การยาสูบฯ ประกาศแผนเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน มุ่งเป็นองค์กรต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อม เร่งผลักดันเป้าหมาย Net Zero ให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 นายภูมิจิตต์  พงศ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ประกาศวิสัยทัศน์และแผนงานสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมเดินหน้าปรับกระบวนการผลิตและการดำเนินงานขององค์กร เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ ด้วยความมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อม และเร่งผลักดันเป้าหมาย Net Zero ให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด โดยมีที่ปรึกษาโครงการจากบริษัท Energy Prime ร่วมนำเสนอผลการศึกษาพร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน ซึ่งเน้นย้ำถึงความท้าทายและโอกาสขององค์กรในการบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality รวมถึงแนวปฏิบัติที่สามารถนำไปปรับใช้ให้แก่คณะผู้บริหาร ยสท. ที่เข้าร่วมรับฟัง ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารโรงพยาบาลสวนเบญจกิติเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา การยาสูบแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่

นายภูมิจิตต์  พงศ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการ ยสท. กล่าวว่า ความเป็นกลางทางคาร์บอนไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นสำหรับองค์กรยุคใหม่ ยสท. ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ เรามุ่งมั่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากทุกกระบวนการดำเนินงาน รวมถึงนำพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีสีเขียวมาใช้ โดยเน้นให้เห็นถึงมาตรการเชิงรุกที่เริ่มดำเนินการแล้วในทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างชัดเจนในระยะเวลาอันใกล้ เราไม่ได้แค่ตั้งเป้าหมายระยะยาว แต่เริ่มลงมือทำทันที เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่จับต้องได้ และเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนโดยเร็วที่สุด

นายศรันย์  ศรีพิพัฒน์ ผู้จัดการโครงการจากบริษัท Energy Prime ที่ปรึกษาโครงการฯ ได้นำเสนอผลการศึกษาและแนวทางดำเนินงานซึ่งได้วิเคราะห์และกำหนดแนวทางที่เป็นรูปธรรมในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร ครอบคลุมทั้ง ยสท. ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยมีมาตรการสำคัญสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ของ ยสท. ได้แก่ ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานหมุนเวียน เพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจก และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับ

นายอานนท์  โห้วงษ์ รองผู้ว่าการด้านพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์องค์กร ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานดำเนินโครงการสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ของ ยสท. กล่าวว่า การเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร และกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซในระยะยาว จากนั้นจะสามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการต่าง ๆ เช่น การใช้พลังงานจากแหล่งทดแทน หรือการลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น ทั้งนี้ ประเทศไทยเตรียมออกกฎหมายพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีการเรียกเก็บภาษีคาร์บอนจากสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก วันนี้ ยสท. ได้ประกาศแผนงานดังกล่าว เพื่อให้สามารถเดินหน้าสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้

ยสท. เชื่อมั่นว่าความร่วมมือจากพนักงานขององค์กร จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้แผนงานนี้ประสบความสำเร็จ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม งานประกาศแผนสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ ยสท. ในการเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคมและเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรม และสามารถเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมได้ในอนาคตอันใกล้