ครอบครัวทหารผ่านศึก เดินทางเข้ามอบตัวให้ความร่วมมือกับ ปปท.และ ปปช.ในฐานะผู้ร่วมขบวนการทุจริตเบิกจ่ายยา รพ.ทหารผ่านศึก เป็นวันที่ 2 ที่ ลพบุรี

วันที่ 7 มี.ค.68 ที่สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เขตลพบุรี บรรดา ครอบครัวข้าราชการทหารผ่านศึก และตัวทหารผ่านศึกเอง ได้เดินทางเข้ามอบตัวให้ความร่วมมือกับ ปปท.และ ปปช.ในฐานะผู้ร่วมขบวนการทุจริตเบิกจ่ายยา รพ.ทหารผ่านศึก เป็นวันที่ 2 ที่สำนักงานทหารผ่านศึกลพบุรี  

ซึ่งทาง พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติยัง (ปปช.) ยังคงลงพื้นที่ปักหลัก ตรวจสอบกลุ่มผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตยา โดยพื้นที่จังหวัดลพบุรี มีผู้ป่วยจริง ป่วยเท็จ จำนวน กว่า100 ราย โดยเมื่อวานนี้ (6 มี.ค.68)ได้เข้ามาให้การกับเจ้าหน้าที่ แล้ว จำนวน 42 ราย เพื่อสอบเป็นพยานทั้งหมด

โดยมี น.ส.พัสนีย์ หรือ ก้อย อายุ 46 ปี ซึ่งเห็นความไม่ชอบมาพากล พบว่าสิ่งนี้เป็นการทุจริตต่อประเทศชาติ ตนเองต้องการเห็นความถูกต้องชัดเจน สืบเสาะหาข้อมูลด้วยตนเองนานกว่า 6 เดือน ก่อนประสานกรรมาธิการตรวจสอบ พบมีพิรุธ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพบเป็นการทุจริตจริงทำกันเป็นขบวนการ มีแม่ทีม ลูกทีมจำนวนมากที่หลงผิด 

ซึ่งในวันนี้ถือเป็นวันที่ 2 ที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เขตลพบุรี เพื่อสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ป่วยจริง เท็จ เพื่อกันไว้เป็นพยาน โดยมีผู้เดินทางมาให้ข้อมูล เพิ่มเติมแล้ว กว่า 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เห็นข่าวจากสื่อต่าง ๆ จึ่งตัดสินใจเดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในฐานะของพยาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สืบเสาะเจาะข้อมูลมาจนทราบเบาะแสสำคัญ เกี่ยวกับการรักษา การรับยาระหว่าง รพ.อานันทมหิดล กับ รพ.ทหารผ่านศึกมีความเชื่อมโยงโกงกันเป็นระบบ จึงอยากให้ผู้ที่หลงผิดได้กลับตัวกลับใจออกมา เปิดเผยความจริงเพื่อประโยชน์ของตัวเองและประเทศชาติ ซึ่งยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังต้องขอรวบรวมพยานหลักฐาน คณะกรรมการตรวจสอบทั้งหมด เช่น ป.ป.ช ป.ป.ท. และ ป.ป.ป รวมถึงแพทย์ ได้ทำงานอย่างละเอียด รอบคอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย