เมื่อบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ด้วยการพัฒนาพื้นที่ประวัติศาสตร์สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ครอบคลุมพื้นที่เดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น และบริเวณทรงวาด พลิกโฉมสู่การเป็นแลนด์มาร์คด้านสุขภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยาในระดับโลก ผ่านการร่วมมือระยะยาวกับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ในการพัฒนาและบริหารโรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์ ปั้นเป็น Wellness Destination ริมแม่น้ำเจ้าพระยาระดับโลก

ยกระดับพื้นที่ประวัติศาสตร์

ทั้งนี้ นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า โครงการโรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์ จะเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แห่งที่ 2 ของทาง AWC ในประเทศไทย  โดยโครงการนี้จะช่วยยกระดับพื้นที่ประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำของกรุงเทพฯ รวมถึงสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ชุมชนและสังคมโดยรอบ ด้วยการอนุรักษ์คุณค่าของโครงสร้างอาคารและศิลปะดั้งเดิม  พร้อมด้วยการบริการที่มีมาตรฐานระดับโลกที่ผสานการดูแลด้านสุขภาพแบบบูรณาการ และสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน เพื่อยกระดับโรงแรมแห่งนี้ให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของไทยต่อไป

 

โดยโรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์  จะเชื่อมโยงกับโครงการอื่น ๆ ของ AWC ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายใต้แนวคิด The River Journey เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพริมแม่น้ำที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวผู้รักสุขภาพจากทั่วทุกมุมโลกมาสู่ประเทศไทย

เน้นออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย

ซึ่ง นางวัลลภา กล่าวต่อว่า   การปั้น Wellness Destination ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะเชื่อมโยงกับโครงการที่ลงทุนไปกว่า 1.6 หมื่นล้านบาทที่เวิ้งนครเกษม เยาวราช ที่ก่อสร้างในสไตล์โมเดิร์นไชนีส ชู Chinese Pavillion แลนด์มาร์กใหม่ พร้อมดึง 2 โรงแรมลักเซอรี่เข้าร่วม คือ อินเตอร์คอนติเนนตัล และ คิมป์ตัน  โดยมีโซนรีเทลใต้ดิน 5 ชั้น  ตั้งเป้าเฟสแรกน่าจะเปิดปลายปี 2569 และเปิดบริการเต็มรูปแบบภายในปี 2572

พร้อมกันนี้ นางวัลลภา  กล่าวว่า การออกแบบโครงการจะเป็นไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นระดับโลก สไตล์โมเดิร์นไชนีส ผสมผสานทั้งโซนรีเทลขนาด 68,000 ตารางเมตร แบบภายในอาคารและแบบกลางแจ้ง โรงแรมลักเซอรี่ 2 แบรนด์ ลานกิจกรรมสำหรับชุมชน และที่ขาดไม่ได้คือลานกิจกรรมขนาดใหญ่ ที่จะรวบรวมการมีส่วนร่วมของชุมชนมานำเสนอในโครงการด้วย

อีกทั้งในอนาคต เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดบริการ จะมีศาลาจีน (Chinese Pavillion) สูง 8 ชั้น เป็นจุดขาย เปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ชมวิวไชน่าทาวน์เต็มสายตา โดยเน้นออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ในฐานะที่เยาวราชเป็นชุมชนไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยวางแผนลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของรถไฟฟ้าขนาดเล็กหรือแทรม เชื่อมต่อการเดินทางท่องเยาวราชได้โดยสะดวกง่ายดาย

 

ทั้งนี้ เวิ้งนครเกษม เยาวราช ตั้งอยู่ใจกลางเยาวราช หนึ่งในย่านเก่าแก่และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและการค้าที่สำคัญมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 ทาง AWC พร้อมพลิกโฉมไชน่าทาวน์สู่มิติใหม่ภายใต้แนวคิด Legacy of the Past, Inspiration of Tomorrow เชื่อมคุณค่าจากอดีตสู่แรงบันดาลใจแห่งอนาคต ผ่านการออกแบบที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทย-จีนอย่างลงตัว

นางวัลลภา กล่าวต่อว่า จากพื้นที่ ล้ง 1919 และเวิ้งนครเกษม จะเป็นการรวมพลังหยิน และหยาง ด้วยการนำสิ่งสำคัญต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงวัดเก่าแก่ในตำนาน จะนำมารวมอยู่ในเส้นทางของการปั้น Wellness Destination ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้โด่งดังไปไกลระดับโลก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศมาใช้บริการ และสัมผัสถึงการเป็นแลนด์มาร์คด้านสุขภาพที่ดูแลทั้งจิตใจ และร่างกาย