หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.) ทำให้นายกอบจ.หลายจังหวัดถือฤกษ์เข้าปฏิบัติหน้าที่
โดยที่จังหวัดนครราชสีมา “มาดามหน่อย” นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกอบจ. นครราชสีมา สมัยที่ 2 ถือฤกษ์ดี 4 มี.ค.68 เข้า สำนักงาน อบจ.โคราช โดยมีนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล “กำนันป้อ” อดีต รมช.คมนาคม แกนนำบ้านใหญ่เสิงสาง ผู้เป็นสามี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ลูกสาว นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล สส. เขต 11 จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) ลูกชาย นายสมเกรียติ ตันดิลกตระกูล สส. เขต 5 นายนิกร โสมกลาง สส. เขต 8 และนายศิริสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ สส. เขต 14 ได้เดินทางมาส่งและให้กำลังใจ พบสมาชิกสภา (ส.อบจ.) นครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ บุคลากร อบจ.มาให้การต้อนรับและแสดงความยินดีกันอย่างชื่นมื่น จากนั้นทั้งหมดได้สักการะศาลพระพรหม เพื่อความเป็นสิริมงคลให้การทำงานราบรื่นไร้อุปสรรค
นางยลดา นายก อบจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า มั่นใจจากวันนี้ไปอีก 4 ปี ทิศทางโคราชจะได้รับการพัฒนาแบบก้าวกระโดด ปัญหาความเดือดร้อนจะได้รับการแก้ไขโดยเร็ว อบจ.มีนโยบายในการพัฒนาครอบคลุมทุกด้านเดินหน้าภารกิจสานต่อสิ่งที่ได้ทำค้างไว้เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม หากส่วนใดไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ก็พร้อมเป็นผู้ประสานสิบทิศทั้งท้องถิ่นและ สส. เชื่อมต่อรัฐบาลนำปัญหาไปสู่การแก้ไขทันที ความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้ และเชื่อที่สุดตนได้รับพิจารณาประกาศผลการเลือกตั้งจาก กกต. ซึ่งอยู่บนความถูกต้อง
ตนและทีมงานมีความพร้อมทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนภัยแล้ง โดยระดมเครื่องจักรกล รถบรรทุกน้ำ รถขุดเจาะน้ำบาดาลและบุคลากรลงพื้นที่ตามที่ได้รับการร้องขอรวมทั้งบูรณาการทุกภาคส่วนเตรียมจัดงานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ซึ่งเป็นกิจกรรมใหญ่ที่สุดของเมืองนครราชสีมา
ทั้งนี้ไทม์ไลน์หลัง “มาดามหน่อย” นางยลดา สามารถรักษาเก้าอี้นายก อบจ.นครราชสีมา ได้ต่ออีกสมัย โดยมีผลรวม 621,822 คะแนน ทิ้งห่างคู่แข่ง 3 ราย หลายเท่าตัว และวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กกต. ประกาศรับรองผลนายกและสมาชิกสภา (ส.อบจ.) นครราชสีมา ครบทั้ง 48 เขต 32 อำเภอ ต่อมานายมารุต ชุ่มขุนทด หรือ “กอล์ฟ คลาสคาเฟ่” แกนนำ “ฟังเสียงโคราช” อดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา หมายเลข 3 พร้อมนายสุนทร แพงไพรี ผู้ร้องเรียนได้เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งกับนายสุรพงษ์ ทิพย์โอสถ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด(ผอ.สนง.กกต.จ.) นครราชสีมา โดยทวงถามความคืบหน้าเมื่อวันที่ 3 มกราคม ได้ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบนางยลดา ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา หมายเลข 2 พรรคเพื่อไทย พร้อมพวก 35 คน ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.อบจ. ในขณะผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดดำรงตำแหน่ง ซึ่งมีการประชุมสภาสมัยสามัญที่ 2 ครั้งที่ 3 วันที่ 13 กันยายน 2567 ญัตติ เรื่องขออนุมัติโอนเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เป็นการโอนตั้งจ่ายรายการใหม่ อ้างครุภัณฑ์เดิมชำรุดและครุภัณฑ์ไม่เพียงพอกับการปฏิบัติงาน จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อน มีรายการโอน 12 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 23,873,918 บาท องค์ประชุมมีสมาชิกสภา (ส.อบจ.) นครราชสีมา 39 คน เห็นชอบ 35 คน งดออกเสียง 4 คน การกระทำดังกล่าวอยู่ในห้วงเวลา 90 วัน ก่อนนางยลดา จะยื่นหนังสือลาออกในวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ถือเป็นการกระทำขัดต่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2566 มาตรา 65 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ซึ่งมีโทษตามมาตรา 126 แห่งกฎหมาย เนื่องจากเป็นการประชุมอนุมัติโครงการหรือกิจกรรมใหม่ ซึ่งมีลักษณะเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น จัดทำให้ สัญญาว่าจะให้หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ให้แก่ผู้ใด เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด
