วันนี้ (5 มี.ค.68) เวลา 15.35 น. ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อพ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมลงบันทึกประจำวัน ขอให้ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมของสมาชิกวุฒิสภากลุ่มหนึ่ง ที่อาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย โดยใช้เวทีของสภาผิดวัตถุประสงค์มาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทนายอั๋น กล่าวว่า ส.ว. มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในฐานะตัวแทนประชาชน แต่กลับพบว่ามีการใช้เวทีอภิปรายเพื่อ “ฟอกขาว” ตัวเอง และอาจมีการแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้อาจเข้าข่ายความผิดอาญาตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นอกจากนี้ ทนายอั๋นยังกล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่ม ส.ว. ลงชื่อสนับสนุนให้มีการดำเนินคดีทางกฎหมายกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยตั้งข้อสังเกตว่า ส.ว. กลุ่มนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.กลุ่มที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 2.กลุ่มที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดเจนในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงาน สภา ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเบี้ยเลี้ยง ควรถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่กลับถูกใช้ไปกับการเปิดแอร์เย็น ๆ เพื่อให้พวกเขามานั่งซักฟอกตัวเอง เหมือนเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมที่ควรถูกตรวจสอบ
นอกจากนี้ ทนายอั๋นยังตั้งคำถามถึง ส.ว. ที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับกรณี “โพยหลุด” กว่า 1,000 รายชื่อ ว่าทำไมจึงไม่ออกมาชี้แจงความบริสุทธิ์ของตนเอง แต่กลับพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการเข้าสู่ตำแหน่ง ส.ว. ของบุคคลเหล่านี้ อาจมีการ “ฮั้ว” กันมาตั้งแต่ระดับอำเภอ เพื่อปูทางให้พวกพ้องของตนเองได้เข้าสู่สภา
ซึ่งนี่คือสิ่งที่พวกคุณต้องแก้ต่าง ไม่ใช่การข่มขู่หรือบังคับเพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการตรวจสอบ หากพฤติกรรมเช่นนี้ยังดำเนินต่อไป ส.ว. ชุดนี้ควรถึงเวลาแล้วที่จะต้องกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน
ทั้งนี้ ยังมี ส.ว. รายหนึ่ง ที่มีบทบาทในการออกกฎระเบียบเพิ่มเติม เช่น การห้ามหาเสียง ห้ามประชาสัมพันธ์ และการออกระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อรองรับการเลือกตั้ง ส.ว. โดยระบุว่าพฤติกรรมดังกล่าวอาจเข้าข่าย “อั้งยี่ซ่องโจร” ซึ่งเป็นกระบวนการวางแผนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบ และหากพบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย โดยเฉพาะมาตรา 157 อาจนำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป