"Funding Societies" ชี้ทิศทาง SME ไทยปี 2568: โอกาสใหม่ในยุคดิจิทัลและการใช้ AI ขับเคลื่อนการเติบโตทางการเงิน
 
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.68 นายวิกาส เจน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Funding Societies ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเติบโตของธุรกิจสินเชื่อดิจิทัลกำลังเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่ม SME ที่ยังคงมีความท้าทายในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากระบบการเงิน การตอบสนองความต้องการของตลาดนี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญสำหรับผู้ให้สินเชื่อดิจิทัลอย่าง Funding Societies แพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลแบบครบวงจรสำหรับ SME ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญในตลาดสินเชื่อดิจิทัลในประเทศไทย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Funding Societies ประเทศไทย แบ่งปันมุมมองและทิศทางการเติบโตของธุรกิจในปี พ.ศ. 2568 รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อนการให้บริการและการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจ SME ว่า แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2.4% ถึง 3.5% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่น่าสนใจในช่วงการฟื้นตัวหลังจากวิกฤตที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกัน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้สถาบันการเงินต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม นายวิกาสมองว่า สถานการณ์นี้กลับเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับผู้ให้สินเชื่อดิจิทัลหรือฟินเทค ที่สามารถเติมเต็มช่องว่างทางการเงินให้กับ SME โดยการใช้เทคโนโลยีทางการเงินที่ทันสมัย ซึ่งสามารถให้บริการสินเชื่อที่ตอบโจทย์ได้แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการค้าระยะสั้นที่มีความยืดหยุ่นและสะดวกสบายในการเข้าถึง

Funding Societies ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่กว่า 30% โดยเน้นไปที่การให้บริการสินเชื่อที่ช่วยสนับสนุนวงจรธุรกิจของ SME เช่น สินเชื่อหมุนเวียนจากลูกหนี้การค้าและสินเชื่อสำหรับบริหารบัญชีเจ้าหนี้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของ SME ที่มักมีปัญหาด้านสภาพคล่องในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน นายวิกาสยังเสริมว่า ปัจจัยที่สำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตในปีนี้คือการสนับสนุน SME ที่ยังไม่ได้รับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินทั่วไป โดยเฉพาะธุรกิจที่ยังไม่มีประวัติทางการเงินหรือหลักประกันที่เพียงพอเพื่อส่งผู้ประกอบการคว้าโอกาสเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน 

เมื่อถามถึงกลุ่มธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่ Funding Societies มุ่งเน้นในปีนี้ นายวิกาสกล่าวว่า FS ไม่ได้จำกัดแค่ภาคธุรกิจใดภาคธุรกิจหนึ่ง แต่เชื่อว่า ทุกอุตสาหกรรมมีลูกหนี้ที่มีคุณภาพแม้ในช่วงเศรษฐกิจผันผวน  โดยให้ความสำคัญกับการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม B2B หรือ B2C สำหรับกลุ่ม B2B จะมีสินเชื่อหมุนเวียนจากลูกหนี้การค้าและสินเชื่อสำหรับห่วงโซ่อุปทาน ส่วนกลุ่ม B2C ก็มีสินเชื่อใบสั่งซื้อและสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน ที่เหมาะสมกับธุรกิจที่ไม่ต้องการหลักประกันใดๆ  นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อที่รับประกันด้วยทรัพย์สิน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าที่มีสินทรัพย์แต่ไม่สามารถเข้าถึงการเงินจากสถาบันการเงินทั่งไปได้ 

โดยการใช้เทคโนโลยี AI ในภาคการเงินเพื่อปรับปรุงกระบวนการอนุมัติสินเชื่อและประสิทธิภาพในการทำงานจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ  โดยระบุว่า AI เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่ต้องทำซ้ำๆ เช่น กระบวนการอนุมัติสินเชื่อ การตรวจสอบเอกสาร รวมถึงการใช้ AI ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการลูกค้า ผ่านการใช้ AI Co-Pilots เพื่อช่วยให้ทีมงานทำงานได้เร็วขึ้นและตัดสินใจจากข้อมูลที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างของการใช้ AI ในการให้บริการของ Funding Societies คือ SHANE ซึ่งเป็นผู้ช่วยทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ช่วยจัดการคำถามของลูกค้า ตรวจสอบเอกสาร และให้บริการลูกค้าหลายภาษา 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีการทดสอบ AI Voice Agents ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการเก็บเงินและติดต่อกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น วิกาส กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการหาสมดุลระหว่างการทำงานอัตโนมัติและความเชี่ยวชาญของมนุษย์ โดยเชื่อว่า AI จะช่วยเสริมการตัดสินใจของมนุษย์ ไม่ใช่ทดแทนมนุษย์ในการตัดสินใจเรื่องที่สำคัญ SME เป็นเสาหลักที่ช่วยสร้างงานและเสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น มีส่วนสำคัญในการกระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และเสริมความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระดับโลก SME จึงต้องสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Funding Societies | Modalku เป็นแพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลสำหรับธุรกิจ SME ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทได้รับใบอนุญาตในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย จดทะเบียนในมาเลเซีย และดำเนินการในเวียดนาม บริษัทฟินเทคนี้ให้การสนับสนุนการเงินแก่ธุรกิจ SMEs จำนวน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ตั้งแต่เริ่มต้นการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดการชำระเงิน บริษัทได้ประมวลผลมูลค่าการทำธุรกรรมรวม (GTV) ต่อปีที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากการเข้าซื้อกิจการแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลในภูมิภาค CardUp ในปี 2022