ล่าสุดนายสุรพงษ์ ผอ.สนง.กกต.จ.นครราชสีมา ได้ทำหนังสือที่ ลต.(นม.) 003/586ชี้แจงนายสุนทร ในฐานะผู้ร้องว่า ได้ดำเนินการไต่สวนตามอำนาจหน้าที่อยู่ระหว่างการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาของผู้ถูกกล่าวหา เพื่อให้โอกาสนางยลดาและพวกทราบเหตุแห่งการร้องหรือการกล่าวหาและมีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงหลักฐานรวมทั้งให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาในการให้ถ้อยคำชี้แจงข้อกล่าวหาตามมาตรา 43 พ.ร.บ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ 2560 และข้อ 54 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน วินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และแก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 5 พ.ศ. 2566
ล่าสุด นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุมสภาอบจ. นครราชสีมา ครั้งแรก โดยมีนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกอบจ. พร้อมด้วย ส.อบจ.นครราชสีมา 47 คน จากจำนวนทั้งสิ้น 48 คน นายวุฒิชัย วงศ์ปัญโญ ปลัด อบจ.นครราชสีมา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่และบุคลากรเข้าร่วมประชุมในระเบียบวาระทั้งสิ้น 5 วาระ โดยพร้อมเพียงกัน
บรรยากาศการประชุมสภาครั้งแรก นายเฮียหยูกฤตภาส เกศศรีวิชัย ส.อบจ.อ.เมือง เขต 5 และนางสาวพศวีร์ ภูนพมาศพงษ์ ส.อบจ.อ.เมือง เขต 6 ทั้ง 2 คน เป็น ส.อบจ.ป้ายแดง สังกัดพรรคประชาชน ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งมีเพื่อนสมาชิกได้เข้ามาทำความรู้จักมักคุ้นพร้อมทักทายแสดงความยินดี
นายสมบูรณ์ นิยมไร่ ส.อบจ.อ.พิมาย เขต 1 ในฐานะ ส.อบจ.อาวุโสที่สุด ได้ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภา ชั่วคราว นำกล่าวคำปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่และดำเนินการในระเบียบวาระที่ 1 เรื่องการเลือกตั้งประธานสภาฯ นายอัครวัฒน์ กุลเฉลิมพัฒน์ ส.อบจ.เขต อ.ประทาย เสนอชื่อนายเลิศชัย ธนประศาสน์ ส.อบจ. อ.สีคิ้ว เขต 2 อดีตประธานสภาสมัยที่ผ่านมา ดำรงตำแหน่งประธานสภา ส.อบจ.ทุกคนพร้อมใจยกมือ ระเบียบวาระที่ 2 เรื่อง การเลือกรองประธานสภา ปรากฏนายอัครวัฒน์ ส.อบจ. อ.ประทาย ได้รับฉันทานุมัติเป็นรองประธานสภา คนที่ 1 นายพงษ์พันธุ์ พันธุ์ศรีนคร ส.อบจ. อ.พิมาย เขต 2 เป็นประธานสภาคนที่ 2 และนางสาวนงนุช เลิศด้วยลาภ ส.อบจ. อ.ปากช่อง เขต 4 เป็นเลขานุการสภา อบจ.
ส่วนที่จังหวัดสงขลา นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายก อบจ.สงขลา เดินทางเข้ารับตำแหน่งพร้อมปฏิบัติหน้าที่ หลัง กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง โดยถือฤกษ์ 10.49 เดินทางเข้ามายังสำนักงานอบจ.สงขลาทำการสักการะศาลพระภูมิและศาลพระพรหมหน้าสำนักงานเอาฤกษ์ชัยโดยมีเจ้าหน้าที่พนักงานของอบจ. ร่วมให้การต้อนรับนอกจากนั้นยังมีฝ่ายการเมืองรวมถึงกองเชียร์เดินทางเข้าให้กำลังใจโดยเฉพาะนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและอดีตนายกอบจ.สงขลาเข้ามอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจพร้อมอวยพรขอให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาวสงขลา นอกจากนั้นยังมีพลตำรวจโทสาคร ทองมุนี นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เดินทางมาให้กำลังใจ พนักงานเจ้าหน้าที่ของอบจ. ร่วมตั้งแถวรอให้การต้อนรับตั้งแต่ประตูหน้าอบจ. พร้อมมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ร่วมแสดงความยินดีมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีพร้อมให้พรและให้กำลังใจนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ว่า “ ขอให้ทำงานเพื่อประชาชนชาวสงขลาและแก้ปัญหาให้กับทุกคน”
นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ย้ำชัดว่า 35 โครงการที่ประกาศเอาไว้ในช่วงของการหาเสียงนั้นเป็นโครงการที่ทำได้จริงทั้งหมด โดยใน 100 วัน จะเห็นผลงานทันที ในเรื่องของถนน อบจ.ทั้ง 209 สายทาง 1,321 กิโลเมตร จะต้องไม่มีหลุมบ่อ พร้อมแก้ปัญหาความเดือดร้อนแพขนานยนต์ให้สามารถให้บริการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ และโครงการในใจที่ต้องการผลักดันคือ การใช้ประโยชน์ในอาคารอะควาเรียมหอยสังข์ ที่ถูกทิ้งร้างมานาน 16 ปี พร้อมแต่งตั้งทีมโฆษกแถลงถึงการทำงานในทุกสัปดาห์