"ทสจ.สมุทรสาคร" จัดอบรมให้ความรู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ-ก๊าซเรือนกระจก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 68 ที่ภัตตาคารนิวรสทิพย์ ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นายเชษฐ พวงจิตร ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร ได้เป็นประธานเปิดงานกิจกรรมการอบรม “ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับหน่วยงานภาครัฐ“ โดยมี หน่วยงานภาครัฐของจังหวัดสมุทรสาคร สนใจเข้าร่วมรับฟังจำนวน 80 ราย
นางสุภาพ ศรีจันทร์ ผอ. ทสจ.สมุทรสาคร กล่าวในฐานะผู้จัดงานดังกล่าวว่า สำหรับเรื่องความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ทั้งนี้โดยประเทศไทย ก็ได้เข้าร่วมเป็นภาคีกรอบอนุสัญญา สหประชาชาติซึ่งว่าด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเมื่อการประชุมสมัยที่ 26 หรือ COP26 ประเทศไทย ตามเป้าหมายเราเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 หรือ พ.ศ.2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจก สุทธิเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2065 (หรือปี 2608)
ดังนั้น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าวจึงได้มีการบูรณาการร่วมกันหลายๆ ภาคส่วน กรณีร่วมผลักดัน และขับเคลื่อนการดำเนินงานหวังลด การปล่อยก๊าซเรือนกระจก สำหรับในด้านของทางจังหวัดสมุทรสาครนั้นได้มีการประเมินเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 พบว่า มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 6.66 ล้านตัน คาร์บอนไดออกไซด์ได้เทียบเท่า อยู่ในลำดับ 8 ของประเทศ
ผอ. ทสจ.สมุทรสาคร กล่าวว่า โดยที่ผ่านมาได้ตั้งเป้าหมายในการช่วยลดก๊าซเรือนกระจกไว้ 15% ในปี พ.ศ. 2573 พร้อมทั้งได้มีกำหนดมาตรการด้านลดก๊าซเรือนกระจก และมีแนวทางการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ให้สามารถบรรลุเป้าหมายไว้ ภายใต้กลไกลการขับเคลื่อนของคณะทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงฯในระดับจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานฯ
สำหรับกิจกรรมกาน “ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับหน่วยงานภาครัฐ” ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ก็เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ สถานการณ์โลกร้อน และความรู้ในขั้นพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลง ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามเป้าของจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งเพื่อส่งเสริมและสร้างความตระหนักให้หน่วยงานภาครัฐได้ร่วมกันเตรียมพร้อมรับมือจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนั้น ได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. มาบรรยายให้ความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลง และปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มาตรการตามเป้าหมาย จากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต"