วันที่ 7 มี.ค.68 ที่อิมแพคเมืองทองธานี  จ.นนทบุรี  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีมติคณะกรรมการคดีพิเศษ (กพค.)  รับคดีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ ฐานความผิดฟอกเงิน  ซึ่งถูกหลายฝ่ายมองว่า เป็นการใช้ หน่วยงานของรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมือง ว่า เรื่องนี้ตนไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรไม่ได้ เพราะมีคณะกรรมการอยู่ และการรับคดีเป็นคดีพิเศษนั้นก็เป็นการลงมติ

เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าในอนาคต หากพรรคการเมืองใด ได้คุมกระทรวงยุติธรรมก็จะมี “ดีเอสไอ” เป็นเครื่องมือทางการเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า คงไม่หรอก  เพราะข้าราชการประจำคงมีแนวทาง อะไรเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบไม่ถูกด้วยกฎหมาย ข้าราชการประจำก็ไม่ปฏิบัติอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ออกมาระบุว่า เหตุที่ผลของดีเอสไอออกมาแบบนี้ มาจาก “ดีลลับบ้านจันทร์ส่องหล้า”นั้น  นายอนุทิน หัวเราะและส่ายหัวพร้อม กล่าวว่า  “ท่านก็พูดอะไรของท่านไปเรื่อย จริงบ้าง ไม่จริงบ้างก็แล้วแต่”

เมื่อถามว่า ระหว่างนายรังสิมันต์ และ นายอนุทิน มีการพาดพิงกันหลายครั้งทำให้มีติดใจกันบ้างหรือไม่ นายอนุทิน  กล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน แต่เจอที่สภาก็ทักทายกันดี ไม่มีปัญหาอะไรและต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ ซึ่งข้อมูลของนายรังสิมันต์บางข้อมูลก็มีประโยชน์ แต่บางข้อมูลก็ไม่เป็นประโยชน์

เมื่อถามย้ำว่า ผลคดีของดีเอสไอ ออกมาเป็นแบบนี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับ “ดีลลับบ้านจันทร์ส่องหล้า” ใช่หรือไม่ นายอนุทิน ส่ายหัวและตอบว่า ไม่เกี่ยวเลย ประเด็นนี้ยิ่งไม่เกี่ยวเลย  จะมีดีลลับได้อย่างไร หากมีดีลลับแล้วตนจะรู้ได้อย่างไร เราทำอะไรตรงไป ตรงมาเปิดเผย ไม่จำเป็นต้องไปลับอะไร และไปพบใครก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไปพบใครแล้วต้องมารายงาน แต่ถ้าใครรู้เราก็ไม่ปฏิเสธ

เมื่อถามต่อว่า วันที่พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ได้รับประทาน มาม่า เหมือนเดิมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “กินเส้นเล็กแห้ง ลูกชิ้นปลา”

เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีเกาเหลาใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า “ไม่มี ไม่มี รักกัน“

เมื่อถามว่านายรังสิมันต์ มองรัฐบาลเหมือนเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน นายอนุทิน ตอบติดตลกว่า  “เสือตัวหนึ่งตัวผู้ เสืออีกตัว ตัวเมีย ไม่มีปัญหาอะไร”