วันที่ 7 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 เวลา 21.00 น. ร.ต.อ.กสานต์ พารา รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจประจำจุดบริการประชาชน ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยคฯ ว่าเกิดเหตุได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยพลังบุญ มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี ว่ามีคนใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย เหตุเกิดที่บ้านชายทุ่ง หมู่ 9 ต.วังกระแจะ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ไทยโยค ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่า เจ้าหน้าที่รถพยาบาลไทรโยคน้อยที่ 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำรถพยาบาลไทรโยคคันที่ 3 และอาสาสมัครกู้ชีพ-กู้ภัย รวมทั้งสิ้น 14 นาย กำลังรอปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานในการชันสูตรพลิกศพ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายนอนจมกองเลือดอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนยาวทำเองขนาด .22 เข้าที่บริเวณศีรษะด้านขวาเหนือใบหู 1 แห่ง กระสุนฝังใน มีเลือดไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา หลังเกิดเหตุบรรดาญาติและเพื่อนบ้านได้ยินเสียงปืนวิ่งมาดูพบว่า ผู้ตายนอนหายใจรวยรินอยู่ จึงช่วยกันนำร่างขึ้นมาไว้บนแคร่และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่พื้นดินใกล้ๆ กับแคร่ที่ผู้ตายนอนอยู่พบรอยเลือดหยดเป็นทาง และอาวุธปืนยาว (ไทยประดิษฐ์) ขนาด .22 ตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบชื่อผู้ตายชื่อนายสมพาด ขอสงวนนามสกุล)อายุ 60 ปี อยู่หมู่ 9 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี สอบสวนปากคำภรรยาผู้ตายทราบว่า สาเหตุที่สามียิงตัวตายครั้งนี้น่าจะเกิดจากสาเหตุที่ผู้ตายเครียดและคิดมากเพราะผู้ตายป่วยเป็นเบาหวานมาหลายปี ทำให้ตาของผู้ตายบอดไป 1 ข้าง และเมื่อไม่กี่วันมานี้ผู้ตายได้ไปหาหมอ ผลการตรวจของหมอบอกว่า ผู้ตายตากำลังจะบอดอีก 1 ข้าง รวมเป็น 2 ข้าง ทำให้ผู้ตายคิดมาก บ่นว่าอยากตายๆ ตนยังบอกกับสามีว่า ถ้าตายแล้วตนจะอยู่กับใคร ก็ไม่คิดว่าสามีจะยิงตัวตาย ขณะที่ตนกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำหลังบ้าน ได้ยินเสียงปัง จึงใส่เสื้อผ้าและออกมาดูก็พบว่า สามีนอนหายใจรวยรินอยู่จึงร้องขอความช่วยเหลือ และนำร่างของสามีขึ้นมานอนบนแคร่จนสามีทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจตายในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพส่งแผนกนิติเวช รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง