"บิ๊กจวบ"เร่งรัดปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า-แก๊สหัวเราะ เผยจับกุมผู้ต้องหายึดของกลาง กว่า 41,911,815 บาท
วันที่ 5 มี.ค.68 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญในการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ ซึ่งปัจจุบันได้ปรากฏสถานการณ์การแพร่ระบาด ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา พื้นที่ใกล้โรงเรียนหรือสถานศึกษา รวมถึงสถานบริการ สถานประกอบการ และพื้นที่สาธารณะในหลายพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเอง หรือผู้อื่น สร้างความเดือนร้อน รำคาญ แก่ประชาชนใกล้เคียง โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาล มาสู่การปฏิบัติ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ประชุมสรุปผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้างการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร. โดยมีผู้แทน บช.น., ภ.1 - 9, บช.ก., บช.สอท., บช.ทท. และ สตม. เข้าร่วมประชุม
สำหรับการผลการปฏิบัติในห้วง 7 วัน ที่ผ่านมา (26 ก.พ. - 4 มี.ค.68) ภาพรวมการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าของทุกหน่วย มีผลการจับกุมทั้งสิ้น 666 ราย ผู้ต้องหา 690 คน ยึดของกลาง 454,958 ชิ้น มูลค่าของกลาง 41,911,815 บาท เป็นการจับกุมรายใหญ่ 2 ราย ผู้ต้องหา 3 คน ยึดของกลาง 409,364 ชิ้น มูลค่าของกลาง 34,200,000 บาท จับกุมรายย่อย 645 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 669 คน ยึดของกลาง 43,483 ชิ้น มูลค่าของกลาง 7,215,005 บาท จับกุมรอบสถานศึกษา 7 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 6 คน ยึดของกลาง 1,359 ชิ้น มูลค่าของกลาง 302,500 บาท และจับกุมบริเวณแหล่งท่องเที่ยว 12 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 12 คน ยึดของกลาง 752 ชิ้น มูลค่าของกลาง 194,310 บาท ในส่วนการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับแก๊สหัวเราะ จับกุม 3 ราย ควบคุมผู้ต้องหา 3 คน ยึดของกลาง 2,334 ชิ้น มูลค่าของกลาง 100,000 บาท
พล.ต.อ.ประจวบฯ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า และแก๊สหัวเราะ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย และต้องการเห็นผลการปราบปรามอย่างเป็นรูปธรรมในเร็ววัน ท่าน ผบ.ตร. จึงได้กำชับ เน้นย้ำ และติดตามการขับเคลื่อนให้มีผลการปฏิบัติในทุกมิติ โดย
1. ให้ความสำคัญกับการปราบปราม กวาดล้าง การลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย การจำหน่าย การให้บริการ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไป X-ray ในพื้นที่รับผิดชอบ เพิ่มความเข้มข้นในการกวดขัน ตรวจสอบ ทุกสถานที่ จุดล่อแหลม ซึ่งน่าจะเป็นที่ซุกซ่อนของบุหรี่ไฟฟ้า และสารตั้งต้น สารประกอบของแก๊สหัวเราะ ตลอดจนสิ่งของผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำว่า “ ต่อไปจะต้องไม่มี หรือสามารถค้นหาได้โดยง่าย ว่าในพื้นมีการจำหน่าย หรือให้บริการ บุหรี่ไฟฟ้า หรือแก๊สหัวเราะ อย่างโจ่งแจ้ง”
2. สาเหตุของการกระทำความผิดทั้งหลาย เพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนที่คุ้มค่า คือ เงิน จากผลการระดมจับกุม พบว่า ของกลางและการยึดทรัพย์สินมีมูลค่าสูงมาก นี่คือแรงจูงใจให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงให้ทุกหน่วยดำเนินการอย่างรัดกุมและเป็นแบบแผน การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามความผิด
มูลฐานฟอกเงินที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องสำคัญ เน้นย้ำว่าต้องดำเนินการ สืบสาว ไปให้ถึงต้นตอเหตุทุกกรณี เพราะการกระทำผิดส่วนมาก มักเกี่ยวข้องกับ “เงิน” ในฐานะที่ พล.ต.อ.ประจวบฯ รับผิดชอบและเป็น ผอ.ศูนย์ปราบปรามการฟอกเงิน ตร. ด้วย จึงได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามการฟอกเงิน ตร. ร่วมบูรณาการการทำงานกับหน่วย เพื่อให้การปฏิบัติ มีความต่อเนื่อง เชื่อมโยง และเชื่อว่า การดำเนินการดังกล่าวนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และศักยภาพให้การทำงานประสบผลสำเร็จ อย่างเป็นรูปธรรม ต่อไป
สุดท้าย ได้เน้นย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่น จริงใจ ในการแก้ไขปัญหา ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเราจะดำเนินการอย่างสุดความสามารถ