วันที่ 5 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้รับพระกรุณาธิคุณจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดีเสด็จเข้าร่วมงาน เพื่อเยี่ยมชมคูหาประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังทรงสาธิตการพันผ้าหูกระเป๋าจากผ้าไทย (Twilly) และการทำส้มตำเมนูเด็ดต้องลองชิม (MUST TASTE) เพื่อนำเสนอการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยว 5 MUST DO IN THAILAND ณ คูหาประเทศไทยอีกด้วย

 

สำหรับพื้นที่การจัดแสดงของประเทศไทยในปีนี้ได้ให้ความสำคัญในการนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ ภายใต้แนวคิด Sustainable Thailand Soft Power โดยการออกแบบสะท้อนเอกลักษณ์ไทยสู่เวทีโลก (Local Meets Global) เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางผ่านแบรนด์ Amazing Thailand พร้อมเปิดปี Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 ในตลาดต่างประเทศเป็นครั้งแรก

 

โดยมีการจัดสรรพื้นที่แบ่งออกเป็นหลากหลายโซนเพื่อนำเสนอประเทศไทยในทุกมิติ ซึ่งมีไฮไลต์ ได้แก่ โซนเมืองน่าเที่ยว (Hidden Gem Cities) พื้นที่เจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจจากเมืองน่าเที่ยว 17 จังหวัดจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย โซน SANEH THAI SHOWCASE, SUSTAINABILITY NOW จัดแสดงสินค้าอัตลักษณ์ที่นำเสนอเรื่องราวเมืองน่าเที่ยวจากภูมิภาค ต่างๆ อาทิ วาสนาเครื่องจักสานไม้ไผ่จากเชียงใหม่ มีใจสตูดิโอจิวเวลรีจากจันทบุรี, ผลิตภัณฑ์จากผ้าย้อมสีธรรมชาติ สีห้อมจากแพร่คราฟต์ สีบัวแดงจากอุดรธานี, เครื่องเงินดอยซิลเวอร์จากน่าน เครื่องเงินสุโขทัย, เครื่องปั้นจากสมุทรสงคราม (เบญจรงค์) เซรามิคธนบดีจากลำปาง, ผลิตภัณฑ์จากลูกปัดโนราห์จากสงขลา, เครื่องหอมจากกรุงเทพฯ ระยอง และปราจีนบุรี จัดกิจกรรมเวิร์คชอป Scents of Thai DIY ถุงเครื่องหอมแบบ ไทย จากดอกไม้แห้งและน้ำมันหอมดอกไม้ไทย จาก Brand Rati  จัดแสดง Thailand Green Destinations Map นำเสนอสินค้าท่องเที่ยวไทยที่ได้รับมาตรฐานความยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับสากล

 

รวมทั้งนำเสนอโมเดลต้นแบบของการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในจังหวัดกระบี่ (Krabi : Sustainable Tourism Model), โซน SANEH THAI Café นำเสนอเมนูเครื่องดื่มชา กาแฟ และโกโก้ จากแหล่งปลูกในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้า GI พร้อมทั้งเสิร์ฟเมนูอาหารว่างรสชาติไทย อาทิ ต้มยำกุ้ง ลาบไก่ และช็อคโกแลตไทย และการจำลองเมนูของจิ๋วจากร้านมิชลิน 17 จังหวัดทั่วไทย จาก Michelin Guide 2025 พร้อมนำเสนอคอนเทนต์เมนูอาหารไทยยอดนิยมติดอันดับโลก, โซน Travel Tech ระบบนำร่อง TATAI ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประมวลผลผ่านตู้ 3D hologram เพื่อให้บริการข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวผ่านการสนทนา รวมถึงนำเสนอการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยสร้างสรรค์วิดีโอโปรโมทธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว

 

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการไทย และพื้นที่หน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด กรมการท่องเที่ยว องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด และสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) พร้อมด้วยพันธมิตรผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเอกชนไทย ทั้งจากเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองน่าเที่ยวในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศร่วม 160 ราย นำเสนอสินค้าและบริการการท่องเที่ยวไทยในงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวระดับโลก Internationale Tourismus Borse หรือ ITB Berlin 2025 ระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม 2568 ณ Berlin ExpoCenter City กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เร่งโปรโมทเสน่ห์ไทยในทุกมิติ ดันนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลเดินทางเข้าประเทศไทยตลอดปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025

 

ซึ่งงาน ITB Berlin 2025  ในครั้งนี้มีความพิเศษกว่าทุกปี เนื่องจากมีการขยายขนาดพื้นที่คูหาของประเทศไทยจากขนาด 540 ตารางเมตร เป็น 1,820 ตารางเมตร หรือขนาด 1 Hall ของ ITB Berlin เพื่อให้สอดรับกับการประกาศให้ปี 2568 เป็นปี “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” และขับเคลื่อนนโยบาย Ignite Tourism Thailand ผลักดันประเทศไทยสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดยุโรป สร้างโอกาสในการเปิดตลาด สร้างและขยายเครือข่ายให้กับผู้ประกอบการไทยในการรุกตลาดนักท่องเที่ยวศักยภาพที่มีระยะเวลาพำนักในประเทศไทยนานและมีการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวสูง ให้มุ่งสู่เป้าหมายในปี 2568  

 

สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวตลาดระยะไกล ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 23 กุมภาพันธ์ 2568 จ านวน 2.34 ล้านคน ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป 1.85 ล้านคน อเมริกา 3.1 แสนคน ตะวันออกกลาง 1.52 แสนคน และแอฟริกา 2.4 หมื่นคน โดยในปี 2568 นี้ ททท. ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลเดินทางเข้าประเทศไทยจ านวน 10.6 ล้านคน แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป 7.7 ล้านคน อเมริกา 1.6 ล้านคน ตะวันออกกลาง 1.2 ล้านคน และแอฟริกา 1.5 แสนคน และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวม 869,200 ล้านบาท