เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุมนายวารฐ หรือบลู แก้วสมเด็จ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ถ.ประชาชื่นนนทบุรี ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ที่ 44/2547 ลงวันที่ 28 เมษายน 2547 ข้อหา ปล้นทรัพย์ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 35 ถ.ประชาชื่นนนทบุรี ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2546 นายวารฐ หรือฉายา บลู เยาวราช ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 15 ปี พร้อมพวก รวม 3 คน ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้เสียหายซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน จึงได้บุกรุกเข้าไปภายในบ้านของผู้เสียหายพร้อมกับใช้ท่อเหล็กตีผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะรื้อค้นเอาทรัพย์สินมีค่าของผู้เสียหายแล้วแยกย้ายกันหลบหนีไป เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหากับพวกดังกล่าว ก่อนจะสามารถตามจับกุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้จำนวน 2 คน คงเหลือนายวารฐ ที่ยังคงหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่านายวารฐ ได้กลับมากบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี อีกครั้งจึงนำกำลังเข้าทำการตับกุมตัวได้ดังกล่าว จากการสอบสวนนายวารฐ ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าเป็นผู้ที่ใช้ท่อเหล็กตีผู้เสียหายจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้เอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนืองจากทางสืบสวนพบว่า ภายหลังจากก่อเหตุนายวารฐกับเพื่อนได้ร่วมกันตั้งแก๊งค์โดยใช้ชื่อ “แก๊งค์เยาวราช”ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ จ.นนทบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น จับกุมตัวได้ขณะกำลังถอดชิ้นส่วนอะไหล่รถไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจากการขยายผลการจับกุมยังสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักมาได้ของกลางอีกกว่า 50 คัน นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติยังพลว่าเคยต้องโทษคดีอาญาหลายคดี เบื่องต้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองนนทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป