อำลาต้นแบบอเมริกันพั้งค์-ร็อก

ดนตรี / รุ่งฟ้า ลิ้มหัสนัยกุล
 

“สังคมชอบสร้างมาตรฐานที่เข้มงวดไม่ว่าเรื่องอะไร ผมแค่อยากจะทลายกำแพงนั่นลงมา แล้วก็สนุกไปกับมันเท่านั้นเอง” - เดวิด โจแฮนเซน นักร้องนำวง เดอะ นิว ยอร์ค ดอลล์ส
 
ถ้าฝั่งอังกฤษมี แคลช และ เซ็กซ์ พิสทอลส์ เป็นหัวหอกนำขบวนพังก์ ฝั่งอเมริกาก็มี นิว ยอร์ค ดอลล์ส เป็นพี่ใหญ่ พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงครึ่งแรกของทศวรรษ 1970 มีอัลบั้มออกมาด้วยกัน 2 ชุดคือ New York Dolls (1973) และ Too Much Too Soon (1974) ก่อนแยกวงกันไปในปีถัดมา หลังจากนั้นพวกเขากลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้งในปี 2006-2011 มีสตูดิโออัลบั้ม 3 ชุดแต่ไปได้ไม่สวยนัก (ไม่นับรวมบันทึกการแสดงสดจำนวนหนึ่งซึ่งมากกว่าอัลบั้มปกติ)

สำหรับ เดวิด โจแฮนเซน เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ นิว ยอร์ค ดอลล์ส เป็นนิวยอร์เกอร์โดยกำเนิด เริ่มร้องเพลงอาชีพกับวง เดอะ วากาบอนด์ มิสชันนารี ตอนปลายยุคซิกซ์ตี ต่อมาในปี 1971 เขาทำวงใหม่ร่วมกับ จอห์นนี ธันเดอร์ส (กีตาร์), ริค ริเวทส์ (กีตาร์-ที่ต่อมาถูกแทนที่โดย ซิลเวน ซิลเวน), อาร์เธอร์ เคน (เบสส์) และ บิลลี เมอร์เซีย (กลอง-เสียชีวิตเพราะเสพยาเกินขนาดตั้งแต่ยังไม่มีอัลบั้ม ได้ เจอร์รี โนแลน มาแทน) เรียกตัวเองว่า เดอะ นิว ยอร์ค ดอลล์ส ท่ามกลางกระแสเฮวี่ เมทัลและโปรเกรสซีฟ ร็อคที่กำลังแรง พวกเขาเลือกจะสร้างสำเนียงเสียงเฉพาะที่ผสมกันระหว่างแกลมร็อคกับโปรโต-พังก์ และภาพลักษณ์การแต่งกายที่หยิบยืมจากกลุ่มนักร้องจากยุคซิกซ์ตี้ เป็นความใหม่ที่กลายเป็นความแปลกดึงดูดให้คนในแวดวงร็อคหันมามอง และไม่นานก็ได้เซ็นสัญญากับค่าย

โจแฮนเซน ไม่ได้เป็นแค่นักร้องนำ แต่เขายังเป็นคนแต่งเพลงหลักของวง โดยเฉพาะเพลงฮิทอย่าง “Personality Crisis,” “Looking For a Kiss,” “Jet Boy”, “Vietnamese Baby”, “Human Being” และ “Babylon” ฯลฯ   

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ความรุ่งโรจน์ของ เดอะ นิว ยอร์ค ดอลล์ส สั้นมากๆเมื่อเทียบกับอีกหลายวงก็คือปัญหาเรื่องการติดยาของสมาชิกวง หลังการแยกย้าย โจแฮนเซน ตัดสินใจทำงานเดี่ยว มีผลงานอัลบั้มออกมาหลายชุดทั้งภายใต้ชื่อจริง และนามแฝง บัสเตอร์ พอยน์เด็กซ์เตอร์-ที่มีเพลง “Hot Hot Hot” ฮิทติดท็อป 100 ของ บิลล์บอร์ด เพลงแนวคาลิปโซที่แตกต่างจากภาพเดิมที่คุ้นเคย “ผมรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรก็ได้ถ้าเป็น บัสเตอร์” เขาพูดถึงเรื่องนี้ใน Personality Crisis: One Night Only สารคดีปี 2020 โดยสองผู้กำกับ มาร์ติน สกอร์เซซี และ เดวิด เทเดสชี่ “เพราะคนจะไม่ได้คาดหวังว่าผมจะต้องทำอะไร แค่เชื่อมั่นว่ามันน่าจะออกมาดี”

เขายังก้าวข้ามงานใช้เสียงร้อง ไปสู่การเป็นนักแสดง เปิดตัวด้วยบทเล็กๆในตอนหนึ่งของซีรี่ส์ดังเรื่อง Miami Vice ในปี 1985 จากนั้นก็มีผลงานต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Scrooged, Married to the Mob, Let It Ride, Freejack, Tales From the Darkside: The Movie และ Mr. Nanny เป็นต้น

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 เป็นวันสุดท้ายที่ เดวิด โจแฮนเซน มีลมหายใจ หลังจากประกาศว่ามีเนื้องอกในสมองและเป็นมะเร็งระยะที่ 4 เมื่อปี 2020 นับเป็นสมาชิกวง เดอะ นิว ยอร์ค ดอลล์ส รุ่นก่อตั้งที่มีอายุยืนยาวที่สุด

ปิดฉากชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยสีสันเร้าใจด้วยวัย 75 ปี
 

ขอบคุณภาพจาก : https://www.facebook.com/officialBusterPoindexter/