี้เป็นเหตุผลทับซ้อน ถ้าอยากรู้ว่าคืออะไร ไปย้อนหาในเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ผมไม่อยากเล่าต่อ เพราะเรื่องจบแล้วไม่อยากกระพืออีก ตอนนี้จบแล้ว คงพูดอะไรไม่ได้แล้ว ดำเนินรายการต่อก็ไม่ได้แล้ว พูดไปบรรยากาศจะเสีย ประเด็นนี้จบตรงนี้ สิ่งหนึ่งหลายคนบอกว่าทำไมไม่ฟ้อง ฟ้องสิ ผมขออนุญาตเป็นตัวแทนของคนที่รู้จักลำไยก็แล้วกัน ผมอยากขอความเห็นใจตรงนี้ว่าบางคนไม่เคยขึ้นศาล คุณจะไม่เคยรู้เลยว่าการขึ้นศาลไม่ใช่เรื่องสนุก ยิ่งขึ้นไปในฐานะเรื่องราวฉาวโฉ่ ต่อให้คุณอยู่ในฐานะจำเลย หรือฐานะโจทก์ก็ตามแต่ ไม่สนุกเลยครับ โจทก์ขึ้นไปต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าสิ่งที่กำลังฟ้องจำเลย ข้อเท็จจริงอยู่ตรงไหนคุณต้องแสดงข้อเท็จจริงออกมา ทนายฝ่ายจำเลยต้องไล่ซักค้านฝั่งโจทก์ ที่ไปฟ้อง เรื่องราวจะยิ่งกระพือ เป็นสิ่งที่ผู้หญิงรับไม่ได้ เวลาเขาไล่ซักค้านกันในชั้นศาล ไม่สนุกครับ เรื่องนี้คนถูกซักค้านคือลำไย ฉะนั้นให้มันผ่านไปเถอะครับ ผมเองก็เคยพลาดนะ และเชื่อว่าทุกคนก็เคยพลาด แต่เอาเรื่องพลาดของผม ลำไย โม ของทุกคนเอามาเป็นตัวอย่าง แล้วอย่าให้เกิดแบบนี้กับชีวิตคุณ ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ผมพูดได้แค่นี้จริงๆ ส่วนเรื่องของบอส หลายคนถามว่าบอสลอยตัวหรือเปล่า บอสจำเป็นต้องมีบทลงโทษ หนึ่งบอสถูกให้ออกจากไหทองคำแน่นอน เขาต้องมีหน้าที่ไปหางานทำอื่นๆ เรื่องคดีอะไรก็แล้วแต่ ก็ฝากอาจารย์ดูเรื่องนี้ด้วย ส่วนทางนี้ถ้าต่อไปมีประเด็นอะไรไม่ถูกไม่ควรออกมา หนูรู้ใช่มั้ยหนูจะเป็นเป้าแรก อาจารย์ก็มีสิทธิ์ใช้สิทธิ์ของเขาตามข้อตกลงที่ตกลงเอาไว้?

โม : ค่ะ

อยากรู้อะไรอีกมั้ย?

ประจักษ์ชัย : ก็ให้จบแบบนี้แหละ ไม่เป็นไร ผมก็ต้องเข้าใจ อยู่กับปัญหา 3-4 วัน ผอม นอนไม่หลับ มีอะไรที่ช็อตฟีล อาฟเตอร์ช็อก ใจมันไม่สบาย ผมก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ สังคมไทยการขอโทษ ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าการให้อภัย ผมเป็นลูกผู้ชาย เจ็บก็ต้องกลืน ต้องยอม ถือว่าน้องทำดีที่สุดแล้ว ผมก็ทำดีที่สุดในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา ต้นสังกัดของลำไย หลังจากนี้จะให้ลำไยออกมาแสดงความรับผิดชอบขอโทษออกสื่อแถลงข่าว ก็เรื่องส่วนตัวของลำไย ผมก็ปกป้ององค์กรผมได้แค่นี้ ทำดีที่สุดแล้ว

 

#นายห้างประจักษ์ชัย #ลำไย #โมแฟนบอส #โหนกระแส