“กระทุ่มแบน”ล่อซื้อจับผู้ค้าบุหรี่ไฟฟ้า-ส่งขายทางออนไลน์
ที่อำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายณัฐพล บุญทวี ปลัดอำเภอฯ ในฐานะรักษาราชการ นอภ.กระทุ่มแบน ได้ร่วมกันชี้แจงผลการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ในพื้นที่เขตดูแล มีผู้จำหน่าย 2 ราย โดยผู้ต้องหาได้แก่ นายวรนาถ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี และนายวิสุทธิ์ อายุ 31 ปี โดยมีนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯสมุทรสาคร มาร่วมแถลงข่าว
“ทั้งนี้หลังได้รับแจ้งว่า มีเหตุลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน โดยรายของนายวรนาถ พบว่าเคยถูกจับกุมในคดีนี้มาแล้ว 1 ครั้ง (เมื่อ 11มิ.ย.67) แต่ยังกลับลักลอบจำหน่าย ซึ่งจากเดิมซื้อ-ขายสินค้าดังกล่าวใช้เปิดเป็นหน้าร้าน ก่อนเปลี่ยนเป็นขายทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น ด้วยวิธีจัดส่งฟรี 24 ชั่วโมง จนท.จึงได้วางแผนเข้าล่อซื้อ ณ ที่แห่งหนึ่งในย่าน ต.ตลาดกระทุ่มแบน กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด
“ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหารายแรก ให้การยอมรับว่า สินค้าได้จัดเก็บไว้หลายแห่งแรกไว้ที่ร้านค้าแห่งหนึ่งภายใน ทั้งนี้เคยถูกจับกุมมาแล้ว 1ครั้ง ทั้งนี้จากการตรวจค้นภายในร้านที่พบบุหรี่ไฟฟ้า (พบชนิดใช้แล้วทิ้ง) จำนวน 18 ชิ้น ต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่ง ที่หมู่ 2 ต.คลองมะเดื่อ พบบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งอีก 160 ชิ้น และอุปกรณ์คอยล์ไฟฟ้าจำนวน 33 ชิ้น, หัวเปลี่ยนได้ 152 ชิ้น หัวเปลี่ยน (กลม) จำนวน 5 ชิ้น และแบบเปลี่ยนหัวได้ จำนวน 7 ชิ้น พร้อมน้ำยาเติม 216 ขวด
“นอกจากนี้ยังพบของกลางเก็บไว้ในบ้านพักของนายวิสุทธิ์ (อีกหนึ่งแห่ง) พบบุหรี่ไฟฟ้าแบบรุ่นใช้แล้วทิ้ง 16 ชิ้น, ชนิดเปลี่ยนหัวอีก 57 ชิ้น รวมทั้งสิ้น 670 ชิ้น อย่างไรก็ตามจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามฐานะความผิด ว่าด้วย “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยนำพาเอาไป รับซื้อ-และหรือรับไว้ฯ ตามฐานข้อหา ม.242 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และให้บริการขายสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าหรือตัวยาน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า อันมีความผิดฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามให้บริการบารากู่ หรือบารากู่ไฟฟ้า และบุหรี่ไฟฟ้าฯ ตามมาตรา 242 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ว่าด้วยเรื่อง..ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้าดังกล่าว”
“ซึ่งจากการสอบสวนโดยรายแรก ให้การยอมรับว่า สินค้าได้จัดเก็บไว้หลายแห่งแรกไว้ที่ร้านค้าแห่งหนึ่งภายใน ทั้งนี้เคยถูกจับกุมมาแล้ว 1ครั้ง ทั้งนี้จากการตรวจค้นภายในร้านที่พบบุหรี่ไฟฟ้า (พบชนิดใช้แล้วทิ้ง) จำนวน 18 ชิ้น ต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่ง ที่หมู่ 2 ต.คลองมะเดื่อ พบบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งอีก 160 ชิ้น และอุปกรณ์คอยล์ไฟฟ้าจำนวน 33 ชิ้น, หัวเปลี่ยนได้ 152 ชิ้น หัวเปลี่ยน (กลม) จำนวน 5 ชิ้น และแบบเปลี่ยนหัวได้ จำนวน 7 ชิ้น พร้อมน้ำยาเติม 216 ขวด
นอกจากนี้สามารถตรวจพบกลางที่เก็บไว้ในบ้านพักของนายวิสุทธิ์ (อีกหนึ่งแห่ง) มีบุหรี่แบบรุ่นใช้แล้วทิ้ง 16 ชิ้น, ชนิดเปลี่ยนหัวอีก 57 ชิ้น รวมทั้งสิ้น 670 ชิ้น อย่างไรก็ตามจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามฐานะความผิด ว่าด้วย “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยนำพาเอาไป รับซื้อ-และหรือรับไว้ฯ ตามฐานข้อหา ม.242 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และให้บริการขายสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าหรือตัวยาน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า อันมีความผิดฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามให้บริการบารากู่ หรือบารากู่ไฟฟ้า และบุหรี่ไฟฟ้าฯ ตามมาตรา 242 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ว่าด้วยเรื่อง..ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้าดังกล่าว”