นายอำเภอสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดกาฬสินธุ์ และประมงอำเภอสหัสขันธ์ ลงพื้นที่วางแนวเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว จุดแหลมโนนวิเศษ หลังนักตกปลา แห่เข้าตกปลาจำนวนมาก ย้ำเตือนเฝ้าระวังพายุฤดูร้อน
วันที่ 6 มี.ค.68 นางสาวกัญญาภัค แจ่มใส นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วยนายวิระ จิตรสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืด จ.กาฬสินธุ์ นางกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6,7,9 ต.โนนบุรี พร้อมเครือข่ายประมงร่วมปักป้ายวางแนวเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ในเขื่อนลำปาว บริเวณแหลมโนนวิเศษ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง หลังมีนักตกปลาเดินทางมาตกปลาจำนวนมาก
จากนั้น ได้ลงเรือหางยาว ออกให้กำลังใจเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังเขื่อนลำปาว หลังได้รับผลกระทบจากวาตภัย ที่ทำให้ปลาสดหลุดออกกระชังมากกว่า 5 ตัน มูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 บาท พร้อมกำชับให้เทศบาลตำบลภูสิงห์ ได้เข้าดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมเตรียมรับสถานการณ์ วาตภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ขณะเดียวกันต้องเตรียมรับมือภาวะร้อนแล้ง เนื่องจากปัจจุบันระดับน้ำในเขื่อนลำปาว
นางสาวกัญญาภัค แจ่มใส นายอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า ในช่วงนี้น้ำเขื่อนลดมีนักตกปลาจากทั่วสารทิศเดินทางเข้ามาตกปลาในเขื่อนลำปาวบริเวณแหลมโนนวิเศษ - สะพานเทพสุดาจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อการอำนวยความสะดวกให้กับนักตกปลา และสร้างความเข้าใจในการจัดการพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำในเขตอนุรักษ์สัตว์น้ำเนื้อที่กว่า 245 ไร่ มีพื้นที่ หมู่ 6 บ้านโนนสวาท หมู่ 7 บ้านวังมะพลับ และหมู่ 9 บ้านโนนวิเศษ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว โดยการลงพื้นที่จะเน้นย้ำในการสร้างความเข้าใจให้กับนักตกปลา และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้พื้นที่ สำคัญที่สุดคือขยะ ต้องขอความร่วมมือในการจัดการร่วมกันและงดการเผาใบไม้ เผาขยะ บริเวณริมเขื่อนลำปาวทุกจุด ซึ่งได้ย้ำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้หมั่นตรวจสอบและลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อย รวมถึงอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยของกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วย
“อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่ต้องระวังคือด้านความปลอดภัยทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวกลุ่มตกปลา กลุ่มนักท่องเที่ยวบนแพอาหาร เมื่อเกิดพายุลมแรง ฟ้าคะนอง ต้องเข้าหลบในที่ปลอดภัยหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง และผู้ประกอบการเกษตรกรเลี้ยงปลากระชังที่ต้องเฝ้าระวังการเกิดวาตภัยในช่วงนี้ ซึ่งล่าสุดจากผลพวงของวาตภัยเมื่อวันที่ 3-4 มีนาคม ที่ผ่านมา ปลานิลที่เลี้ยงในกระชัง ขนาดตัวละ 1 – 1.3 กก. ที่พร้อมออกตลาด หลุดในเขื่อนกว่า 5 ตัน มูลค่ากว่า 300,000 บาท เป็นความเดือดร้อนของเกษตรกร ที่มอบหมายให้ประมงอำเภอสหัสขันธ์ ได้ดำเนินการสำรวจและทำรายงานเพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป
โดยล่าสุดทางอุตุนิยมวิทยาได้ออกมาประกาศแจ้งตือนแล้วระหว่างวันที่ 6-8 มี.ค. นี้ โดยให้ท้องถิ่นท้องที่ได้เฝ้าระวังตลอด 24 ชม.” นายอำเภอสหัสขันธ์กล่าว